พ่อตาบอดเครียดหนัก ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังถูกแก๊งเงินกู้ตามจี้ที่บ้านทุกวัน ข่มขู่ให้ใช้หนี้แทนลูกสาว ฟากลูกสาวช้ำหนัก ร้องขอความเป็นธรรม ยันไม่ได้เป็นหนี้พนันตามข่าว ทนายสงกาญ์ แนะ เปิดโต๊ะเจรจาเจ้าหนี้
วันที่ 10 ส.ค.64 น.ส.พยุง ไชยสงค์ ลูกสาวที่ถูกกล่าวหาว่าหนีหนี้ จนเป็นเหตุให้พ่อผูกคอตาย และ สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ ถกไม่เถียง ออกอากาศทางช่อง 7HD ถึงกรณีข่าวพ่อตาบอดผูกคอลาโลก เหตุเครียดเจ้าหนี้ข่มขู่ให้ใช้หนี้แทนลูกสาว
น.ส.พยุง ไชยสงค์ ลูกสาวที่ถูกกล่าวหาว่าหนีหนี้ เผยว่าตนเองเป็นหนี้นอกระบบเกือบ 3 หมื่นกว่าบาท โดยเริ่มจากกู้เงิน 6,000 บาท เพื่อเอามาใช้จ่ายในครอบครัว และทำการค้า ไม่ใช่หนี้พนันตามที่มีสื่อเสนอไป เรารู้จักเจ้าหนี้เพราะคนรู้จักกัน ช่วยกันค้ำ เขาก็ชวนว่าจะกู้ด้วยไหม เราก็กู้ด้วย ช่วงนั้นเราพอส่งได้ แต่ช่วงนี้เราส่งไม่ไหว โดยหนี้ 6,000 บาท ต้องส่งให้เจ้าหนี้วันละ 300 บาท แต่โควิดมาพอดี ทำให้หาเงินไม่ได้ ก็ต้องไปกู้เพิ่มอีก 6 เจ้า เฉลี่ยส่งดอกทั้งหมด 6 เจ้า วันละประมาณ 2,000 บาท ด้วยความที่เราต้องหาเงิน ให้เพื่อนนช่วยค้ำประกัน จนตอนนี้เพื่อนหนี เราก็ส่งของเรา เราไม่ได้หนีไปไหน แต่เราไม่มีทางออก เจ้าหนี้เจ้าจะมาสิบโมงถึงบ่ายสอง เราก็บอกแม่ว่าช่วงนี้ขอหลบไปก่อน เพราะไม่มีจ่าย แล้วเย็นๆ จะกลับมา เราก็พยายามจะหาเงินมาใช้ เขาบอกว่าถ้าไม่มีจ่ายก็จะไปหาแม่ เขาก็เข้าไปหาแม่เรา ไปทวงแม่เรา แม่ก็วิ่งไปยืมคนในหมู่บ้านมาให้เขา ยืมแทบจะทุกคนในหมู่บ้านแล้ว แต่ไม่ได้ เจ้าหนี้ก็บอกต้องหาให้ได้ ถ้าไม่มีจ่ายให้เขาก็บอกให้ทบไปพรุ่งนี้ก็แล้วกัน มันก็เพิ่มขึ้นเรื่อย เมื่อก่อนเราจ่ายตรงตลอด แต่มันช็อตพอดี เจ้าหนี้เคยบอก "ถ้าจะหนีก็หนีไปให้ไกลๆ อย่าให้กูเห็น ถ้ากูเห็นจัดหนักแน่"
ทั้งนี้ คุณพยุง เล่าว่าตนเองสนิทกับพ่อกับแม่มาก มีอะไรก็ปรึกษากันตลอด พ่อกับแม่ก็ปรึกษากันว่าจะหาเงินมาจากไหนใช้หนี้ แต่พอเจ้าหนี้มาหาไม่เจอเรา เขาก็ไปหาพ่อกับแม่เลย เราก็บอกแม่ว่าถ้าพวกเขามาไม่ต้องจ่ายนะ ให้บอกไปว่าไม่มี พยุงไม่อยู่ที่นี่แล้ว ไม่มีอะไรจะให้
วันที่พ่อจากไป เจ้าหนี้รายวันเขาให้เราหาเงินให้ แต่เราหาไม่ทัน เราขอหลบออกไปอยู่ข้างนอกก่อน เราบอกแม่ไว้ว่าไม่ต้องหาให้เขาแล้วนะ เพราะมันยืมใครไม่ได้แล้ว แต่เขาก็หาให้อยู่ดี พ่อบอกว่าลูกทั้งคนใครจะไม่ช่วย พ่อเลยให้คนไปหา ไปตามเรากลับมา เราตัดสินใจจะสู้ เราก็ถามว่าพ่อทำไมผมอมจัง เราก็คุยกับแม่ว่าจะไปกรุงเทพฯนะ เราก็ไม่รู้ว่าพ่อได้ยินรึเปล่า เดาว่าพ่อไม่อยากให้เราเข้ากรุงเทพฯ เพราะแกก็ซึมๆไป ไม่รู้พ่อคิดยังไง เช้าวันต่อมาก็ไปเจอพ่อผูกคอตายแล้ว เรารับไม่ได้เลย ตอนนั้นฟ้ายังมืดเห็นแค่เงาก็รู้ว่าเป็นพ่อ เพราะเช้าวันนั้นแม่หาพ่อไม่เจอ เราเห็นเราก็รับไม่ได้ ยืนตัวสั่น ในวันที่ผูกคอตายก็ยังมีเจ้าหนี้มาทวงหนี้ 2 เจ้า แม่ก็ไล่เขากลับไป บอกไม่มีจ่ายหรอก เห็นไหมมีคนเครียดผูกคอตายแล้ว เขาก็เลยกลับไป พยายามถามคนที่ไปช่วยว่าที่เขาผูกคอตาย ข้างตัวมีไม้เท้าของพ่ออยู่ไหม เขาก็บอกว่าใช่ มีอยู่ข้างตัว เรามองว่าเขาเดินไปเอง ตัดสินใจจริงๆ
สำหรับเรื่องการขายที่เพื่อใช้หนี้ ยืนยันว่าเป็นการใช้หนี้เรื้อรังที่มีมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่หนี้ที่เกิดจากการพนัน ส่วนเรื่องการขายควาย ก็เป็นการขายควายเพื่อไปซื้อวัว ส่วนข่าวที่ว่ามีเจ้าหนี้ตามมาทวงหนี้ถึงงาน เขาไม่ได้มาทวงเรา แต่มาทวงคนที่มาร่วมงานศพ ตอนนี้เป็นข่าวดัง เราก็กลัวว่าเขาจะบุกมาบ้านเราอีก กลัวไม่ปลอดภัย เราโดนคนโจมตี มีคนบอกว่าพ่อตายเพราะเรา เราก็ไม่คิดว่าเขาจะทำแบบนี้ เพราะช่วยกันแก้ไขกันมาตลอด ตอนนี้ก็สบายใจขึ้น เพราะเราได้พูดความจริง ก่อนมารายการเราก็โทรปรึกษาหลายคน ที่ออกข่าวไปว่าเราเล่นพนันออนไลน์แล้วหนี้เยอะ วันนี้เราได้อธิบายแล้ว ก็สบายใจขึ้น
ฟาก ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ตั้งข้อสงสัยว่า คนตาบอดจะมีความพยายามหยิบเก้าอี้ เดินไปผูกเชือก แล้วฆ่าตัวตายได้จริงๆ หรือ ถือเป็นการตายที่ผิดธรรมชาติ ต้องส่งชันสูตร แล้วทำไมต้องรีบเผา ส่วนเรื่องหนี้สิน อยากฝากไปถึงเจ้าหนี้ว่า ช่วงโควิดแบบนี้ อยากให้นึกถึงความเป็นคนของคุณบ้าง ช่วงนี้อยากได้เงินก็เข้าใจ แต่ก็ต้องเข้าใจลูกหนี้บ้าง ไปทวงหนี้แบบข่มขู่แบบนี้ มีโทษครับ เรื่องนี้ต้องฝากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ครับ มีเจ้าหนี้ต่างถิ่นมาหากินถึงบุรีรัมย์ กระทำการข่มขู่ต้องปราบให้หมดครับ
ทั้งนี้ ทนายสงกาญ์ เสนอให้เปิดโต๊ะเจรจาเจ้าหนี้เป็นโมเดล แนะว่าไม่ต้องหนีไปไหน แต่ให้มาคุยกันให้จบบนโต๊ะเจรจา เคลียร์ไปเลยว่ามีหนี้เท่าไหร่ เจ้าหนี้ปล่อยดอกเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ หรือต้องชดใช้หนี้อีกเท่าไหร่
ด้าน พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผกก.สภ.ลำปลายมาศ เผยความคืบหน้าเบื้องต้น ประเด็นแรก การผูกคอตาย กนง.สอบสวนเวรร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลลำปลายมาศ ชันสูตรพลิกศพ แพทย์ระบุว่าไม่มีการทำร้ายร่างกาย เชื่อว่าเกิดจากการผูกคอตายจริง ส่วนเรื่องที่ผู้ตายตาบอด จากการสอบถาม คุณแม่คุณพยุง และผู้นำท้องถิ่น เชื่อว่าผู้ตายอาจจะจำทางได้ มีความชำนาญเดินไปที่ต่างๆ บริเวณบ้าน หรือที่นา เขาเดินอยู่เป็นประจำ ซึ่งทั้งหมดทางตำรวจดำเนินการตาม 140 ทุกประการ
ส่วนเรื่องเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ นอกจากเจ้าหนี้ 6 ราย รายละ 6,000 แล้ว ยังมีเรื่องปล่อยทอง จากการที่ตำรวจคุยกับคุณพยุงเบื้องต้นมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ผู้เสียชีวิตตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง เมื่อวานนี้ทางตำรวจก็ได้มีการจับคนทวงหนี้ไปแล้วหนึ่งราย ส่วนเรื่องการใช้หนี้ โดยทั่วไป ถ้าเป็นหนี้ดอกต้องไม่เกินร้อยละ15 ต่อปี ถ้าลูกหนี้มีการใช้หนี้เกินจากที่กฎหมายกำหนดก็ถือว่าต้องพับหนี้ ส่วนทองต้องดูว่าเขาทำสัญญาอะไรกันไว้ เรื่องหนี้นอกระบบก็จะมีการตามจับกุมต่อไป ซึ่งตอนนี้เราทราบว่าเจ้าหนี้เป็นใคร เราได้ข้อมูลหมดแล้วครับ ทางออกที่ดีคือเปิดโต๊ะเจรจาเลย ผมยินดีเป็นตัวกลาง เป็นหนี้เท่าไหร่ก็ต้องใช้เขา แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายด้วย
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com