ไม่ไหวบอกไหว! ศพโควิดต่อคิวหน้าเตา เผาจนเมรุพัง น้ำมันขาดแคลน

        โควิดระบาดหนัก ผู้ป่วยอาการโคม่าเพิ่มสูง ผู้ติดเชื้อล้มตายเป็นใบไม้ร่วง ซ้ำยังหาวัดรับเผาศพยาก วัดไหนประกาศเผาศพโควิดฟรี ก็มีศพถูกส่งมาให้เผาต่อเนื่อง จนเมรุพัง บางวัดเผาไม่ทันต้องสร้างเตาเผาเพิ่ม เปลี่ยนจากระบบถ่าน เป็นระบบน้ำมัน ซ้ำน้ำมันก็ไม่พอใช้ 

 

      วันนี้ (4 ส.ค.2564)  รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เปิดใจสัมภาษณ์ พระสมุห์บุญเกิด ฐานุตตโร เจ้าอาวาสวัดบางม่วง และ นายไพรัช สุดธูป ไวยาวัจกรวัดราษฎร์ประคองธรรม

 

 

        พระสมุห์บุญเกิด ฐานุตตโร เจ้าอาวาสวัดบางม่วง เผยถึงสถานการณ์ตอนนี้ วัดเผาศพอยู่ที่วันละ 8 - 14 ศพ ซึ่งยังถือว่าวัดยังทำไหว โดยทำตั้งแต่เช้ายันดึก โดยวัดบางม่วง จะร่วมมือกับ วัดราษฎร์ประคองธรรม ช่วยๆกัน สำหรับการเผาศพผู้ติดเชื้อ จะเริ่มจากทางโรงพยาบาลประสานมา เพื่อนำศพมาเผา โดยพระจะมีพิธีสวดให้ พระทำหน้าที่ทุกอย่าง เป็นทั้งพระ และสัปเหร่อ ตอนนี้เตาเผาแรกที่วัดพังไปแล้ว และมีการสร้างเตาเพิ่ม ตอนนี้วัดบางม่วงมีเตาเผาศพแล้ว 3 เตา มีศพที่เผามาแล้ว 158 ศพ (ยอดถึงสิ้นเดือน ก.ค.64) ตอนนี้ปัญหาที่วัดเจอคือ เชื้อเพลิงที่ใช้ในการเผาศพไม่เพียงพอ วันนึงวัดใช้น้ำมันประมาณ 1,000 ลิตร แต่ละศพใช้เวลาในการเผาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 80 ลิตรต่อศพ เมรุก็เผาไปซ่อมไป ซึ่งต่างจากสถานการณ์ปกติที่วัดเผาศพเดือนละ 3 ศพ เท่านั้น ซึ่งตอนนี้การเผาศพผู้ติดเชื้อ วัดก็ไม่มีการเรียกเก็บเงินใดๆทั้งสิ้น เพราะวัดเป็นของญาติโยม ก็แล้วแต่จิตศรัทธา ช่วยตามกำลังอย่าทำให้เดือดร้อน อย่่าทำให้ต้องเป็นทุกข์ หากใครอยากจะช่วยเหลือทางวัด สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เพจ วัดราษฎร์ประคองธรรม

 

 

       พระสมุห์บุญเกิด ฐานุตตโร เตือน ตอนนี้สอนให้เรารู้เลยว่าอย่าใช้ชีวิตประมาท คาดการระบาดรอบนี้น่าจะยาวถึงปีหน้า ต้องระวังตัวเองให้เต็มที่ 

 

 

       นายไพรัช สุดธูป ไวยาวัจกรวัดราษฎร์ประคองธรรม เปิดเผยถึงความยากลำบากในการทำงานว่า การทำงานทุกอย่างมีปัญหาหมด แต่เรามีทีมที่ดี โดย มูลนิธิสยามนนทบุรี มีการบริหารจัดการที่ดี ทุกวันจะออกไปรับผู้เสียชีวิตประมาณ 10 ราย เริ่มตั้งแต่ ตี 1 ตี 2 เป็นแบบนี้มาตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา เราส่งทีมที่ได้รับการอบรมไปบริหารจัดการแล้วนำศพกลับมาวัด ช่วงแรกไปรับศพที่โรงพยาบาล ช่วงหลังมานี้ ปัญหาผู้เสียชีวิตที่บ้านเพิ่มขึ้น จึงต้องไปรับศพที่บ้านทำให้เกิดความล่าช้า เพราะต้องมีกระบวนการจัดการเพิ่มขึ้น โดยจะกระจายศพไปเผาตามวัดในเครือข่ายใน อ.บางใหญ่ ที่รับเผาศพโควิด ซึ่งเราจะไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายเลย และตอนนี้ก็มีมิจฉาชีพคอยตระเวนโทรหาญาติผู้เสียชีวิต ติดต่อว่าจะไปรับศพให้ แต่ต้องเสียค่าน้ำมัน และโลงศพแบบฟรีไม่มี มีแต่โลงศพแบบเสียเงิน 7,000 - 8,000 บาท กล่าวอ้างว่ามาจาก มูลนิธิสยามนนทบุรี หรือวัดราษฎร์ประคองธรรม ยืนยันว่าทางวัดไม่มีการเรียกเก็บเงินแน่นอน และตอนนี้กำลังรวบรวมเอกสาร คลิปหลักฐานทั้งหมด เพื่อเตือนภัย เหตุการณ์แบบนี้ทำให้ชาวบ้านเสียรู้ไปเยอะ

 

       เรื่องที่สะเทือนใจคือ เรารับร่างผู้เสียชีวิตไปเผา แต่ครอบครัวเขาไม่สามารถมาร่วมงานได้ ลูกชายเขาก็ขอให้ผมรับโทรศัพท์เพื่อให้เขาได้พูดคุยและส่งแม่เขาเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับเรื่องชุมชนรอบข้างเขาก็มีความกลัว กลัวว่าควันจากการเผาศพจะมีเชื้อโรคอยู่ สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ คือกลัวตัวเองดีกว่า เราต้องดูแลตัวเองให้ดี เวลาออกไปทำงาน ออกไปไหนมาไหน ต้องระมัดระวังตัวเอง จะได้ไม่เอาเชื้อเข้าบ้าน เป็นการเพิ่มภารภาระให้คนอื่น 

 

 

       เรามีกฎเหล็ก 3 ข้อ คือ 1. ต้องใช้โลงศพของทางวัด ที่มาจากการบริจาคของญาติโยม ไม่มีค่าใช้จ่าย 2. ต้องใช้รถรับศพของมูลนิธิสยามนนทบุรี หรือรถของวัดบางม่วง 3. ต้องทำฌาปนกิจในวัดของโครงการในเครือข่าย อ.บางใหญ่ 7 วัด ถ้าทำตามนี้จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

 

     นายไพรัช เผยสถานการณ์ตอนนี้เรื่องที่น่ากังวลคือ เตียงรักษาไม่เพียงพอ ตอนนี้ไม่ใช่แค่ในกรุงเทพฯเท่านั้น แต่ต่างจังหวัดก็ประสบปัญหาเช่นกัน เราก็มีการนำผู้ป่วยส่งกลับรักษาในต่างจังหวัด โดยการรวบรวมพละกำลังจากหลายๆฝ่าย ไม่ได้ทำคนเดียว เป็นโครงการบ้านหลังสุดท้าย เช่น คนขับรถตู้ไม่ได้ขับแล้ว เขาก็เอารถตู้มาเข้าร่วม แต่ต้องได้รับการอบรม เราก็จะพาผู้ป่วยกลับไปรักษาที่รพ.สนามที่ต่างจังหวัด มันจะช่วยลดความแออัดของผู้ป่วยในกรุงเทพฯ โดยตลอดการเดินทางห้ามแวะเข้าห้องน้ำ เราจะไม่แวะที่ไหนเลย จะให้ผู้ป่วยใส่แพมเพิร์ส มันเป็นโมเดลที่ช่วยลดจำนวนคนติด เอางบมาจากญาติโยมที่ช่วยบริจาค และองค์กร หน่วยงานต่างๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือ