logo ถกไม่เถียง

ทนายอาสา พาเหยื่อร้องสื่อ ด.ต.จากข่าวฉาว บุกอุ้มกระทืบ รีดเงิน บังคับเด็กเดินยา : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

ถกไม่เถียง : จากกรณีทนายอาสาพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความ หลังกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ บุกห้องพัก ไร้หมายค้น ขโมยทรัพย์สิน บังคับให้เป็นเด ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,กด35,ตำรวจ,ดาบตำรวจ,ดต,บังคับ,ซ้อม,กระทืบ,ข่มขู่,วิ่งยา,ยาเสพติด,อุ้มซ้อม,มาเฟีย,รีดเงิน,กระทืบ,ค้ายา,ตบทรัพย์,ดาบคนดัง,กรรโชกทรัพย์,สมุทรปราการ,กักขังหน่วงเหนี่ยว,เดินยา,ดาบฟันเก๋ง,ทนายอาสา

6,599 ครั้ง
|
04 ส.ค. 2564
      จากกรณีทนายอาสาพาผู้เสียหายเข้าแจ้งความ หลังกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ บุกห้องพัก ไร้หมายค้น ขโมยทรัพย์สิน บังคับให้เป็นเด็กเดินยา ทำร้ายร่างกายมาราธอนโชว์ชาวบ้าน สุดท้าย ขู่รีดทรัพย์ก่อนปล่อยตัว
 
      วันที่ 3 ส.ค.64  ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความอาสา  พร้อมด้วย สาวิตรี กิตติพันธ์ (โม)  และ ศักดิ์สิทธิ์ คำมูล (แต้ม) ผู้เสียหาย ร้องเรียนผ่านรายการ ถกไม่เถียง ออกอากาศทางช่อง7HD ประเด็นถูก ด.ต.วีรกรรมฉาวอุ้มกระทืบ รีดเงิน บังคับวิ่งยา 
 
       ศักดิ์สิทธิ์ คำมูล หรือ แต้ม ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองเห็นคลิป ด.ต.ขับรถกระบะชนรถเก๋งชักปืนขู่ ก็จำได้ว่าคือคนที่ทำร้ายตนเอง เพราะมีดที่ตำรวจเอาไปฟันเก๋ง คือมีดของผมเอง ผมทำลายลักษณ์อักษรไว้ พอเห็นเป็นข่าวผมเลยไปแจ้งความ 
 
      สาวิตรี กิตติพันธ์ หรือ โม แฟนสาวของแต้ม เล่าให้ฟังว่าวันที่ถูกทำร้ายร่างกาย พ่อของบังเย็บ ซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่ม โทรมาบอกว่าจะมาที่ห้อง ให้เราเปิดประตูให้ พอเราเปิดประตูห้องให้ ก็เจอพ่อบังเย็บพร้อมกลุ่มชายฉกรรจ์ เข้ามาถามว่าเก็บยาไว้ที่ไหน พอบอกว่าไม่รู้ ก็ทำร้ายร่างกาย ทั้งเตะ ต่อย เอาสากในห้องมาทุบ แล้วถามแต้มว่าอยู่ห้องไหน สักพักเขาพาแต้มไปที่ห้อง เขาก็ให้แต้มนั่งลง แล้วพูดว่า ให้เอายาออกมาให้หมด อย่าให้กูเจอเอง ทั้งๆ ที่เราไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คนพวกนี้ก็ไม่เคยเจอ ไม่เคยรู้จักเลยสักคน เราไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเขา ไม่เคยเจอ ไม่เคยเป็นสายให้เขา แต่เขาก็ทำร้ายร่างกายเรา ใส่กุญแจมือ เสร็จแล้วก็พาขึ้นรถกระบะไปที่คลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ บอกให้กลุ่มผู้ชายเดินยาให้ แต่ทางเราปฏิเสธ เขาก็เลยกระทืบ และเอาปืนจ่อหัว ทั้งที่ใส่กุญแจมืออยู่ จนเพื่อนในกลุ่มร้องขึ้นมาว่าจะมาตายตรงนี้เหรอ เขาก็ยังไม่หยุด ชาวบ้านได้ยินก็เดินมาถามว่ามีอะไรรึเปล่า เขาก็บอกว่าไม่มีอะไรแค่สอบสวนผู้ต้องหา ชาวบ้านเลยเดินจากไป
 
         จากนั้นเขาก็พาไปที่หมู่บ้านเพชรงาม ซึ่งเป็นป่าโล่ง เปลี่ยว และบังคับให้เราเดินยาให้อีก พอเราไม่ยอมทำ เขาก็ไม่ฟังกระทืบกลุ่มผู้ชายอีก ยอมรับว่าเมื่อก่อนเคยเสพยา แต่ตอนนี้ไม่ยุ่งเกี่ยวแล้ว หลังจากนั้น กลุ่มชายฉกรรจ์ก็บอกให้เราหาเงินมาให้ 50,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว แต่เราไม่มีเงิน ก็เลยโทรหาญาติ บอกพ่อแม่ เพื่อขอยืมเงิน แต่ไม่ได้บอกว่าเอาไปทำอะไร ระหว่างนั้น เขาก็โทรสั่งอาหารมากิน คนที่เอามาส่งก็เป็นผู้หญิง ขี่ จยย.มาส่ง สุดท้ายได้เงินมา 15,000 บาท เขาก็พาไปอีกจุดนึงซึ่งเป็นข้างถนน ไปกด ATM เอาเงินมาให้เขา เขาเลยปล่อยตัวออกมา 
 
           ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความอาสา เผยว่า ในคดีนี้สามารถฟ้องข้อหา ลักทรัพย์ ได้ แล้วสามารถดูพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่าจะแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ได้หรือไม่ รวมไปถึงการกักขังหน่วงเหนี่ยว และการติดสินบน ทั้งหมดนี้ได้ไปแจ้งความเรียบร้อยแล้ว และตำรวจรับแจ้งความแล้ว ผมมองว่าถ้าปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำแบบนี้ต่อไป บ้านเมืองจะอยู่อาศัยกันลำบาก ก่อนหน้านี้ผมไปหาหลักฐานมาแล้ว ถ่ายรูปเก็บหลักฐานทุกอย่าง ผมถึงกล้าช่วยน้องเขา ถ้าตำรวจทำขนาดนี้ สังคมจะอยู่อย่างไร ผมไม่แน่ใจว่าตำรวจจริงหรือเปล่า แต่มีคนนึงยืนยันว่าเป็นตำรวจจริง และผมยังดูอีกคดีเป็นคดีทำร้ายร่างกาย รปภ. คนที่ก่อเหตุคือ ด.ต.คนนี้เหมือนกัน ซึ่งคดีนั้นผมมีคลิป โหดกว่านี้อีก
 
          ทางรายการถกไม่เถียง จึงติดต่อไปยัง พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เผยความคืบหน้าของคดีนี้ เบื้องต้นที่ทราบจาก สน.ประเวศน์ ทาง สภ.บางปู ก็ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว หลังจากนั้นก็มีทนายความ นำผู้ต้องหามาให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำแล้ว ที่สภ. บางพลี เพราะเหตุเกิดขึ้นที่นั่น เบื้องต้นสอบปากคำไปแล้ว 1 คน เพราะคนอื่นยังเป็นผู้เยาว์ จึงได้ทำการนัดหมายกับเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เพื่อทำการสอบปากคำอีกที 
 
          สำหรับเรื่องที่ ด.ต.แต่งตั้งทนายความจะฟ้องกลับ เรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ผู้ต้องหาใช้สิทธิ์ของเขา แต่ในหน้าที่ของตำรวจ เมื่อมีผู้เสียหายมาแจ้งความ เราก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น ถ้ามีพยานหลักฐานชัดเจน เราก็จะดำเนินการทางวินัยต่อไป ถ้าผู้เสียหายให้การสอดคล้องต้องกัน ก็สามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงได้ ยืนยันว่าตำรวจไม่มีการช่วยกันเอง เรื่องนี้มันเป็นข้อเท็จจริง คงไม่มีใครไปช่วยใครได้ แต่มันมีกระบวนการสอบสวน ที่ต้องใช้พยานหลักฐานพอสมควร จึงทำให้ต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง มันคงไม่มีใครไปเปลี่ยนอะไรได้ ทางผมจะพิจารณาตามข้อมูลหลักฐานเท่านั้น ส่วนแรกคือ คดีอาญา ที่สน.บางพลีดำเนินการสอบสวนไป ส่วนของผมจะเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเจ้าหน้าที่คนนี้ปฏิบัติจริงหรือไม่ ตามพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการในทางวินัย สำหรับ ด.ต. ท่านนี้ปกติมีหน้าที่เฝ้าห้องขังผู้ต้องหาเท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่สืบสวน หรือสอบสวนจับกุม 
 
        ส่วนเรื่องการออกหมาย หากได้ปากคำผู้เสียหายครบแล้ว ถ้าพยานหลักฐานเชื่อถือได้ก็จะตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และจะมีการเรียก ด.ต.มาให้การ อย่างไรก็ตามจะต้องมีการส่งเรื่องให้ทาง ป.ป.ช. พิจารณาสั่งการว่าจะดำเนินการเอง หรือให้ทางตำรวจดำเนินการ สำหรับในเรื่องของวินัย ผมสามารถสั่งการได้เลยถ้ามันมีมูล แต่ในเรื่องคดีก็คงต้องไปว่ากันในกระบวนการยุติธรรม
 
 
ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/XnHD9LTRf6s

ข่าวที่เกี่ยวข้อง