กลายเป็นประเด็นร้อนแรง หลังจากที่ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าพ่อเวทีนางงามมิสแกรนด์ ซึ่งอยู่ระหว่างรักษาโรคโควิด-19 ใน รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ออกมาไลฟ์ระบายความอัดอั้น แฉว่ามีแพทย์โทรมาบอกว่า ให้ย้ายออกจากโรงพยาบาลให้ไปรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ทั้งที่ตนเองยังไม่หาย ได้ยายังไม่ครบโดส ทำเอาความดันขึ้น และเมื่อบอกว่ายังไม่พร้อม หมอก็ให้เวลา 24 ชม. แต่ระหว่างนั้นจะขอติดกล้องวงจรปิดไว้มอนิเตอร์ดูตลอด จนกลายเป็นกระแสดราม่า
ล่าสุดโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปเสียงระบุว่าเป็นบทสนทนาระหว่างหมอ คุยกับ ณวัฒน์ เพื่อขอเตียงให้คนไข้รายอื่น โดยแพทย์ลงความเห็นสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว อยากจะขอความร่วมมือ เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้มีคนไข้รอเข้าโรงพยาบาลจำนวนมาก ขณะที่ นายณวัฒน์ ตอบกลับว่า ตอนนี้อาการยังไม่ดี คนที่บ้านติดโควิดทั้งหมด อยู่ที่โรงพยาบาลหมดเลย คนรับใช้จะออกจากโรงพยาบาลได้วันที่ 23 ก.ค. ส่วนตัวยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองและไม่สามารถไปใช้ชีวิตปกติได้ มันมีปัญหาอะไรหรือไม่
ก่อนที่ นพ.วิชัย จะตอบว่า มีปัญหา เพราะเราต้องการเตียงให้คนไข้ใหม่ ถ้าเริ่มแข็งแรงแล้ว จะมาใช้สิทธิไม่มีคนอยู่บ้านไม่ได้ ทุกคนมีภาวะแบบนี้เหมือนกัน ดังนั้นแพทย์จึงลงความเห็นให้กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ กระทั่ง นายณวัฒน์ ได้ขอให้ทำหนังสือแจ้งให้ออกจากโรงพยาบาล
และเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ผู้ประกอบกิจการสถานพยาบาลดังกล่าวได้ชี้แจงข้อมูลในเบื้องต้นว่า ในส่วนของคุณณวัฒน์ นั้น ทางโรงพยาบาลได้ประเมินแล้วว่าเป็นผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่อาการพ้นวิกฤต และมีอาการดีขึ้นอยู่ในระยะพักฟื้น (Step Down) ทางโรงพยาบาลจึงดำเนินการให้ผู้ป่วยไปพักฟื้นที่สถานพยาบาลชั่วคราว (Hospitel) หรือให้กลับบ้านเพื่อรักษาต่อเนื่อง
โดยวิธีกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) ตามแนวทางการรักษาแบบ Step-down care ซึ่งจะทำได้โดยความสมัครใจของผู้ป่วย เพื่อจัดเตียงให้กับผู้ป่วยโควิด 19 รายอื่นซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้เตียงรักษาตัวในสถานพยาบาล และเมื่อผู้ป่วยเข้าพักที่ Hospitel หรือกลับไปที่พักที่บ้านแล้ว สถานพยาบาลเองก็จะมีการติดตามอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดทุกวันผ่านระบบ Video Call หรือ Teleconference มีอุปกรณ์วัดไข้และออกซิเจนส่งไปให้ มีช่องทางติดต่อกรณีฉุกเฉิน
หากผู้ป่วยมีอาการทรุดลงก็จะมีการรับตัวผู้ป่วยกลับไปรักษา ณ สถานพยาบาลโดยทันที ซึ่งในกรณีของ นายณวัฒน์ ได้ครองเตียงผู้ป่วยมาแล้วเป็นเวลา 22 วัน ซึ่งแพทย์ก็ได้มีการประเมินแล้วว่าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นสามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้ จึงมีการแจ้งให้ผู้ป่วยทราบแต่อาจจะด้วยการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนระหว่างผู้ป่วยและแพทย์
จึงทำให้ นายณวัฒน์ เกิดความเข้าใจผิดว่าทางโรงพยาบาลให้ออกจากโรงพยาบาลทั้งที่อยู่ระหว่างการรักษา ซึ่งแพทย์ก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับ นายณวัฒน์ แล้วว่าขั้นตอนดังกล่าวเป็นกระบวนการรักษาตามแนวทาง Step-down care ที่ใช้กับผู้ป่วยทุกราย มิได้เลือกปฏิบัติเฉพาะกับ นายณวัฒน์ แต่อย่างใด รวมทั้ง ขณะนี้นายณวัฒน์ ก็ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล โดยกรม สบส.ก็ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ติต่อขอข้อมูลจากคณณวัฒน์ฯ ต่อไป
นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่า ในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากและผู้เสียชีวิตในแต่ละวัน ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของผู้ป่วยและญาติพี่น้อง รวมถึงประชาชนที่ติดตามข่าวสาร ตนจึงอยากฝากให้บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลเอกชนทุกราย ให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโควิด 19 ดำเนินการด้วยความทุ่มเท เสียสละ ทั้งในด้านของการรักษาพยาบาล รวมถึงการสื่อสารกับผู้ป่วยหรือญาติ ก็จะต้องมีความชัดเจนถึงกระบวนการรักษา และมีการชี้แจงถึงความจำเป็นในกรณีที่ต้องให้ผู้ป่วยรักษาตัว ณ ที่พัก เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยและญาติเกิดความวิตกกังวล และขาดความเชื่อมั่นต่อระบบสาธารณสุข
+ อ่านเพิ่มเติม