กรณีคลิปเสียงจากผู้ป่วยโควิด-19 คุยกับโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง โดยมีการเรียกเก็บเงิน 1 แสนบาท เพื่อแลกกับเตียงรักษา และกรณีดราม่า เรียกเก็บเงินค่าทำศพ 15,000 บาท จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียล
วันที่ 20 ก.ค.64 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ให้สัมภาษณ์ใน รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ถึงประเด็นที่มีโรงพยาบาลบางแห่งการเรียกเก็บเงินเพื่อแลกกับการได้เตียงรักษา และประเด็นเรื่องค่าเคลื่อนย้ายศพ และทำศพผู้ป่วยโควิดที่แพงจนเหมือนเป็นการซ้ำเติมญาติของผู้เสียชีวิต
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยืนยันว่าผู้ป่วยโควิด รักษาฟรีทุกกรณี หากผลตรวจออกมาเป็นบวก รัฐบาลได้เตรียมเงินในการรักษาเอาไว้ให้หน่วยงาน หรือโรงพยาบาลที่ท่านไปตรวจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางสปสช.ได้มีข้อตกลงกับโรงพยาบาลเอกชนไว้ด้วยเช่นกัน โดยราคาที่ สปสช.จ่ายนั้นเป็นราคาที่โรงพยาบาลเอกชนเสนอมา เป็นราคาที่ทุกโรงพยาบาลเห็นตรงกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นราคาของห้องทุกชนิด อาหารทุกชนิด หรือบรรดา Hospitel ต่าง ๆ มันจึงไม่มีเหตุให้ไปเรียกเพิ่มจากที่ตกลงกันไว้ ดังนั้นเมื่อมีผู้ไปใช้บริการ ก็จะนำรายการนั้นมาเบิกกับ สปสช. ส่วนใครที่มีประกันสุขภาพ โรงพยาบาลสามารถเก็บจากประกันสุขภาพก่อน แล้วค่อยมาเก็บจาก สปสช. แต่ถ้าไม่มีประกันสุขภาพ จึงมาเรียกเก็บจากสปสช. โดยตรงได้เลย นี่เป็นกติกาที่ตกลงกันเอาไว้ สำหรับค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของผู้ป่วยโควิด ถ้าเป็นสีเขียวจะอยู่ที่ประมาณ 60,000 บาท , สีเหลืองประมาณเกือบ 300,000 บาท และสีแดงจะอยู่ที่ประมาณ 600,000 - 1 ล้านบาท
และตอนนี้ทาง สปสช. ได้มีแนวทางในการดูแลผู้ป่วยใหม่ เปิดช่องทางประชาชนลงทะเบียนด้วยตัวเอง ผ่านเว็บไซต์ สปสช. สู่ระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิดที่บ้าน (Home Isolation) โดยการนำผู้ติดเชื้อโควิด-19 จับคู่กับคลินิกชุมชนอบอุ่น ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือโรงพยาบาล เพื่อเข้าสู่ระบบดูแลติดตามโดยเร็ว ซึ่งผู้ติดเชื้อโควิด สามารถโทรเข้ามาที่ สายด่วน สปสช. 1330 ต่อ 14 หรืออีกช่องทางโดยการแสกน QR CODE หรือกรอกข้อมูลลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตามลิงค์นี้
https://crmsup.nhso.go.th เพื่อเข้าสู่ระบบการดูแล ยอมรับว่าช่วงนี้อาจจะดูแลประชาชนยังไม่ได้เต็มที่ เนื่องจากมีผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ทาง สปสช.กำลังจัดระบบให้รองรับกับปริมาณคนไข้ที่มากขึ้น อย่างสายด่วน 1330 วันนึงมีคนโทรเข้ามาประมาณ 22,000 สาย ทำให้บุคลากรไม่เพียงพอ เราเข้าใจว่าโทรมาแล้วอาจจะไม่ได้รับการดูแลจริง ๆ ตอนนี้ยังมีข้อมูลของผู้ป่วยค้างอยู่ในระบบประมาณหมื่นกว่าคน ทำให้ต้องทำการเคลียร์ผู้ป่วยที่ค้างอยู่ก่อน เรามีงบประมาณ มีทุกอย่าง แต่ไม่มีบุคลากรทางการแพทย์เพียงพอ เราจะพยายามปรับยุทธวิธีใหม่เพื่อให้ทันต่อการดูแล โดยการให้ผู้ป่วยสีเขียวอยู่บ้าน แล้วคัดผู้ป่วยที่อาการหนักจริงๆเข้ารับการรักษา
ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยถึงกรณีเตียงเต็มว่า ทาง สบส.ให้ความสำคัญสูงสุด ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยในระดับไหนก็ให้อยู่ในโรงพยาบาลทั้งหมด ต่อมาได้มีการเพิ่มระบบ Hospitel เข้ามาสำหรับคนไข้ที่มีอาการไม่รุนแรงมาก หรือคนไข้สีเขียว ตรงนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งการพักที่ Hospitel หากคนไข้ตกลงกับโรงพยาบาลเพิ่มเติม เช่น จ้างพยาบาลพิเศษ หรือขออาหารพิเศษ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในตรงนี้ สำหรับ Hospitel มี 25,000 เตียง ตอนนี้เหลือเพียง 100 - 200 เตียงเท่านั้น จึงได้มีมาตรการให้คนไข้ใช้บ้านเป็นสถานที่รักษาตัวได้ เรียกว่า Home Isolation สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่หนัก แต่หากบ้านไม่เหมาะ สามารถประสานไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ เพื่อนำไปอยู่ที่ Community Isolation ได้
สำหรับคนไข้ที่ใช้มาตรการ Home Isolation ทางหน่วยงานจะมีอุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดไข้ วัดออกซิเจน มียารักษา และอาหาร 3 มื้อให้ส่งไปที่บ้าน และหากมีอาการหนักขึ้น ก็จะมีการส่งรถไปรับมาเพื่อรักษาที่โรงพยาบาล เรื่องการตรวจเจอที่ไหน ต้องไปรักษาที่โรงพยาบาลนั้น ตอนนี้ได้มีการปลดล็อกแล้ว โดยสามารถให้รักษาตัวที่บ้านได้ ซึ่งหากพบหน่วยงานใด หรือโรงพยาบาลใดเรียกเก็บเงิน สามารถแจ้งมาได้ที่ สายด่วน กรม สบส. 1426 ยกเว้นมีการร้องขอการบริการที่นอกเหนือจากการรักษาขั้นพื้นฐานทางการแพทย์
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com
+ อ่านเพิ่มเติม