โทนี่ ยืนยันกลับไทยแน่ ลั่นเข้าประตูหน้าสุวรรณภูมิ แนะรัฐอย่าตัดน้ำ-ตัดไฟ-สัญญาณมือถือ ในภาวะลำบาก

         โทนี่ Work From Dubai เปิดให้ประชาชนสอบถามผ่านคลับเฮ้าส์ ขอหน่วยงานรัฐอย่าตัดน้ำ-ตัดไฟ-สัญญาณโทรศัพท์ประชาชน แนะบูรณาการ 30 บาท รักษาทุกโรค สู้กับวิกฤต โควิด ลั่นถ้าผมอยู่ เตียงไม่มีเต็ม ยันกลับไทยแน่ เข้าประตูหน้าสุวรรณภูมิ

 

         วันที่ 13 ก.ค. โทนี่ วู้ดซัม หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเสวนาผ่านคลับเฮาส์ของกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย ตอน ล็อกดาวน์แล้วยังไงต่อ

 

       ช่วงหนึ่ง ที่มีการเปิดให้ประชาชนทั่วร่วมถามตอบ มีผู้ตั้งคำถามกับโทนี่ ซึ่งระหว่างการตั้งคำถามนั้น มีน้ำเสียงที่สั่นเครือ โดยถามว่า "เราเป็นคนไทย ทุกวันนี้เศรษฐกิจแย่มาก ทุกๆคน ทุกๆบ้านเรือน ประชาชนทุกคนลำบาก ทั้งวัคซีน และบริหารจัดการ มันไม่เคยมีบริหารจัดการครั้งไหนย่ำแย่เท่าครั้งนี้มาก่อน และเรารู้สึกเราไม่สามารถฝากอะไรไว้กับรัฐนี้ได้อีกแล้ว ตอนนี้เจ๊งระนาว พวกเราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน รัฐบาลกู้มามาก แต่หากถึงวันที่ประชาชนถูกลอยแพจากรัฐ เขื่อนแตก แบกไม่ไหว เราเคยเจอต้มยำกุ้ง จะมีวันที่รัฐไทยย่ำแย่อย่าง จะแย่ระดับไหน พวกเรารับมือกันยังไง โดยเฉพาะคนหาเช้ากินค่ำ และเราจะทำยังไงกันดี" 

 

        ซึ่งนายทักษิณ ได้ตอบคำถามนี้ว่า "ผมเข้าใจผู้ถาม และรู้ว่าสถานการณ์ไทยตอนนี้คนลำบากมาก มีคนฝากถามมาว่า มีเงิน 300 จะจ่ายค่าไฟ หรือ ซื้อข้าวกิน แม้วันนี้ ครม.จะสั่งลดค่าไฟ ผมอยากเรียกร้องหน่วยงานรัฐ ขออย่าตัดน้ำตัดไฟเขา ผู้ให้บริการโทรศัพท์อย่าตัด ในภาวะลำบากขนาดนี้ ให้เก็บเงินซื้อข้าว ซื้อนมให้ลูกกินดีกว่า รัฐต้องกลับไปทบทวน เรายังอยู่กับโควิดอีกนาน หลายประเทศเริ่มปรับแล้ว วันนี้ตาย 2 ฝ่าย คือด้วยโควิด และ เศรษฐกิจ ทำไงให้พอดี วันนี้คือวัคซีน เรื่องดูแลสุขภาพ ทุ่มไปก่อนเลย พอทำเรื่องนี้ได้ระดับหนึ่ง ก็เปิดเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าไทยเศรษฐกิจเดินช้าอีกไม่กี่เดือน คนจำนวนมากจะไม่มีกิน คนจนต่างจังหวัด-คนจนเมือง ต่อไปจะเกิดภาพคนนอกข้างถนนกันหมด เพราะไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน 

 

       ถ้าเรายังพูดว่าคนไทยมีศักดิ์ศรีของความเป็นคน เราจะปล่อยให้เกิดสภาพแบบนี้เหรอ? วันนี้เราไม่มีงานทำ เรียนออนไลน์แบบไม่พร้อมทั้งครูและนักเรียน สิ่งเหล่านี้คือของชั่วคราว แต่นี่กำลังทำให้เป็นถาวร ห้ามชินกับสิ่งเหล่านี้ สมมติถ้าผมเป็นนายกฯ จะเร่งวัคซีน เร่งตรวจ บินไปหา ผมไม่ปิดนานแบบนี้หรอก ที่ดูไบ บ้านที่พรรคพวกซื้อ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว วันนี้เป็นหลังละ 10 ล้านแล้ว เพราะเห็นทิศทางนโยบายคงที่แล้ว มีระบบที่ดี ก็เปิดได้เต็มที่ คนป่วยโควิดยังมี แต่ไม่เป็นภัยกับใครแต่ต้องใส่หน้ากาก ดูแลร่างกายให้สะอาด ออกไปไหนต้องตรวจ PCR เป็นกฎให้ปฏิบัติตาม คนก็ไม่เดือดร้อน 

 

          ผมคิดว่าประเทศไทยยังคิดเลียนแบบประเทศมีเงินที่สามารถเยียวยาได้ และเราเยียวยาแบบครึ่งๆกลางๆ ชีวิตคนก็ลำบาก เห็นชีวิตคนที่ไม่ใช่คน ต้องรีบแก้โดยด่วน วันนี้ความไม่พอใจจากการบริหารรัฐบาล มาเลเซียกับไทยบริหารผิดพลาด ที่มาเลเซียคนเริ่มยกธงขาว คนก็เริ่มแชร์อาหาร หรือเปลี่ยนเป็นธงดำเป็นการไล่รัฐบาล ซึ่งแย่กว่าที่ควรจะเป็น วันนี้เราบริหารพลาดกันหมด โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาที่ทำตามประเทศพัฒนาแล้ว" 

 

       ช่วงหนึ่ง มีคำถามจากทางบ้าน ที่ถามว่า ถ้ายังเป็นนายกฯ จะบูรณาการ โครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค เพื่อแก้ไขสถานการณ์โควิดได้อย่างไร โดยโทนี่ได้ตอบว่า  “เป็นผมต้องระดมคนตรวจ ด้วยบุคลากร ซึ่งถ้าคนตรวจไม่พอ ก็จะจัดให้มีการฝึกอบรม ทุ่มทุกสรรพกำลังเข้าไปให้จบโดยเร็ว แยกคนป่วยไม่ป่วย คำว่าเตียงไม่พอต้องไม่มี ลองสั่งดู พรุ่งนี้ ผบ.เหล่าทัพ จัดการให้ ต้องสั่งให้เป็น ทรัพยากรของประเทศเรามีเยอะ” ซึ่งบางช่วง โทนี่เสนอให้ใช้ “ค่ายทหาร” ซึ่งมีพื้นที่กว้าง และสามารถบูรณาการได้ และทำประโยชน์มากกว่าการมีไว้เพื่อฝึก ทำเป็น รพ.สนามขนาดใหญ่ เอาโรงนอนทหารมาทำก็ยังได้ ให้ทหารเกณฑ์กลับบ้าน จะไปใช้ทำไมสนามบินสุวรรณภูมิ

 

        นอกจากนี้ ผู้ร่วมเสวนา ได้สอบถามอ้างอิงจากการเปิดเผยผ่านคลับเฮาส์ ครั้งที่แล้ว ว่าจริงหรือไม่ที่จะกลับประเทศไทย และถ้าลงสุวรรณภูมิ จะลงประตูไหน โทนี่ กล่าวยืนยันว่า กลับไทยแน่ และว่า บางคนบอกให้ เวิร์กฟอร์มดูไบ ยืนยันอีกครั้ง ว่ากลับแน่ แต่บอกเวลาอีกที “ยังไง ไปสุวรรณภูมิ ออกประตูหน้า ไม่ใช่ประตูหลัง” โทนี่ กล่าว ส่วนจะกลับวันไหนนั้นยังไม่บอก