นายกฯ สั่งเบรก ฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ ชี้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ WHO ตั้งข้อสังเกต ให้ไปพิจารณาใหม่อย่างรอบคอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 13 ก.ค. ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เป็นอีกครั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากที่บ้านพัก เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการกักตัว โดยการประชุม ครม.ครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในภาพรวม ทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งได้มีการนำคลิปวิดีโอของ “ดร.สมยา สวามินาธาน” หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่พูดถึงการผสมสูตรวัคซีน เพราะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสุขภาพ มาเปิดให้ที่ประชุมได้รับชม โดยระบุว่า เรื่องนี้ให้หมอเป็นผู้ตัดสินใจ และให้นำข้อมูลของ WHO มาประกอบการพิจารณาให้ถี่ถ้วน
โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดถึงมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติที่ได้แถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่จะให้ฉีดสลับยี่ห้อ จากซิโนแวคเข็ม 1 แล้ว เข็มที่ 2 ให้เป็นแอสตราเซเนก้า, ซิโนแวคเข็ม 1 และ 2 แล้ว ให้บูสเตอร์เข็ม 3 เป็นแอสตราเซเนก้า โดยระบุว่า เรื่องดังกล่าวให้หมอเป็นผู้ตัดสินใจ และนำข้อมูลของ WHO มาประกอบการพิจารณาให้ถี่ถ้วน
ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า สำหรับคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ที่เป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ ไม่ได้มีแค่หมอในกระทรวงสาธารณสุข แต่มีหมอจากหลายภาคส่วนอยู่ในนั้นด้วย
ขณะเดียวกัน ในที่ประชุม ครม. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมกระทรวงการคลังที่รีบชี้แจงเฟคนิวส์เรื่องการจัดเก็บภาษีวัคซีนโมเดอร์นา 100% ที่ไม่เป็นความจริง และโฆษกประจำสำนักนายกฯ นำเรื่องดังกล่าวมาชี้แจงต่อ ทำให้เฟคนิวส์นั้นยุติไปได้โดยเร็ว พร้อมกับกำชับให้ระวังเฟคนิวส์ เนื่องจากเกรงว่าจะมีคนนำประเด็นว่าเหตุใดแอสตราเซเนก้า จึงไม่รีบจัดส่งวัคซีนให้กับไทย ทั้งที่เป็นฐานการผลิตไปทำให้เกิดความเข้าใจผิด นายอนุทินจึงได้รายงานต่อที่ประชุมว่า แอสตราเซเนก้าจะส่งวัคซีนให้ไทยเดือนละ 5-6 ล้านโดส พร้อมกันนี้นายอนุทินยังได้นำข้อมูลมาเล่าให้ที่ประชุมฟังว่า ขณะนี้โครงการโคแวกซ์ (Covax) มีการสั่งวัคซีนซิโนแวคจำนวน 50-60 ล้านโดส เพื่อไปบริจาคประเทศต่างๆ ทั่วโลก
+ อ่านเพิ่มเติม