ทอ. เผยตรวจเชิงรุก พบทหารเกณฑ์ ที่ตั้งดอนเมือง ติดโควิด 290 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาการสีเขียว หลังลงพื้นที่ปฏิบัติงานช่วยประชาชน
วันนี้ (12 ก.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ ระบุถึงการตรวจพบกำลังพลในกองทัพอากาศติดเชื้อโควิด-19 ว่า สืบเนื่องจากได้มีการตรวจเชิงรุกกำลังพล ที่ต้องออกปฏิบัติภารกิจสนับสนุนรัฐบาล และ ศบค.ในพื้นที่เสี่ยงและด่านหน้า เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ทำให้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะกลับเข้าหน่วยมาพักอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม จึงพบว่ากำลังพล 290 นาย จาก 718 ติดเชื้อโควิด-19 แต่ส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง (กลุ่มอาการสีเขียว) จึงเข้ารับการรักษาตามขั้นตอนสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด
โดยกองทัพอากาศ เตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและจัดอาคาร เป็นที่กักตัวแบบ Community Isolation หรือ สถานที่แยกตัวชุมชนของหน่วย แบ่งตามอาการ และมีแพทย์ดูแล จำนวน 199 คน จัดส่งไป โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (ดอนเมือง) จำนวน 52 คน และ โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (โรงเรียนการบิน) จำนวน 39 คน และหากพบกำลังพลมีความเสี่ยงสูง ก็จะส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชต่อไป
โดยทั้งหมดได้รับการดูแลอย่างดี และรับการรักษาตามขั้นตอนที่ทางสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด มีรายละเอียดการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้
1. กองทัพอากาศ จัดเตรียมอาคาร สถานที่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก โดยใช้อาคารกองพันของหน่วย เพื่อจัดเป็น Community Isolation หรือ สถานที่แยกตัวชุมชนของหน่วย ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งประกอบด้วย 2 อาคาร ได้แก่ อาคารสำหรับผู้มีความเสี่ยงสูง และ อาคารสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ (ผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง) โดยอาคารทั้ง 2 แห่ง แยกจากกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
2. ทหารกองประจำการที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด แยกเข้ารับการรักษาภายใต้การกำกับดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ กรมแพทย์ทหารอากาศ ดังนี้
2.1 Community Isolation (สถานที่แยกตัวชุมชนของหน่วย) หรือ อาคารกองพันของหน่วย จำนวน 199 คน
2.2 โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (ดอนเมือง) จำนวน 52 คน
2.3 โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (โรงเรียนการบิน) จำนวน 39 คน
3. สำหรับการดูแลผู้มีความเสี่ยงสูงและผู้ป่วยติดเชื้อ ได้ดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพอากาศดูแลอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อจะได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิและวัดปริมาณออกซิเจน พร้อมลงบันทึกข้อมูลและแจ้งอาการป่วยกับเจ้าหน้าที่ทุกวัน รวมทั้งได้รับการบริการอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อรองรับการดูแลรักษาอย่างเพียงพอ
4. กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง จะนำส่งเข้ารักษาต่อยังโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ
5. สำหรับรายละเอียดไทม์ไลน์ ที่ผ่านมาของผู้ป่วยติดเชื้อนั้น น้อง ๆ ทหารกองประจำการ ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยกลับบ้าน และพักอาศัยอยู่ที่หน่วยตลอดเวลา
สำหรับการติดเชื้อในหน่วยทหารของกองทัพอากาศ ถือเป็นสถานการณ์โรคระบาดที่มีความสำคัญ และกองทัพอากาศติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เมื่อมีการติดเชื้อก็จะเข้าสู่กระบวนการป้องกันและรักษาตามมาตรฐานสาธารณสุข
โดยใช้ศักยภาพของโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพอากาศในการรักษาพยาบาลกำลังพล และควบคุมไม่ให้กระจายไปสู่ภายนอก ซึ่งกำลังพลกองทัพอากาศมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้เช่นเดียวกับประชาชนโดยทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารอากาศมีความห่วงใย และได้กำชับให้กำลังพลเพิ่มความระมัดระวังอย่างสูงสุด เนื่องจากที่ตั้งบางหน่วยเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค กองทัพอากาศขอยืนยันว่าเราจะดูแลน้อง ๆ ทหารกองประจำการ ซึ่งเป็นบุตรหลานของท่านอย่างดีที่สุดภายใต้มาตรฐานการรักษาพยาบาลและขีดความสามารถของหน่วยงานทางการแพทย์ของกองทัพอากาศที่มีอยู่อย่างเต็มกำลังความสามารถ