สุดทรมาน! สาววัย 25 ร้อง หมอผ่าตัดพลาด ทำช่องคลอดทะลุทวาร เจอปัญหาอุจจาระออกทั้ง 2 ช่องทาง

        สาววัย 25 ต้องทุกข์ทรมาน หลังหมอผ่าตัดพลาด ทำช่องคลอดและทวารหนัก ทะลุถึงกัน จนเวลาขับถ่ายอุจจาระ ออกทั้ง 2 ช่องทาง ด้านหมอที่ผ่าตัดบอกปัดไม่ใช่เพราะการผ่าตัด อ้างเป็นมาแต่กำเนิด

 

        วันนี้ (9 ก.ค.2564) รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เปิดใจสัมภาษณ์ น.ส.น้อยหน่า (นามสมมติ) สาววัย 25 ปี ผู้เสียหายกรณีหมอผ่าตัดพลาด , นางมณีรัตน์ ทองระหมาน คุณแม่ของผู้เสียหาย และ ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ทนายความชื่อดัง

 

 

         น.ส.น้อยหน่า (นามสมมติ) สาววัย 25 ผู้เสียหายกรณีหมอผ่าตัดพลาด ทำช่องคลอดทะลุรูทวาร จนทำให้เกิดปัญหาอุจจาระออกทั้งรูทวาร และช่องคลอด โดน เธอเล่าว่า ช่วงแรกๆก่อนที่จะไปผ่าตัด เวลาอาบน้ำคลำช่องคลอดเจอก้อนแข็งๆ อยู่ฝั่งซ้าย ไม่ได้ปวดหรือเจ็บ แต่กังวลว่าจะป่วยเป็นโรคมะเร็งรึเปล่า เลยไปหาหมอให้หมอตรวจ คุณหมอท่านแรกบอกว่าเป็นต่อมบาร์โธลินอักเสบ แต่กินยาไปเดือนนึงแล้วก้อนแข็งก็ยังอยู่ เลยตัดสินใจไปหาหมออีกครั้ง คุณหมอเลยแนะนำให้ผ่าตัด หลังผ่าตัดก็สังเกตว่าทำไมเวลาอุจจาระถึงมีออกมาทางช่องคลอดด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีความผิดปกติอะไรกับร่างกายเลย นี่เป็นการผ่าตัดครั้งแรก จนตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าความรู้สึกของการอุจจาระทางทวารหนักเป็นยังไง ตอนที่หมอนัดติดตามอาการ ก็ไม่ได้บอกหมอในทีแรก เพราะไม่มั่นใจว่าเป็นเพราะแผลยังไม่หายหรือเปล่า เพราะแผลมันก็ยังบวมแดงอยู่ ก็เลยรอเพราะคิดว่าถ้าแผลหายแล้ว อาการอุจจาระและผายลมทางช่องคลอดจะหายไป แต่ตอนนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม ซึ่งหลังผ่าตัด ต้องพักฟื้น 15 วัน ช่วงนั้นไม่สามารถนั่งกินข้าวได้เลย ต้องยืนกินข้าว ไปทำงานก็ต้องยืน ยิ่งถ้าเวลาท้องเสียต้องลางาน ไม่สามารถไปทำงานได้เลย ทุกอย่างลำบากมาก เครียดมากจนน้ำหนักลดไปเป็น 10 กิโลกรัม พอครบ 2 เดือนก็ได้ไปหาคุณหมออีกท่านหนึ่ง เพราะไม่เชื่อใจหมอคนเดิมแล้ว หมอก็ตรวจแล้วบอกว่ามันเกิดการทะลุของผนังกั้นระหว่างช่องคลอดและลำไส้ใหญ่ ต้องผ่าตัดซ่อม แต่อาจจะหายแค่ 80% ถ้าเกิดเป็นอีกก็ต้องกลับมาซ่อมอีกอยู่เรื่อยๆ ไม่รู้ว่าต้องทำถึงเมื่อไร ต่อมาก็มีการพูดคุยกับหมอที่ทำการผ่าตัด เขาบอกว่ามันไม่ได้เกิดจากการผ่าตัด แต่เป็นเพราะความผิดปกติของร่างกายตั้งแต่กำเนิดของเรา โดยทางโรงพยาบาลเสนอว่าจะรับผิดชอบเรื่องการผ่าตัดแก้ไขซ่อมแซมให้ ส่วนเรื่องการชดเชยให้ไปฟ้องร้องตามกฎหมาย หลังจากนั้นเราจึงไปลงบันทึกประจำวันไว้

 

 

        ด้าน นางมณีรัตน์ ทองระหมาน คุณแม่ของผู้เสียหาย ยืนยันว่า ลูกสาวของตนเกิดมามีความปกติ 100% มีหลักฐานบันทึกการคลอดและหลังคลอดของ รพ.ที่ทำคลอดลูกสาว และตนเลี้ยงมาเองกับมือตั้งแต่แรกเกิด หากผิดปกติตั้งแต่แรกตนในฐานะแม่คงต้องรีบรักษาตั้งแต่แรก ไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาจนบุตรสาวอายุ 25 ปี แต่มาเกิดเหตุตอนผ่าตัดครั้งนี้ครั้งเดียว การถ่ายอุจจาระออกมาทางช่องคลอด คิดดูว่ามันจะสกปรกขนาดไหน แล้วในอนาคตลูกสาวต้องแต่งงาน ต้องมีสามี เขาจะทำยังไง

 

 

         ทั้งนี้ พญ.ชัญวลี ศรีสุโข กรรมการแพทยสภา และสูตินรีแพทย์เชี่ยวชาญ อธิบายเรื่องของต่อมบาร์โธลีนว่า คือต่อมน้ำหล่อลื่น ถ้ามีการอุดตันมันจะรวมตัวกันเป็นมูก และกลายเป็นก้อนขึ้นมา แล้วถ้ามีเชื้อโรคเข้าไป ก็จะกลายเป็นฝีบาร์โธลีนได้ ถ้าเป็นต่อมบาร์โธลีนจริง ปกติแล้วมันจะอยู่ไกลทวารหนักมาก ปกติแล้วถ้ามีการผ่าตัดจะเกิดกรณีแบบนี้ได้ยาก ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้น ต้องมาสืบหาว่าเป็นต่อมบาร์โธลีนจริงไหม หรือว่าเป็นฝีคัณฑสูตร ซึ่งเป็นฝีของต่อมน้ำมันของทวารหนัก ที่สามารถทะลุมาช่องคลอดได้ ในกรณีนี้เข้าใจว่าเป็นฝีคัณฑสูตร เพราะมันอยู่ใกล้ทวารหนัก เพราะฝีคัณฑสูตรจะมีช่องที่เชื่อมต่อกับทวารหนัก ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ ด้วยวิธีการฉีดสีว่ามีรูเล็กๆ เชื่อมต่อกับทวารหนักหรือไม่ ถ้าต้องการความชัดเจนต้องไปตรวจ เพราะมันจะเห็นรูที่ชัดเจน การแก้ไขคือผ่าตัดปิดรูนี้ ถ้าเป็นฝีคัณฑสูตรก็สามารถหายขาดได้อย่างแน่นอน 

 

 

        ฟาก ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต พูดถึงประเด็นนี้ว่า หมอหรือแพทย์เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ การที่จะต้องกรีดอะไรลงไป ท่านจะต้องมีการทราบว่าจะมีผลอะไรตามมาหรือไม่ หากปล่อยปละละเลยตรงนั้น ก็หมายความว่าเป็นการประมาท หากเป็นการประมาท ขั้นแรกก็คือไปแจ้งความ เพราะนี่เป็นคดีอาญา แต่ในทางแพ่งนั้น สามารถยื่นฟ้องได้ เพราะโรงพยาบาลเป็นนิติบุคคล และแพทย์ก็เป็นผู้ต้องรับผิดชอบร่วมด้วย แต่มันอาจจะไม่จำเป็นต้องไปถึงการดำเนินคดี ถ้ามีการพูดคุยกัน และมีการรับผิดชอบได้รับการรักษาแล้วทำให้หาย มันก็จะกลายเป็นความสบายใจกันทั้ง 2 ฝ่าย ในความเห็นผม คิดว่าควรให้คนกลางลงความเห็นก่อนว่า ความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นจากอะไร จากความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด หรือความผิดพลาดจากการผ่าตัด ณ วันนี้ผมอยากให้น้องห่วงสุขภาพร่างกายก่อน ในส่วนของค่าเสียหายที่จะชดใช้มันยังพอมีเวลาอยู่ ในกรณีนี้ที่โรงพยาบาลจะผ่าตัดและออกค่าใช้จ่ายให้ แต่ถ้าไปผ่าที่อื่นก็อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง แล้วค่อยมาฟ้องร้องกันต่อไป

 

 

สรุปผลโพล  คุณคิดว่า หญิงสาวรายนี้ จะหายเป็นปกติได้หรือไม่?