ผู้เสียหายรวมตัว แจ้งความกองปราบปราม เอาผิดนายหน้าแสบหลอกขายรถหรูในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด อ้างเป็นรถตัดออกจากการประมูลจากกรมบังคับคดี แต่พบว่ารถทั้งหมดเช่าจากบริษัทเพื่อนำมาขาย ก่อนเชิดเงินหนี เสียหายกว่า 400 ล้านบาท ทนายสงกาญ์ ไม่เชื่อลงมือคนเดียว คาดทำเป็นกระบวนการ
วันที่ 29 มิ.ย.2564 กีตาร์ (นามสมมติ) ตัวแทนผู้เสียหาย ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการถกไม่เถียง ออกอากาศทางช่อง 7HD เผยว่า ตนเองได้รับการติดต่อจากเพื่อนว่ามีรถหรูมาขายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ โดยผู้ที่นำมาขายอ้างว่าเป็นรถจากสำนักงาน ป.ป.ส. หากต้องการรถต้องจ่ายเงินสดเต็มจำนวนเท่านั้น ส่วนเอกสารประจำรถจะนำมาให้ภายหลัง 2-3 เดือน และเมื่อตนเองได้เห็นโปรไฟล์ของนายโน่ นายหน้าหลอกขายรถแล้ว เห็นว่าโปรไฟล์มีความน่าเชื่อถือ มีบ้านราคาแพง และรถหรูหลายคัน ประกอบกับมีคนที่ได้รถไปใช้ได้จริง จึงหลงเชื่อตัดสินใจซื้อรถไป 4 คัน แต่ได้จริงมา 2 คัน อีก 2 คันเขาอ้างว่าต้องเอารถไปตรวจสอบก่อน และในวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าของรถมาติดตามขอรถคืนที่บ้าน จึงสอบถามและทราบว่าเป็นรถที่ถูกปล่อยเช่ามาจากบริษัทแห่งหนึ่ง กระทั่งถูกนำรถคืนไป ส่วนเงินค่ารถที่จ่ายไปกับผู้ที่มาเสนอขายก็ยังไม่ได้รับคืน และขาดการติดต่อ จากนั้นเมื่อหาข้อมูลเพิ่มจึงพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกในลักษณะเดียวกันจำนวนมาก ก่อนจะรวมกลุ่มกันมาแจ้งความ ซึ่งวันที่ไปกองปราบเจอตัวแทนบริษัทรถเช่า ชื่อคุณกฤต อ้างตัวว่าเป็นน้องชายเจ้าของบริษัทรถเช่า แถมอ้างตัวว่าสนิทบิ๊กป้อม สนิทกับผู้กำกับ สน.ทองหล่อ
ด้าน นายนิด (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองรู้จักกับน้องคนนึงซึ่งสนิทกับนายโน่ โดยตนเองก็ซื้อรถตู้จากนายโน่มาในราคา 2.5 แสนบาท เขามีทะเบียนมาให้ สามารถใช้รถนี้ได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องรอเล่ม และจากที่ตนเองเชื่อใจเพราะได้รถมาใช้จริง จึงได้แนะนำคนอื่นต่อ ตนเองจึงถูกมองว่าเป็นคนกลางที่เอารถไปขายต่อให้ญาติๆ เพื่อนสนิทมิตรสหาย แต่ที่มาในวันนี้ มาในฐานะเหยื่อที่เอาไปใช้ล่อหาลูกค้า ตนยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับนายโน่เลย เพราะตนเองก็โดนตามยึดรถเหมือนกัน และโดนวันเดียวกับที่ผู้เสียหายคนอื่นๆโดนยึดรถด้วย
นายบี (นามสมมติ) หนึ่งในผู้ประกอบการให้เช่ารถ ยอมรับว่า รู้จักกับนายโน่ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นผู้ที่นำรถไปขายให้กับผู้อื่น เนื่องจากนายโน่ ได้มาเช่ารถที่บริษัทหลายครั้ง เป็นลูกค้าของบริษัทมานานกว่า 2 ปี ทั้งนี้บริษัทได้ปล่อยเช่ารถยนต์หรูให้นายโน่ไปหลายสิบคัน แต่ไม่ทราบว่าที่จริงแล้วนายโน่จะนำรถไปขายต่อให้กับคนอื่นๆ และตอนนี้ นายโน่ค้างค่าเช่าอยู่ประมาณ 3-4 ล้านบาท ทำให้บริษัทต้องไปติดตามรถคืนจากผู้ที่ซื้อ และขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อกับนายโน่ได้อีก แต่ได้มีการไปแจ้งความนายโน่ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่อง นายกฤต ที่อ้างว่าเป็นน้องชายนั้น ยอมรับว่ารู้จักกัน นับถือศักดิ์เป็นน้องชายกัน โดย กฤต เป็นพนักงานบริษัทที่นี่ คาดว่ากฤต และโน่ น่าจะรู้จักกันมาก่อนหน้านี้
ฟาก ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม แนะนำว่าอย่าไปซื้อรถกับคนที่ไม่ได้มีอาชีพขายรถ เพราะสุ่มเสี่ยงข้อหารับของโจร โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมตั้งข้อสังเกตกรณีนี้ว่า นายโน่ ไม่น่าจะลงมือคนเดียว โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างคนที่ขายรถกับคนที่ปล่อยเช่ารถ ส่วนผู้เสียหายตอนนี้ เหมือนถูกลอยแพ รถก็โดนยึด เงินก็ไม่ได้คืน
สำหรับประเด็นที่ สน.ท้องที่ไม่รับแจ้งความนั้น ถือว่าผิด สน.ท้องที่ต้องรับแจ้งความ จะโยนไปที่อื่นไม่ได้ เราสามารถแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงได้ ถ้ากองปราบไม่ทำ ไปร้องที่ดีเอสไอได้ ตนเชื่อว่ามันต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ทำกันเป็นขบวนการแน่นอน
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com + อ่านเพิ่มเติม