ผู้เสียหายนับร้อยรวมตัวร้องกองปราบ หลังถูกนายหน้าหลอกขายรถหรูในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด อ้างเป็นรถตัดออกจากการประมูล แต่พบว่ารถทั้งหมดเช่าจากบริษัทรถเช่า แล้วเชิดเพื่อนำมาขายต่อ เสียหายมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท
วันนี้ (29 มิ.ย.2564) รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เปิดใจสัมภาษณ์ กีตาร์ (นามสมมติ)และ นิด (นามสมมติ) ผู้เสียหาย พร้อมด้วย ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ถึงวิธีการของนายหน้าแสบรายนี้
กีตาร์ เล่าให้ฟังว่า ตนเองไม่ได้รู้จักกับ นายโน่ นายหน้าขายรถโดยตรง แต่มีเพื่อนแนะนำว่ามีรถจากลานประมูล ปปส. โดยมี เสธ.คนนึงนำรถออกมาได้ เราสามารถซื้อรถและเอามาใช้ได้ก่อน อีก 3 เดือนถึงจะได้เอกสารรถ ตนเองจึงตัดสินใจซื้อเพราะก่อนหน้านี้มีคนได้รถและได้เล่มไปจริงๆ ที่ตัดสินใจซื้อเพราะความเชื่อใจ เพราะเขาอ้างว่าเป็นรถที่ประมูลมาจากลาน ปปส. แถมโปรไฟล์ของนายโน่ก็ดูใช้ชีวิตหรูหรา เหมือนไฮโซคนหนึ่ง ตนเองเลยรู้สึกมั่นใจว่าคงไม่โดนโกง เขามาขายในลักษณะว่าสนใจไหม เป็นรถ ปปส. จ่ายเงินสดรับรถได้เลย ส่วนเอกสารรถรอแค่ 2-3 เดือน จึงตัดสินใจซื้อรถไป 4 คัน แต่ได้จริงมา 2 คัน อีก 2 คันเขาอ้างว่าต้องเอารถไปตรวจสอบก่อน เพราะมันติดในเรื่องของคดีอยู่ ตนเองไม่เคยเจอตัวนายโน่มาก่อน แต่จะซื้อรถผ่านคนกลาง แต่ก็จะแชทคุยกับนายโน่อยู่ตลอด ตอนนี้เสียหายไปทั้งหมด 1.48 ล้านบาท
วันที่โดนยึดรถนั้น ตนเองอยู่ที่บ้าน อยู่ดีๆ พ่อมาบอกว่าเขามายึดรถนะ พอออกไปพบว่ามีชายฉกรรจ์ 5 คนกับผู้หญิง 2 คน เขามาบอกว่ารถคันนี้เป็นรถเช่านะ จะต้องยึดคืน เราก็บอกว่าเรามีเอกสารการซื้อขายนะ เขาก็บอกว่าผมมีกุญแจสำรองผมขับออกไปได้เลย เราจึงตัดสินใจไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน หลังจากนั้น ตนเองก็ไปร้องกองปราบ เพราะ สน.ท้องที่เขาไม่รับแจ้ง เพราะบอกเป็นคดีอาญาให้ไปร้องกองปราบ แต่พอไปร้องกองปราบ เขาก็บอกให้ไปร้อง สน.ท้องที่ ซึ่งวันที่ไปกองปราบเจอตัวแทนบริษัทรถเช่า ชื่อคุณกฤต อ้างตัวว่าเป็นน้องชายเจ้าของบริษัทรถเช่า แถมอ้างตัวว่าสนิทบิ๊กป้อม สนิทกับผู้กำกับ สน.ทองหล่อ ผู้เสียหายหลายๆ คนไปแจ้งความที่ สน.ท้องที่ แต่เขาไม่รับแจ้งความ โดยตำรวจบอกเป็นคดีอาญา ให้ไปร้องที่กองปราบเอา ตอนนี้มีผู้เสียหายที่ไปร้องที่กองปราบประมาณร้อยกว่าคน ยอดเสียหายล่าสุดประมาณ 102 ล้านบาท บางคนโดนไปถึง 18 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายทุกคนโดนยึดรถพร้อมกัน วันเดียวกัน
ซึ่งวันที่โดนยึดรถคืน ตนเองเลยไปตามสืบพวกบ้านหรู รถหรู ที่นายโน่ลงรูปเอาไว้ในโซเชียล ปรากฏพบว่าทุกอย่างเป็นของเช่าหมดเลย เป็นบ้านทิพย์ รถทิพย์ และนายโน่ยังอ้างตัวว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ โดยให้เบอร์มา ชื่อแบงค์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ในลาน ปปส. ตอนหลังปรากฏว่าแบงค์เองก็โดนหลอกเหมือนกัน ได้รับค่าจ้างรายวันให้คอยรับโทรศัพท์ เป็น ปปส.ทิพย์
ด้าน นิด ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่า ตนเองรู้จักกับน้องคนนึงซึ่งสนิทกับนายโน่ โดยตนเองก็ซื้อรถตู้จากนายโน่มาในราคา 2.5 แสนบาท เขามีทะเบียนมาให้ สามารถใช้รถนี้ได้ตามปกติเลย เพียงแต่ต้องรอเล่ม จนมารู้ข่าวเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ว่าผู้เสียหายโดนยึดรถหมดเลย รวมถึงตนเองด้วย และจากที่ตนเองเชื่อใจเพราะได้รถมาใช้จริง จึงได้แนะนำคนอื่นต่อ ตนเองจึงถูกมองว่าเป็นคนกลางที่เอารถไปขายต่อให้ญาติๆ เพื่อนสนิทมิตรสหาย แต่ที่มาในวันนี้ มาในฐานะเหยื่อที่เอาไปใช้ล่อหาลูกค้า ตนยืนยันว่าไม่ได้รู้จักกับนายโน่เลย เพราะตนเองก็โดนตามยึดรถเหมือนกัน
ทางรายการถกไม่เถียง ได้ติดต่อไปยัง คุณบี (นามสมมติ) ตัวแทนบริษัทปล่อยเช่ารถที่นายโน่มาเช่ารถไปหลอกขายต่อ โดย คุณบี เผยว่า โน่เป็นลูกค้าที่มาเช่ารถกับทางเราเป็นเวลานาน เช่าครั้งแรกตั้งแต่ตุลา ปี 2019 โดยใช้เอกสารการเช่าปกติทั่วไป ทั้งเอกสารการขับขี่ เอกสารการทำงาน ซึ่งโน่อ้างว่าทำงานบริษัทพลาสติก โดยนายโน่ขอเช่ารถเป็นรายเดือน รถคันแรกที่เช่าเป็นรถโตโยต้าวีออส จากนั้นก็ทำการเช่ารถกับทางบริษัทเรื่อยมา จนช่วงต้นปีที่แล้ว นายโน่เริ่มขอเช่ารถเพิ่มมากขึ้น โดยเรามีมาตรการการตรวจสอบอยู่แล้วว่าผิดปกติหรือไม่ นายโน่เช่ารถจากบริษัทเราไปทั้งหมด 16 คัน โดยเสียค่าเช่าเป็นล้าน ยืนยันว่าทางบริษัทมีการติดตามดูรถที่นายโน่เช่าไปอยู่ตลอด มีทั้งไปเช็ค ขอเปลี่ยนรถกลับคืน
คุณบี ยอมรับว่ารู้จักกับ กฤต อ้างตัวว่าเป็นน้องชายเจ้าของบริษัทรถเช่า แถมอ้างตัวว่าสนิทบิ๊กป้อม โดย กฤต เป็นพนักงานบริษัทที่นี่ นับถือศักดิ์เป็นน้องชายกัน ส่วนเรื่องสนิทกับใครนั้นตนไม่รู้ สำหรับนายโน่เป็นลูกค้าของบริษัทเรามายาวนานถึง 2 ปี แต่คุณกฤตเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน ซึ่งตนเองคิดว่าคุณกฤตและนายโน่น่าจะรู้จักกันมาก่อนหน้านี้ ส่วนเรื่องการให้การช่วยเหลือผู้เสียหายนั้น ตนเองคงช่วยอะไรไม่ได้ เพราะทางบริษัทก็เป็นผู้เสียหายเช่นกัน โดยตอนนี้นายโน่ยังมีค่าเช่ารถที่ค้างอยู่ประมาณ 3-4 ล้าน และมีการแจ้งความกับนายโน่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฟาก ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม แนะนำว่าอย่าไปซื้อรถกับคนที่ไม่ได้มีอาชีพขายรถ เพราะสุ่มเสี่ยงข้อหารับของโจร โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมตั้งข้อสังเกตกรณีนี้ว่า นายโน่ ไม่น่าจะลงมือคนเดียว โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างคนที่ขายรถกับคนที่ปล่อยเช่ารถ ส่วนผู้เสียหายตอนนี้ ถูกลอยแพก็ว่าได้ พร้อมฝากเตือนว่า หากคุณไปซื้อรถในราคาถูกกว่าปกติ ต้องคิดนิดนึงว่าอาจเป็นการซื้อโดยไม่ชอบ สำหรับประเด็นที่ สน.ท้องที่ไม่รับแจ้งความนั้น ถือว่าผิด สน.ท้องที่ต้องรับแจ้งความ จะโยนไปที่อื่นไม่ได้ เราสามารถแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงได้ ถ้ากองปราบไม่ทำ ไปร้องที่ดีเอสไอได้ ตนเชื่อว่ามันต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ทำกันเป็นขบวนการแน่นอน
"ผู้เสียหายมีจำนวนมากขนาดนี้ แต่โดนยึดรถพร้อมกัน ผมว่ามันไม่ปกติ"
สรุปผลโพล คุณคิดว่า ผู้เสียหายจะได้เงินคืนหรือไม่?
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com + อ่านเพิ่มเติม