ศึกแย่งลูกยังไม่จบ แม่ร้องลูกชาย 5 ขวบ โดนพ่อชาวจีนบุกอุ้มต่อหน้าต่อตา หายไปครึ่งปียังไม่รู้ชะตากรรม : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง
logo ถกไม่เถียง

ศึกแย่งลูกยังไม่จบ แม่ร้องลูกชาย 5 ขวบ โดนพ่อชาวจีนบุกอุ้มต่อหน้าต่อตา หายไปครึ่งปียังไม่รู้ชะตากรรม : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

ถกไม่เถียง : จากกรณีที่พ่อชาวจีน หลังเลิกรากับแม่เด็ก ต้องการเอาลูกกลับไปอยู่ประเทศจีน จึงพาพวกไปชิงตัวลูกชาย อายุ 5 ขวบ จากโรงเรียนที่จังหวัดเชี แย่งลูก,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,กด35,พ่อชาวจีน,หย่าขาด,แย่งลูก,พ่อแม่,ศึกแย่งลูก,เชียงใหม่,พ่อสามี,ชายฉกรรจ์,สามีจีน,แม่ชาวไทย,แย่งสิทธิ์ดูแลบุตร,ทนายเจมส์

5,933 ครั้ง
|
26 มิ.ย. 2564

        จากกรณีที่พ่อชาวจีน หลังเลิกรากับแม่เด็ก ต้องการเอาลูกกลับไปอยู่ประเทศจีน จึงพาพวกไปชิงตัวลูกชาย อายุ 5 ขวบ จากโรงเรียนที่จังหวัดเชียงใหม่ จนครูต้องอุ้มวิ่งหนีเข้าโรงเรียน ที่เป็นข่าวโด่งดังเมื่อปีที่แล้ว และต่อมาช่วงต้นปียังส่งกลุ่มชายฉกรรจ์ เข้ามาอุ้มลูกชายไป ต่อหน้าต่อตาแม่ ตอนนี้ไม่รู้ชะตากรรม 
 
         น.ส.พิชชญานันท์ หลุกแก้ว อายุ 45 ปี เล่าว่าตนเองได้แต่งงานกับผู้ชายชาวจีนคนหนึ่งแล้วจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย  ต่อมาหลังจากที่เธอได้ตั้งครรภ์สามีชาวจีนก็ได้เดินทางกลับไปประเทศจีนและไม่เคยเดินทางกลับมาดูแลตนเองและลูกที่เมืองไทยเลย โดยตนเองต้องเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวมาตลอดระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่คลอดลูกมาจนเมื่อไม่นานมานี้สามีชาวจีนได้เดินทางมาที่ประเทศไทยและได้มาเห็นหน้าลูกชายจึงได้กลับไปประเทศจีนและไปตามญาติพี่น้องของเขามาที่เมืองไทย และเมื่อพ่อสามีเห็นหน้าหลานชายก็เกิดอาการอยากจะได้ตัวหลานชายกลับไปเรียนที่ประเทศจีนทำให้เกิดการยื้อแย่งสิทธิ์การดูแลลูกกันเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ก็ได้มีการยื่นเรื่องขอหย่าขาดจากสามีชาวจีนและมีการส่งเรื่องฟ้องศาลเกี่ยวกับเรื่องของสิทธิ์การดูแลลูก และอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมายอยู่ แต่ตลอดระยะเวลาที่มีการยื่นเรื่องอยู่นั้น สามีชาวจีนและพ่อสามีชาวจีนมักจะนำคนมาข่มขู่อยู่เป็นประจำ อีกทั้งมักจะมีการพยายามที่จะแย่งเอาตัวเด็กไปทั้งๆที่ศาลยังไม่อนุมัติตัดสินออกมา
 
        จนล่าสุด ลูกชายอายุ 5 ขวบ ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อุ้มชิงตัวไปต่อหน้าต่อตากลางร้านสะดวกซื้อ ซึ่งคาดว่าคนที่เข้ามาอุ้มชิงตัวลูกชายไปคือ สามีชาวจีน โดยอุ้มลูกไปให้พ่อสามีที่รออยู่ในรถเก๋งที่จอดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ โดยขณะนั้น ตนพยายามยื้อ และโดดเข้าไปในรถเพื่อจะเอาลูกคืน ในรถมีชายคนขับรถสวมโม่ง มีพ่อสามีอุ้มลูกตนไว้ และมีล่ามชาวจีน ส่วนสามีชาวจีนตนได้กระชากตนลงจากรถจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนพากันขับรถเก๋งออกไป จนตอนนี้ยังไม่รู้ชะตากรรม
 
       น.ส.พิชชญานันท์ กล่าวต่อว่า ตนกับสามีชาวจีนได้มีการฟ้องหย่ากัน และอยู่ในขั้นตอนของขบวนไกล่เกลี่ยขบวนการยุติธรรม รวมทั้งรอคำตัดสินเรื่องการหย่ากัน รวมทั้งเรื่องลูก แต่ปรากฏว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนถูกคุกคามจากสามีชาวจีน ในรูปแบบต่าง ๆ โดยไม่ได้เกรงกลัวกฏหมายของไทยเลย จนต้องไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ตามโรงพักต่าง ๆ ที่สามีไปกระทำไว้ร่วมกับพวก โดยวันที่เกิดเหตุตนได้มาที่ศาลเพื่อให้ฝ่ายชายได้พบกับลูก กระทั่งได้เวลาที่ตนต้องเอาลูกกลับ ทางศาลก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาส่งที่รถ และตนได้ออกจากศาลไป โดยไม่รู้ว่ามีการติดตาม กระทั่งกลุ่มคนร้ายกับสามีของตนมาก่อเหตุดังกล่าว
 
       ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ ก็เคยเกิดกรณีที่ฝ่ายชายบุกไปที่โรงเรียนอ้างว่ามีหนังสือจากศาลมาขอรับตัวลูก ซึ่งครูของโรงเรียนได้โทรศัพท์แจ้งให้ตนมาที่โรงเรียนทันที แต่อีกฝ่ายพยายามชิงตัวลูก จนเกิดการชุลมุนขึ้น ครูที่อยู่ในเหตุการณ์เห็นท่าไม่ดี จึงรีบนำตัวเด็กหลบเข้าไปภายในโรงเรียน ก่อนที่ฝ่ายชายจะแย่งกุญแจรถของตนแล้ว ขับรถหนีไป ตามที่เป็นข่าวดังไปเมื่อปีที่แล้ว
 
        สำหรับสิ่งที่ตนเองเป็นห่วงมากที่สุดในเวลานี้ คือ สวัสดิภาพและสภาพจิตใจของลูกชาย เพราะปกติลูกชายจะอยู่กับตัวเองตลอด และไม่ค่อยชอบหรือคุ้นเคยที่จะอยู่กับพ่อเท่าไร จึงอยากได้ตัวลูกกลับมาโดยเร็วที่สุด ซึ่งเวลานี้ยังไม่ทราบว่าอดีตสามีนำตัวลูกชายไปอยู่ที่ใด ส่วนการดำเนินการตามกฎหมายกับอดีตสามีนั้น เบื้องต้นได้แจ้งความไว้แล้วที่สถานีตำรวจ และขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดำเนินการตามกระบวนการ 
 
        ตอนนี้ได้รับแจ้งว่า อดีตสามีได้พาลูกออกไปที่จีนแล้วทางช่องทางธรรมชาติ ซึ่งก็ไม่รู้ออกไปได้ยังไง  เพราะลูกไม่มีเอกสารอะไรเลย จึงไปร้องกรมการคุ้มครองคนไทยในต่างประเทศ ท่านแจ้งว่าได้พยายามช่วยประสานงานเพื่อให้ได้เจอเด็ก พยายามแจ้งไปกับทางการจีนแล้วว่าเด็กเป็นสัญชาติไทย เชื้อชาติไทย และบอกเหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อขออายัดตัวเด็ก แต่ทางจีนก็ยังไม่ได้ตอบอะไรกลับมา
 
         ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต เผยว่า เรื่องที่เป็นปัญหาก็คือ เรื่องที่อยู่ในศาลเยาวชนและครอบครัว ถ้าเกิดเขาทำผิดจากข้อตกลง ศาลสามารถออกหมายจับได้ ปัจจุบันจะส่งหมายจับไปที่ภูมิลำเนา และตรวจคนเข้าเมืองด้วย ทำให้ออกจากประเทศได้ยาก เขาจึงเลือกใช้วิธีการออกทางธรรมชาติ เมื่อเขามีหมายจับแล้ว เป็นหน้าที่ของกงสุลประเทศไทยประสานกับทางกระทรวงการต่างประเทศด้วย และอาศัยเจ้าหน้าที่ทางจีนช่วยเหลือในส่วนนี้ด้วย ผมมองว่า การที่เด็กเข้าเมืองไปอย่างผิดกฎหมาย ทางการจีนควรจะจับและส่งเด็กกลับทางภูมิลำเนาเดิม ขั้นตอนเบื้องต้น ถ้าเด็กคนนี้เข้าเมืองผิดกฎหมาย ทางการต้องผลักดันตัวกลับมาตามกฎหมาย เอาง่ายๆ เขาบอกว่านี่เป็นลูกเขา เขาจะเอาอะไรมายืนยัน เพราะเอกสารอยู่ที่ฝั่งนี้ทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าเป็นพ่อลูกกันแล้วจะมีสิทธิปกครองลูกทั้งหมด มันต้องแยกกัน
 
 
        ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com