ครอบครัวร้องขอความเป็นธรรม หนุ่มถูกจับคดีปืน สุดท้ายตายปริศนาคาคุก ญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ทั้งสงสัยเรื่องการจับกุมคดี ยันเป็นแพะ 100% จี้ ราชทัณฑ์ และ ตำรวจชุดจับกุมชี้แจง
วันนี้ (22 มิ.ย.2564) รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เปิดใจสัมภาษณ์ ไชยยันต์ รัตนะ และ ปิยะวรรณ รัตนะ น้าของนายกฤษดา มลยง หรือ หมอก อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาคดี พ.ร.บ.อาวุธปืน ที่ได้เสียชีวิตอย่างปริศนาภายในเรือนจำ จ.ตรัง
ไชยยันต์ และ ปิยะวรรณ เล่าให้ฟังถึงวันที่ทราบข่าวว่า หมอก เสียชีวิตว่า ขณะนั้นตนเองอยู่ที่ทำงาน แม่ของหมอกได้โทรมาหาตน บอกว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำโทรมาแจ้งว่าหมอกมีอาการชักเกร็ง และหมดสติ ซึ่งตอนนั้นได้ส่งไปที่โรงพยาบาลตรังแล้ว พอทราบข่าวก็รีบไปโรงพยาบาล แต่พบว่าหมอกเสียชีวิต และร่างอยู่ในห้องเย็นแล้ว โดยแพทย์ที่ห้องฉุกเฉินบอกว่าน้องเสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล และแจ้งว่าญาติมาช้ามาก ทั้งๆ ที่ใช้เวลาแค่ 10 นาทีเพื่อไปถึงที่โรงพยาบาล ยืนยันว่าหมอกเป็นเด็กแข็งแรง เป็นนักกีฬาประจำหมู่บ้าน ไม่มีประวัติรักษาโรคหัวใจ หรือโรคอื่นๆเลย แพทย์ได้ทำการชันสูตรเบื้องต้น ไม่พบรอยบาดแผลภายนอกร่างกาย ตนเองเลยคุยกับญาติในครอบครัว ว่าร่างหมอกให้ส่งไปชันสูตรต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ศพไปถึงประมาณ 4 ทุ่ม ได้คิวผ่าชันสูตรวันรุ่งขึ้น แพทย์ออกมาชี้แจงเบื้องต้นสันนิษฐานว่าหัวใจเต้นผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุการตายที่แน่ชัด ซึ่งตอนที่ตนเองได้รับฟังจากเจ้าหน้าที่เรือนจำ ที่ว่าหมอกอาเจียนแล้วมีเศษอาหารออกมา แต่ผลการชันสูตรของแพทย์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์บอกว่า ไม่มีเศษอาหารติดอยู่ตามหลอดลม ซึ่งมันขัดแย้งกัน ทำให้รู้สึกสงสัย และตั้งแต่วันแรกที่หมอกโดนจับกุม ก็มีความผิดปกติ ยืนยันว่าหลานไม่มีอาวุธปืนแน่นอน
สำหรับประเด็นเรื่องที่หลานโดนจับกุมเรื่อง พ.ร.บ.ปืน นั้น เหตุเกิดเมื่อเดือนตุลาคม ปี 61 หมอกนอนเล่นอยู่บ้าน แต่ นายเจ (นมสมมติ) เพื่อนสนิทโทรมาชวนให้ออกไปซื้อนมผงที่ร้านที่ห่างจากบ้าน 25 กม. พอไปถึงในเมือง นายเจ บอกว่าได้รับโทรศัพท์จากนายสอง (นามสมมติ) ให้เลี้ยวเข้าไปในซอยข้างเทศบาล ให้ไปเอาวัตถุที่ชิ้นหนึ่ง ซึ่งนายเจก็ขับเข้าไปหยิบถุงดำที่บรรจุของชิ้นหนึ่งขึ้นมาแล้วเอามาวางบนตักของหมอก โดยที่น้องหมอกยืนยันว่าไม่รู้ว่าวัตถุนั้นคืออะไร พอกำลังจะออกรถมอเตอร์ไซค์ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรออยู่แล้ว ตำรวจก็ได้กระชากนหมอกลงจากรถ แล้วเข้าจับกุมทั้งคู่ พอแกะห่อถุงดำออกมา กลับพบเป็นอาวุธปืน M16 ซึ่งตนเองติดใจที่ตำรวจไม่ขยายผลว่ามีใครมาวางอาวุธปืนไว้ เพราะทั้งนายหมอกและนายเจไม่ได้ถือมาจากบ้าน ต้องมีคนมาวางไว้ มีลายนิ้วมือใครบ้าง นายเจ เองก็บอกว่า ตัวเองก็ไม่รู้เรื่อง เพราะนายสองบอกว่าให้ไปเอาเหล็กรูมาให้หน่อย ตนเองก็อยากถามสังคมผ่านสื่อ อยากรู้ว่า ‘เหล็กรู’ คืออะไร ตอนนั้นนายสอง โดนตำรวจคุมตัวอยู่ ในวันเบิกความ เขายอมรับว่ามีตำรวจให้โทรหานายเจ โดยที่นายสองไม่รู้จักหมอกเลยแม้แต่นิดเดียว และในวันที่โดนจับ หมอกได้แชทมาหา บอกว่าให้โทรหาน้าแดงหน่อย บอกว่าโดนจับเรื่องปืน แต่ถ้าไม่อยากโดนจับ ให้ไปหาปืนมาวางกระบอกหนึ่ง แล้วโทรหาใครก็ได้ให้มาเก็บปืน ให้เขาโดนจับเหมือนที่หมอกโดน ตนเองเคยไปร้องเรียนที่ กอ.รมน. ให้ท่านช่วยเอาปืนกระบอกนี้มาตรวจสอบว่ามาจากไหน มีการแจ้งหายหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ พอไปที่ กอ.รมน. แต่เรื่องเงียบ ก็ไม่ได้ไปหาที่ไหนต่อ เพราะเชื่อว่าหมอกไม่ได้กระทำผิด เลยต่อสู้คดีไปตามมีตามเกิด แต่สุดท้ายน้องหมอกกลับโดนจำคุก ยืนยันว่า ในบันทึกการจับกุม ได้มีการระบุหมายเลขของปืนเอาไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นปืนของทางราชการ และจากผลการตรวจสอบอาวุธปืน พบว่าปืนกระบอกดังกล่าวเป็นปืนกระบอกเดียวกับที่เอาไปกราดยิงที่สนามชนโค ทำให้หมอกได้รับหมายจับ แต่อัยการจังหวัดตรังสั่งไม่ฟ้อง เพราะพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ตอนนี้เราอาจจะไปเรียกร้องอะไรไม่ได้แล้ว เพราะหมอกเสียชีวิตไปแล้ว แต่สิ่งที่ตนเองอยากทำก็คือ อยากล้างมลทินให้วิญญาณของหลานชาย เพราะเขาไม่ได้กระทำผิด ถ้าเกิดว่าผิดจริง ถึงเป็นญาติ ก็ไม่ให้การช่วยเหลือแน่นอน ตอนนี้ทุกคนที่เป็นญาติของหมอกสภาพจิตใจย่ำแย่มาก ครอบครัวมีทรัพย์สินอะไรก็ขายหมดเพื่อเอาเงินช่วยคดี
รายการ ถกไม่เถียง ได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผู้กำกับการ สภ.ปะเหลียน ให้ข้อมูลของคดีนี้ว่า หลังจากมีการจับกุมเรื่องยาเสพติด เจ้าหน้าที่พนักงาน ปปส. ก็ขยายผลจากผู้ต้องหาในคดียาเสพติด จนเป็นที่มาของการจับกุม พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งปืนกระบอกดังกล่าว หลังจากจับกุมแล้ว ก็นำส่งตรวจพิสูจน์หลักฐาน ทางนั้นได้ตอบกลับมาว่า ปืนได้รับการปลดล็อกแก้ไข ทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีเลขทะเบียนอะไร และไม่ยืนยันได้ว่าเป็นของหน่วยงานไหน ซึ่งปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติด มักจะมีอาวุธปืนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นี่จึงเป็นการขยายผลจากการจับคดียาเสพติด โดยเจ้าพนักงานชุดจับกุมเป็นเจ้าพนักงาน ปปส. ที่ได้รับการแต่งตั้งถูกต้องตามกฎหมาย โดยอาศัยข้อกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งมีอำนาจในการควบคุมตัวผู้ถูกจับไว้ทำการสอบสวนได้ไม่เกิน 3 วัน โดยไม่ต้องแจ้งทางครอบครัวผู้ถูกจับกุม
ทางด้าน นายวรพงษ์ น้อยสุขเสริม เลขานุการกรมราชทัณฑ์ เผยความคืบหน้าถึงการสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของหมอกว่า ทางกรมราชทัณฑ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการลงไปตรวจสอบในพื้นที่แล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 7 วันก็จะได้รับความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งตามที่ได้รับรายงานจากเรือนจำมา ระบุว่าผู้ต้องขังได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล จากการที่ผู้ต้องขังมีอาการป่วย ชักเกร็ง และอาเจียน ทางโรงพยาบาลก็ได้ทำการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และแจ้งว่าเสียชีวิตในเวลา 14.00 น. ตอนนี้ทางเรือนจำก็ได้ประสานงานกับโรงพยาบาล เพื่อทำการส่งศพไปผ่าชันสูตรอีกครั้งแล้ว หลังจากหมอกเสียชีวิต ทางโรงพยาบาลได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นคือ หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
ฟาก นายวรวิทย์ นพรัตน์ ทนายความในชั้นอุทธรณ์ เผยความคืบหน้าคดีของหมอก ว่า เบื้องต้น คดีนี้ปัจจุบันศาลมีคำพิพากษา และคดีถึงที่สุดไปแล้ว เพราะฉะนั้นมันจบโดยผลของคำพิพากษาเป็นที่เรียบร้อย ญาติพี่น้องอาจจะยังติดใจสงสัยอยู่ แต่ก็ต้องเคารพคำพิพากษาของศาล ในส่วนของอาวุธปืนของกลาง เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ ที่ต้องสืบหาว่าที่มาของอาวุธปืนเป็นอย่างไร เป็นของใครก่อนที่จะมาอยู่ในมือหมอกได้อย่างไร ส่วนการเสียชีวิตของน้องหมอก เป็นการเสียชีวิตในขณะที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าพนักงานของรัฐ กระบวนการตามกฎหมาย จะต้องมีการชันสูตรหาสาเหตุการตาย แล้วจะต้องมีการไต่สวนของศาลหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ถ้าผลการไต่สวนออกมาว่ามีคนทำให้ตาย ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไปสืบหาผู้ที่ทำให้ตายต่อไป
สรุปผลโพล กรณีนี้ การเสียชีวิตมีเงื่อนงำหรือไม่
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com + อ่านเพิ่มเติม