อื้อฉาว! ลูกร้อง ถูกพ่อ-พี่สาวยักยอกทรัพย์ แจ้งความตร.กลับตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง เชื่อมีการค้าสำนวนคดี
logo ถกไม่เถียง

อื้อฉาว! ลูกร้อง ถูกพ่อ-พี่สาวยักยอกทรัพย์ แจ้งความตร.กลับตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง เชื่อมีการค้าสำนวนคดี

ถกไม่เถียง : จากผู้เสียหายไปแจ้งความถูกยักยอกทรัพย์ แต่กลับกลายเป็นผู้ต้องหาโดนคดีอาญาเสียเอง แถมช็อกหนัก เจอหมายศาลแปะหน้าบ้าน พร้อมคำให้การที่ต ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,ช่อง7HD,TERODigital,กด35,ตำรวจ,ตร,ตำรวจนอกรีต,รีดไถเงิน,ค้าสำนวน,พยาน,ทนายสงกาญ์,ตำรวจนอกแถว,สำนวนคดี,วิ่งเต้น,เส้นสาย,เรียกรับเงิน

5,463 ครั้ง
|
09 มิ.ย. 2564

         จากผู้เสียหายไปแจ้งความถูกยักยอกทรัพย์ แต่กลับกลายเป็นผู้ต้องหาโดนคดีอาญาเสียเอง แถมช็อกหนัก เจอหมายศาลแปะหน้าบ้าน พร้อมคำให้การที่ตัวเองได้ไปแจ้งความไว้ ถามตำรวจ กลับอ้างอาจมีคนหยิบไปจากถังขยะก็ได้ ตั้งข้อสงสัย ตำรวจค้าสำนวนคดีหรือไม่ ที่ช้ำหนัก คือตำรวจถึงขั้นไปเป็นพยานให้อีกฝ่าย 
 
         วันนี้ (9 มิ.ย.2564) รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เปิดใจสัมภาษณ์ คุณเอ (นามสมมติ) และ คุณแอล (นามสมมติ) พร้อมด้วย ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ถึงกรณีที่เกิดขึ้น
 
ถกไม่เถียง : อื้อฉาว! ลูกร้อง ถูกพ่อ-พี่สาวยักยอ
 
          คุณเอ (นามสมมติ) และ คุณแอล (นามสมมติ) 2 พี่น้อง ผู้เสียหายที่ไปแจ้งความถูกยักยอกทรัพย์ แต่กลับต้องตกเป็นผู้ต้องหาเสียเอง เล่าถึงที่มาของเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า ในวันที่ 8 ก.ค. ปีที่แล้ว ทางคุณพ่อ และพี่สาว ซึ่งเป็นคู่กรณีอีกฝั่ง ได้เรียกรถมาขนของที่บ้านไป มูลค่าประมาณ 3.5 แสนบาท ของ 9 ชิ้นที่เขาเอาไป คือ รูปภาพสีน้ำมัน 2 ภาพ โซฟา เก้าอี้หวาย เครื่องออกกำลังกาย รูปปั้นศิลปินจากอิตาลี  ฝั่งตนเองก็ได้พยายามพูดคุยกับทั้งคุณพ่อและพี่สาวแล้วว่าเอาไปทำอะไร แต่ก็ไม่ได้คำตอบ จึงได้โทรไปปรึกษาทางตำรวจ ตำรวจก็ให้ไปหาที่ สน.ตอนสี่ทุ่ม วันรุ่งขึ้น คุณพ่อกับพี่สาวก็เอาของมาคืนส่วนหนึ่ง เขาอ้างว่าเอาไปใช้ในกิจการบริษัท แต่ผมไม่เชื่อ เพราะที่บ้านมีกิจการคลินิกรักษาเส้นผม และในวันที่ 10 ก.ค.ทางพี่สาวก็ได้มายกรูปภาพคุณแม่ที่ผมสั่งทำกรอบขึ้นมาเองไป ผมยอมไม่ได้ เลยไปแจ้งความที่ สน.ประเวศน์ พอแจ้งความเสร็จ ตำรวจก็บอกว่าจะมีการนัดผู้ถูกกล่าวหาให้มารับทราบข้อกล่าวหา ผมติดตามหลายรอบ แต่เขาก็อ้างว่าอีกฝ่ายไม่สามารถมาได้ แล้วถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ผมไม่เชื่อว่าตำรวจเรียกมา เพราะเขาเบี่ยงประเด็นออกไปตลอด แล้วบอกว่าจะขอโทรปรึกษาพ่อก่อน ผมก็งงว่าถ้าคนมันบริสุทธิ์ใจจริง ทำไมไม่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา แต่นี่คือเขาหายไปเลย
 
            คุณเอ เผยว่า บ้านหลังนี้เป็นชื่อของผม น้อง และพี่สาว 3 คน ถ้าจะยกของอะไรไปจะต้องได้รับการยินยอมจากทุกคน แล้วอยู่ๆ วันนึงก็เจอหมายศาลมาแปะหน้าบ้าน ในข้อหาแจ้งความเท็จ แล้วในนี้มีคำให้การของผมที่ไปแจ้งความอยู่ด้วย ทำให้ตกใจมาก ผมถามตำรวจว่า ทำไมมีคำให้การของผมไปอยู่ในหลักฐานของคู่กรณีด้วย ตำรวจก็อึกอัก อ้างว่ามันอยู่ในถังขยะ อาจจะมีคนหยิบไปก็ได้ พอขึ้นศาล ตำรวจเขาขึ้นเป็นพยานให้ฝ่ายโจทก์ ว่าเขาเป็นคนให้สำนวนพวกนี้กับโจทก์ไปจริงๆ ซึ่งหลังจากสู้คดีกันในศาลชั้นต้น ผมโดนตัดสินจำคุก 2 ปี ส่วนน้องสาวโดนคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา วันที่ศาลตัดสิน คุณพ่อเป็นคนมาเซ็นให้หนูติดคุก เซ็นเสร็จแล้วเขาก็ออกไป ไม่พูดอะไรเลย ตอนนี้ได้รับการประกันตัวออกมาเพื่อสู้ต่อในชั้นศาลอุทธรณ์ ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่าคนที่ตกเป็นเหยื่อของการค้าสำนวนเป็นยังไง มันเจ็บปวดจริงๆ เพราะเหมือนเราโดนขโมยของไป แล้วเขาสามารถแย้งกลับมาได้ทั้งหมดเลย
 
ถกไม่เถียง : อื้อฉาว! ลูกร้อง ถูกพ่อ-พี่สาวยักยอ
 
             คุณเอ และ คุณแอล เล่าจุดเริ่มต้นของปัญหาภายในครอบครัวว่า จริงๆ ไม่ได้มีปัญหาบาดหมางลึกซึ้งอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่ถูกกันมากกว่า เพราะคุณแม่จะเป็นเสาหลักในการหาเงินเข้าครอบครัว ก็เลยมีน้อยใจว่าทำไมคุณพ่อไม่ช่วยบ้าง ลูกๆ ก็เข้าทางฝั่งคุณแม่ เลยทำให้คุณพ่ออาจจะน้อยใจ ว่าทำไมไม่เข้าข้างเขาบ้าง หลังคุณแม่เสียก็ได้มีการทำพินัยกรรมทิ้งไว้ให้ ซึ่งคุณพ่อได้ฟ้องศาลครอบครัวกลาง เพื่อขอแบ่งทรัพย์สินมรดกของคุณแม่ และอยากเป็นผู้จัดการมรดกพินัยกรรม และแบ่งส่วนหนึ่งให้ตัวเองด้วย แต่พินัยกรรมฉบับนี้มีจุดน่าสงสัย เพราะในพินัยกรรมได้ยกให้พี่สาวเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว แต่คุณแม่เคยบอกไว้ว่า เงินประกันชีวิตของคุณแม่ ถ้าคุณแม่จากไป จะแบ่งให้ทั้ง 3 คนเท่ากัน ทางเราก็ได้ไปเช็คกับทางประกันมาแล้วมันเป็นตามนั้นจริง แต่ในพินัยกรรมกลับบอกว่าเอาทั้งหมดให้พี่สาวคนเดียว เราเลยคิดว่านี่เป็นพินัยกรรมปลอม ที่เป็นข้อสังเกตอีกจุดคือลายมือในพินัยกรรมไม่ใช่ลายมือของคุณแม่ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลผมกังวลว่า ถ้าเราไปคุยกับตำรวจ จะสามารถดำเนินเรื่องได้ไหม เพราะคุณพ่อเขาก็รู้จักตำรวจยศใหญ่อยู่เหมือนกัน
 
ถกไม่เถียง : อื้อฉาว! ลูกร้อง ถูกพ่อ-พี่สาวยักยอ
 
         ทางรายการ ถกไม่เถียง จึงได้ติดต่อไปยัง พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ถึงกรณีที่เกิดขึ้น โดย พล.ต.ต.ปิยะ เผยว่า ในเบื้องต้น คงต้องตรวจสอบรายละเอียดกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าข้อเท็จจริงเป็นไปตามข่าว ก็มีส่วนว่าจะเป็นการค้าสำนวนจริง และถ้าเกิดการค้าสำนวนจริง ตำรวจจะมีความผิดทางวินัย ก่อให้เกิดความเสียหายทางราชการอย่างร้ายแรง สำหรับประเด็นที่ว่าคุณพ่อของทั้งคู่สนิทกับตำรวจ จนมีการช่วยอำนวยความสะดวกในการทำคดีจริงหรือไม่นั้น ต้องมีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ส่วนพ่อของเขาจะมีความผิดหรือไม่ ต้องดูว่าการกระทำของเขาผิดประมวลกฎหมายมาตราใดหรือไม่ ถ้าไม่ผิดประมวลกฎหมายอาญา ก็คงต้องดำเนินการกับพนักงานสอบสวนเท่านั้น
 
           สำหรับเรื่องสำนวนคำให้การที่ถูกอีกฝ่ายนำไปใช้แนบในหมายศาลในการสู้คดีนั้น ต้นสังกัดจะต้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นก่อนว่าพนักงานสอบสวนท่านนี้มีการกระทำความผิดอย่างไร ต้องดูว่า เป็นแค่เพราะความไม่รอบคอบหรือไม่ หรือมีการรู้เห็นเป็นใจ ตามปกติแล้วสำนวนคดีนี้เป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้ ถือเป็นความผิดวินัย แต่ถ้าทำให้เกิดความเสียหายต่อราชการ ก็จะเป็นความผิดอีกขั้นหนึ่ง ส่วนเรื่องที่ขึ้นไปเป็นพยานในชั้นศาลนั้น แล้วมีการยอมรับเองว่าเป็นคนนำสำนวนไปให้ฝั่งตรงข้ามเอง ตำรวจนายนี้ก็คงดิ้นไม่หลุด จนด้วยคำให้การของตัวเอง เบื้องต้นแนะนำให้สองพี่น้องไปพบกับผู้การตำรวจนครบาล 4 เพื่อให้ท่านให้ความเป็นธรรม ตรวจสอบว่าสำนวนการสอบสวนได้ทำไปอย่างถูกต้องหรือไม่ ถ้ามีข้อมูลหลักฐานอย่างไร สามารถนำเสนอผู้การนครบาล 4 ได้เลย ท่านจะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วดำเนินการตรวจสอบพนักงานสอบสวนได้
 
ถกไม่เถียง : อื้อฉาว! ลูกร้อง ถูกพ่อ-พี่สาวยักยอ
 
         ด้าน ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม พูดถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ปกติแล้วคำให้การของผู้แจ้งความ ตามหลักแล้ว ตำรวจไม่สามารถเอาให้ผู้ถูกกล่าวหา หากเอาไปให้ถือว่ามีความผิด เพราะเมื่อคู่กรณีรู้หน้าเสื่อหมดแล้ว ทำให้เขาได้เปรียบ สามารถนำข้อมูลที่ได้จากพนักงานสอบสวนกลับมาฟ้อง ยิ่งฝั่งสองพี่น้องยังอายุน้อยอยู่ด้วย ประสบการณ์ยังน้อย เจอแบบนี้เสร็จเลยครับ พนักงานสอบสวนเอาสำนวนมาให้แบบนี้ มีความผิดร้ายแรงครับ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ส่วนเรื่องที่ทั้งสองพี่น้องโดนฟ้องว่าแจ้งความเท็จ มันเป็นคดีทางอาญา ยอมความไม่ได้ โดยหลังจากนี้ ต้องให้ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า จะยกคดีหรือไม่ เพราะนี่เป็นการได้คำให้การมาโดยมิชอบจากพนักงานสอบสวน ในเรื่องนี้รัฐเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่ตัวโจทก์ ถ้าเกิดพนักงานสอบสวนท่านนั้นถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง ถือว่าหมดอนาคตไปเลยครับ 
 
            จริงๆ แล้วเรื่องการคุยส่วนตัวไปเคลียร์กันเองได้ แต่ในเรื่องของคดี เป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ยังไงก็ต้องสู้กันต่อ เพราะมันยอมความไม่ได้ ศาลตัดสินจำคุกไปแล้ว น้องต้องเดินหน้าอุทธรณ์ต่อไป ถ้าศาลพิจารณาตามหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้ ศาลสามารถสั่งยกฟ้องได้เลย น้องทั้งสองคนก็สามารถหลุดได้เลย แต่อีกฝ่ายก็สามารถยื่นฎีกาต่อได้ ส่วนเรื่องพินัยกรรมที่น้องสงสัยว่าเป็นของปลอมหรือไม่ น้องต้องขอให้ศาลมีการสืบข้อเท็จจริง เพราะถ้าใครปลอมพินัยกรรม ทายาทผู้นั้นจะต้องถูกกำจัดไม่ให้รับมรดกตามพินัยกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น 
 
ถกไม่เถียง : อื้อฉาว! ลูกร้อง ถูกพ่อ-พี่สาวยักยอ
 
สรุปผลโพล ภาพลักษณ์ตำรวจในสายตาคุณ คือ...?  
 
ติดตาม  รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง  hitz955.com