เบอร์โทรศัพท์เพียงเบอร์เดียวอาจทำให้คุณติดคุก หญิงสาวถูกมอมยาแล้วชิงทรัพย์ หลักฐานเพียงหนึ่งเดียวที่มีคือเบอร์โทรที่คนร้ายทิ้งไว้ให้ แต่เจ้าของเบอร์โทรยืนยันไม่ได้ก่อเหตุ และเป็นเบอร์โทรที่ไม่ได้ใช้นานแล้ว งานนี้จะมีแพะเพียงเพราะเบอร์โทรหรือไม่
วันนี้ (1 มิ.ย.2564) รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ได้เชิญ นายอนุชา ม่วงงาม หรือ นุ ผู้ที่อ้างว่าเป็นแพะคดีชิงทรัพย์ , นายสามารถ หัวหน้างาน ในฐานะพยาน และ ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ทนายความชื่อดัง มาร่วมพูดคุยถึงข้อพิรุธของคดีนี้
นายอนุชา ม่วงงาม หรือ นุ ผู้ที่อ้างว่าเป็นแพะคดีนี้ เล่าให้ฟังว่า เหตุเกิดวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ช่วงเช้า ผมเช็คอินเข้างาน แล้วไปทำงานตามปกติ หัวหน้าก็มอบหมายให้ไปรับรถที่บ้านโป่ง หลังจากไปรับรถ ผมก็กลับมาที่ศรีนครินทร์ 60 เข้ามาตกแต่งรถเพื่อที่จะเอาไปโชว์ ซึ่งในกลุ่มไลน์จะมีการแจ้งสถานะ ถ่ายรูปภาพการทำงานตลอดเวลา ซึ่งวันนั้นผมทำงานจนถึงประมาน 20.30 น. ก็มุ่งหน้ากลับบ้านที่แปดริ้ว ฉะเชิงเทรา โดยขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี มีใบเสร็จค่าทางด่วนเป็นหลักฐาน ผมเก็บใบเสร็จขึ้นทางด่วนเอาไว้ เพราะต้องนำไปเบิกกับบริษัทตลอด จากทางด่วนถึงบ้าน ห่างกันประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 น. หลังกลับถึงบ้าน มีการรายงานเลขไมล์ตอนเวลา 22.55 น. เพราะต้องจัดการธุระส่วนตัว แล้วค่อยรายงานเลขไมล์ลงไปในกรุ๊ปไลน์ก่อนเข้านอน
แต่ในวันเดียวกัน มีหญิงสาวท่านนึงแจ้งว่ามีชายสูงวัยอายุประมาณ 50 ปี ได้มอมยาชิงทรัพย์เธอ โดยเธออ้างว่าคนร้ายได้ให้เบอร์โทรทิ้งไว้ เธอได้โทรไปหาตามเบอร์นั้น ไปเจอหญิงสาวคนหนึ่งรับสาย ซึ่งเป็นภรรยาเก่าของคุณนุ ที่เลิกกันไปแล้ว 30 กว่าปี แต่คุณนุยืนยันว่าไม่รู้จักเบอร์นี้ ไม่เคยใช้เบอร์นี้มาก่อน ไม่รู้ว่าทำไมถึงอ้างว่าเป็นเบอร์ของคุณนุ
คุณนุ เล่าต่อว่า ช่วงที่โดนจับติดคุกอยู่ 2 คืน 3 วัน ทางตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว ซึ่งในนั้นร้อนมาก มีกระจกปิดหมด ตัวผมมีโรคประจำตัว ขอให้ตำรวจช่วยแง้มหน้าต่างให้หน่อย เพราะมันร้อนมาก หายใจไม่ออกเลย เจอตำรวจบางคนที่ไม่ดีเขาก็ไม่แง้มให้ บางคนใจดีก็แง้มให้ แต่คนที่ไม่อนุญาตก็เดินมาปิดกระจก แล้วบอกว่าถ้าทนไม่ไหวก็ให้ไปตายซะ ยืนยันว่า ผมไม่มีความจำเป็นต้องไปชิงทรัพย์เลยเพราะฐานะผมก็ค่อนข้างดี แฟนผมทำงานขายเสื้อผ้าอยู่รายได้ก็ดี รายได้หลักแสนต่อเดือน ผมเจอเคสนี้ รู้สึกชีวิตแย่ตลอด ไม่เคยคิดว่าจะโดนแบบนี้ เคยเห็นคดีอื่นที่เป็นแพะ ยังคิดว่ามันเป็นไปได้ยังไง พอเจอกับตัวเอง รู้เลยว่าคดีแบบนี้มันมีจริงมันรู้สึกแย่มาก ผมเป็นแพะ โดยที่ผมไม่รู้เรื่องเลย ผมทำงานอยู่ กลับมาบ้านตำรวจก็พากันมาจับ 10 กว่าคน ผมก็อายคนในหมู่บ้าน ผมจะสู้หน้าเขาได้ยังไง ผมจะเอาความน่าเชื่อถือของตัวเองกลับมายังไง แฟนเขาก็คอยปลอบใจผม แต่จะทำยังไงได้ เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้วก็ต้องแก้ไขกันไป
ซึ่งทาง นายสามารถ หัวหน้างานของคุณนุ ยืนยันว่า เรื่องที่คุณนุพูดมาเป็นเรื่องจริง เนื่องจาก ระบบของบริษัทจะให้พนักงานเช็คอินผ่านไลน์ เป็นระเบียบวิธีการทำงานของฝ่ายบุคคล ทุกคนในกลุ่มจะต้องแสดงสถานะว่าอยู่ที่ไหนทำอะไร เพราะมีทรัพย์สินของบริษัทอยู่กับเขา เราต้องติดตามตรวจสอบตลอด โดยปกติแล้วการทำงานของทีมงาน โดยเฉพาะคุณนุ ที่เป็นคีย์แมนของบริษัท จะมีการเก็บภาพอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์บริษัท
นอกจากนี้ นายสามารถ ในฐานะพยานที่อยู่กับคุณนุในวันเกิดเหตุ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในวันชี้ตัว คุณนุจะอยู่ในห้องสืบ พยานชี้ตัวประมาณ 5 รอบ ผมคิดว่าในตอนนั้นน่าจะเกิดปัญหาอะไรบางอย่างขึ้น หลังจากที่ตำรวจพาคุณนุไปฝากขังที่ สน.ตลิ่งชัน ตำรวจได้มีการแก้ข้อความขีดคำว่า คัดค้านการประกันตัว ออกไป แล้วเขียนว่า ไม่คัดค้านการประกันตัว แทน จึงได้ประกันตัวออกมาสู้คดี ยืนยันว่าจากที่ทำงานร่วมกับ อนุชา มา เขาเป็นตัวหลักของบริษัท เขาทำงานอย่างเต็มที่ และประพฤติตัวดีมาโดยตลอด ส่วนรายได้ของบริษัทเราก็ได้ให้อย่างเหมาะสมและดีอยู่พอสมควร เขาจึงไม่มีเหตุให้ต้องไปทำอย่างนี้เลยครับ
"ผมเชื่อในความบริสุทธิ์ของคุณนุ ถ้าไม่เชื่อผมคงไม่พยายามดิ้นรนหาหลักฐานมายืนยัน ผมยินดีให้เขาเอารถของบริษัทไปโรงพักเพื่อดำเนินการให้เสร็จสิ้น ไม่ว่าตำรวจจะติดต่อมาแล้วขอข้อมูลอะไร ในเวลาทำงานผมก็ยินยอมให้เขาไปอย่างเต็มที่" นายสามารถกล่าว
ทางรายการ ถกไม่เถียง จึงได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ ผกก.สน.บางพลัด เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดีนี้ โดยทางตำรวจ เผยว่า ตั้งแต่การสอบสวนครั้งแรก ในเบื้องต้นเรามีพยานบุคคลอย่างน้อย 3 ราย ยืนยันว่าคุณอนุชาเป็นคนร้ายในคดีนี้ ทำให้เราได้รวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับ เป็นเหตุที่มีพยานหลักฐานตามสมควร หลังจากจับกุมตัวมาแล้ว ก็ได้ทำการสอบสวน โดยไม่ได้บังคับขู่เข็ญให้พยานรับสารภาพ เรารับฟังเพื่อพิสูจน์ความผิดหรือข้อกล่าวหา เบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ และยืนยันถิ่นที่อยู่ ในการฝากขัง เพื่อให้ผู้ต้องหาได้รับสิทธิในการต่อสู้อย่างเต็มที่ เลยไม่คัดค้านการประกันตัว ส่วนการชี้ตัวผู้ต้องหา ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันว่า คุณอนุชา คือผู้ต้องหาคดีนี้ ในส่วนของพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ เราได้รวบรวมตามกระบวนการ หลักฐานยืนยันว่าคุณอนุชาเป็นคนร้ายหรือไม่ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ผมได้กำชับพนักงานสอบสวนให้สอบสวนด้วยความเป็นธรรม เพราะนอกจากจะพิสูจน์ความผิดของผู้ต้องหาแล้ว เรายังพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหาด้วย ถ้าคุณอนุชาไม่ได้กระทำผิดจริง ก็สามารถนำหลักฐานมายืนยันกับเจ้าหน้าที่ได้ ซึ่งในกรณีนี้ไม่ได้มีแค่เบอร์โทรเบอร์เดียวที่ทำให้ออกหมายจับได้ แต่มีพยานบุคคลเข้ามาร่วมด้วย แต่ในเมื่อทั้งสองฝ่ายมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจน ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะชั่งน้ำหนักว่า หลักฐานฝ่ายไหนมีน้ำหนักชัดเจนกว่า
นอกจากนี้ทางรายการได้พยายามติดต่อหญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกมอมยา และได้มีการพูดคุยกัน โดยทางผู้เสียหายบอกว่าไม่สะดวกให้ข้อมูลใดๆทั้งสิ้น อ้างว่าเรื่องไปอยู่ที่ตำรวจแล้ว และมีการพูดว่ามีการไปถอนแล้ว แต่จากที่ตรวจสอบพบว่ายังไม่มีการถอนแจ้งความแต่อย่างใด
ซึ่งทางทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ได้พูดถึงคดีนี้ว่า ในตอนแรกผมตั้งข้อสังเกต เรื่องใบเสร็จค่าทางด่วนของคุณนุ ซึ่งไม่ได้มีการระบุทะเบียนรถ หรือชื่อคนที่จ่ายเงิน มันอาจจะไปเอาของใครมาก็ได้ แต่ถ้าลองมาพิจารณา เช่น โทรศัพท์ของเขาที่จะเก็บเส้นทางการเดินทางเอาไว้ตลอด พบว่ามีความสอดคล้องกับใบเสร็จรับเงิน หลักฐานอีกอย่างที่ชัดเจนคือการใช้โทรศัพท์มือถือ พบว่าเป็นไปตามระยะทางที่ได้บอกว่าเดินทางไป ตามประสบการณ์ผม ตำรวจออกหมายจับ เพราะมีหลักฐานอย่างหนึ่ง ในกรณีนี้คือเบอร์โทรศัพท์ แล้วมีพยานยืนยัน แต่คำถามคือใช่เขาคนนี้หรือเปล่า ผมเข้าใจว่าน่าจะมีความผิดพลาดอะไรบางอย่าง เพราะจากเดิมที่คัดค้านการประกันตัว เปลี่ยนเป็นไม่คัดค้าน แต่ผมก็พูดได้ไม่เต็มปากเพราะไม่ได้ไปอยู่ที่ตรงนั้น
ผมไม่อยากให้เพียงแค่ว่า ตัวผู้เสียหายหรือพยานชี้ตัวแล้วคนๆนี้มีความผิด ควรจะเพิ่มหลักฐานชิ้นอื่นเข้ามาได้ไหม ข้อเท็จจริงคดีนี้ ผู้เสียหาย กับคนร้ายไม่รู้จักกันมาก่อน เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก แล้วไปดื่มสุรากัน ดังนั้นเขามีสติสัมปชัญญะหรือไม่ ถ้าใช้วิธีแบบนี้ บางทีผมอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีอื่นๆด้วยก็ได้ การจะสืบเรื่องนี้ก็ไม่ยาก ผมขอให้ตำรวจออกหมายเรียกตำแหน่งการใช้มือถือของคุณนุ ว่ามันสัมพันธ์กับตำแหน่งที่เขาอยู่ไหม และในคดีนี้เบอร์โทรศัพท์ที่อ้างว่าเป็นของคนร้าย ปรากฎออกมาว่า เบอร์โทรศัพท์นี้ไม่เคยถูกใช้มาก่อน ผมเคยเจอเคสลักษณะนี้ เอาชื่อนามสกุลคนอื่นไปใช้ในสัญญาเช่า เขาเลยโดนจับคดียาเสพติดทั้งที่ไม่รู้เรื่องด้วย ซึ่งมันก็เป็นไปได้ว่าคดีนี้ อาจมีคนเอาข้อมูลของเราไปใช้โดยที่เราไม่ยินยอมก็ได้
นอกจากนี้ทนายเจมส์ ยังชี้ข้อพิรุธว่า คดีนี้ ผู้เสียหายอ้างว่า คนร้ายทิ้งเบอร์โทรไว้ ซึ่งถ้าในความเป็นจริง คนร้ายจะทิ้งเบอร์ของตัวเองไว้จริงหรือ? แล้วในกรณีที่ผู้เสียหายบอกว่ามีการไปถอนเรื่องแล้วนั้น ผมยืนยันว่าไม่จริง เพราะวันพุธที่ผ่านมา ผมเพิ่งพาพยานไปยืนยัน ทั้งภาพถ่ายและคลิปวีดิโอ เพราะมันจะสอดคล้องกันกับวันที่ถ่ายภาพและคลิป หลักฐานที่เตรียมไว้จะไล่ไทม์ไลน์ตั้งแต่เช้า กลางวัน เย็น ไปจนถึงเช้าอีกวันหนึ่ง ซึ่งมันย้อนแย้งกับที่ระบุเอาไว้ในเอกสาร เรื่องการตรวจดีเอ็นเอ ผมเชื่อว่ายังไม่มีการสืบในเรื่องนี้ เพราะตำรวจยังไม่ได้ติดต่อมาเอาเนื้อเยื่อตรงกระพุ้งแก้มของคุณนุเลย
ทั้งนี้ ทนายเจมส์ ยังได้ฝากเตือนด้วยว่า ถ้าใครถูกเชิญให้ไปเป็นพยาน ถ้าจำได้จริงก็ชี้ไปตามนั้น แต่ถ้าไม่มั่นใจ อย่าไปชี้ครับ เพราะคุณอาจจะทำลายชีวิตคน ๆ นั้นไปเลย เคยมีคนพูดว่าไม่ผิดจะกลัวทำไม แล้วไม่เอาหลักฐานไปเข้ากระบวนการ สุดท้ายก็ติดคุกไปเยอะแล้วครับกับคำพูดนี้
สรุปโพล คุณเคยซวยเพราะเบอร์โทรศัพท์หรือไม่
ทั้งนี้ รายการ ถกไม่เถียง ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็น รับสิทธิพิเศษจากผู้สนับสนุนและพันธมิตรได้ทุกตอนผ่าน TERO Digital ได้ที่
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com