วันที่ 25 พ.ค. 64 นายสนธิญา สวัสดี อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี น.ส.พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ พิมรี่พาย ยูทูบเบอร์และบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดัง จากกรณีที่พิมรี่พายได้ไลฟ์เฟซบุ๊ก ขอโทษ นายทักษิณ ชินวัตร หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ไลฟ์เฟซบุ๊ก ต่อว่านายทักษิณ ที่ไลฟ์เฟซบุ๊กพูดถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และการทำงานของรัฐบาลในการดูแลป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งมีการกล่าวพาดพิงถึงพิมรี่พายเป็นเวลา 5 วินาที เกี่ยวกับการตั้งโรงพยาบาลสนามของพิมรี่พาย จนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลไปก่อนหน้านี้
โดยนายสนธิยา เห็นว่า เรื่องดังกล่าวมีประเด็นที่พิมรี่พาย ต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้ 4 ประเด็นคือ กรณีการนำของไปบริจาคมูลค่า 2 แสนกว่าบาทกับหน่วยงานหน่วยงานหนึ่ง แต่หน่วยงานแห่งนั้นไม่ยอมรับบริจาค ตนเองอยากทราบว่าหน่วยงานนั้นคือ บริษัทเอกชน หรือหน่วยงานราชการ เพื่อจะได้ทราบว่า เหตุใดหน่วยงานดังกล่าวไม่ยอมรับเงินบริจาคและสิ่งของของพิมรี่พาย รวมถึงประเด็นเรื่องที่พิมรี่พายกล่าวว่า ถูกข่มขู่โดยบุคคลบางกลุ่ม กลุ่มบุคคลเหล่านั้นคือใคร เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร เพื่อจะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งประเด็นนี้ ตนมองว่า หากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ก็ควรต้องดำเนินการตามขั้นตอนให้ถูกต้อง หรือเป็นเพียงการพูดสนุกปาก สร้างกระแส
ประเด็นต่อมาคือ เรื่องธุรกิจของพิมรี่พาย ในการไลฟ์เฟซบุ๊กแต่ละครั้ง พบว่ามียอดผู้ชมเข้ามาดูและสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากกว่า 1 หมื่นคน จึงตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าตัวมีการจ่ายภาษีถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะปัจจุบันนี้กฎหมายเกี่ยวกับภาษีธุรกิจออนไลน์ถูกบังคับใช้แล้ว และหากพิมรี่พาย มีรายได้จากการทำธุรกิจจำนวนมาก ก็ควรเสียภาษีให้ถูกต้อง
ประเด็นสุดท้ายคือ กรณีของตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคหรือ บก.ปคบ. ได้เข้าตรวจค้นโรงงานผลิตเครื่องสำอางของพิมรี่พาย หลังได้รับข้อมูลว่าเครื่องสำอางของพิมรี่พาย ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2562 โดยในภายหลังเจ้าตัวก็รับว่า เครื่องสำอางที่จำหน่ายไม่ได้มาตรฐาน และจากนั้นพิมรี่พาย ได้นำเงินไปบริจาคให้กับ กศน. ในอำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนายสนธิญาามองว่า อาจเป็นกระบวนการนำเงินที่ไม่ถูกกฎหมายไปบริจาคหรือเข้ากระบวนการบางอย่าง จึงอยากทราบว่าเงินที่ใช้ในการบริจาคเป็นเงินที่มาจากที่ใด
ทั้งนี้ยืน ยันว่าประเด็นที่เข้าร้องเรียนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้ง หลังจากที่พิมรี่พาย กล่าวขอโทษนายทักษิณ หรือกรณีที่พิมรี่พาย มักจะกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลบ่อยครั้ง ทั้งนี้มองว่า หากพิมรี่พายทำธุรกิจต่างๆ ถูกต้อง และมีความบริสุทธิ์ใจ ก็ควรชี้แจงเรื่องดังกล่าวได้ทั้งหมด และหากเจ้าตัวสามารถชี้แจงทุกประเด็นได้ ก็พร้อมเดินทางมาถอนคำร้องทุกข์ดังกล่าวทั้งหมด ทั้งนี้หากตำรวจกองบังคับการปราบปรามสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า มีความผิดเข้าข่ายในเรื่องพรบคอมพิวเตอร์และความผิดในกฎหมายอาญา ก็พร้อมจะเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีในประเด็นต่างๆ ทันที ยืนยันว่าการร้องให้ตรวจสอบวันนี้ไม่ได้เป็นการรังแกผู้หญิง รวมทั้งไม่ได้กล่าวหาว่าพิมรี่พายกระทำผิด แต่หากกองปราบตรวจสอบพบว่ากระทำผิด ตนก็จะมาแจ้งความดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกฎหมายอาญาอื่นๆ และภายใน 1-2 วัน พิมรี่พายสามารถชี้แจงได้ ตนก็จะมาถอนคำร้อง
พร้อมฝากไปถึงคนที่บอกว่าตนมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ขอถามกลับไปว่าดีกว่าการพายเรือให้โจรนั่งหรือไม่ ต้องพิสูจน์กัน ซึ่งการที่ออกมาตรวจสอบพิมรี่พายไม่เกี่ยวข้องกับการที่เขาไปขอโทษ นายทักษิณ ชินวัตร เพราะเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเด็กต้องขอโทษผู้ใหญ่ และไม่มีการเมืองอยู่เบื้องหลังใดๆ ทั้งสิ้น
+ อ่านเพิ่มเติม