ให้ผมตายดีกว่า! หนุ่มตกเป็นแพะคดีข่มขืน ร่ำไห้ คาใจพบพิรุธหลายอย่าง กลับถูกตีตรวนเข้าเรือนจำ : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

จากกรณี หนุ่มอ้างเป็นเเพะคดีข่มขืนสาวพิการทางสมอง ซึ่งเจ้าตัวสาบานให้ตายว่าไม่ได้เป็นคนทำหลังตรวจดีเอ็นเอแล้วไม่ตรง ซ้ำได้นอนคุกโดนล่ามโซ่ตีตรวน มั่นใจว่าตนเองไม่ผิด ได้เเต่นอนร้องไห้ทุกวันในคุก จนศาลเห็นใจให้ประกันตัวชั่วคราวเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ญาติพี่น้องต้องขายบ้านขายที่ดิน ลามไปถึงเพื่อนข้างบ้านต้องถอดทองมาช่วยเพื่อเป็นเงินประกันตัว

นายสุวรรณ ละอองสำลี ผู้ที่อ้างว่าเป็นแพะคดีข่มขืน ได้เปิดใจในรายการ "ถกไม่เถียง" ด้วยน้ำตาว่า ตนเองไม่ผิด ไม่ได้ไปข่มขืนใคร โดยเรื่องราวจากสำนวนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ก.ย.60 ที่โดนแจ้งความว่าไปก่อเหตุข่มข่นสาวพิการทางสมองวัย 17 ปี ผมอยู่บ้าน มีหลักฐานเพราะผมไลฟ์สดเล่นกับไก่อยู่บ้าน ผมเสนอหลักฐานไปที่ศาลแล้ว ยืนยันผมไม่รู้จักหญิงผู้เสียหาย ซึ่งวันที่ 8 ธ.ค.61 มีตำรวจได้โทรมานัดหมายเเจ้งข้อกล่าวหาถึงบ้าน จึงได้ไปคุยต่อที่โรงพักและปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา 9 ธ.ค.61 วันต่อมาได้ให้ทำการตรวจดีเอ็นเอเเต่สุดท้ายต้องไปอยู่ในคุกพร้อมจำเลยอีกคนอยู่ดี เพื่อรอศาลให้ประกันตัว

นายสุวรรณกล่าวในรายการด้วยน้ำตาว่า เป็นวันที่เสียใจที่สุดเพราะต้องทำให้ครอบครัวลำบากญาติพี่น้องพ่อแม่ต้องขายบ้านขายที่ดิน แม้กระทั่งเพื่อนข้างบ้านต้องเอาทองไปขายเพื่อหาเงินมาประกันตัวเราเพื่อสู้คดี คิดอยู่ในใจอย่างเดียวว่าไม่ได้ทำ ขอสู้ให้ถึงที่สุด ต่อมา 15 มี.ค.62 ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน ทุกฝ่าย ศาลได้ให้ตรวจดีเอ็นเออีกครั้งเนื่องจากผลดีเอ็นเอที่ตรวจจากสถานีตำรวจที่ตรวจครั้งเเรกหายไป ซึ่งการตรวจดีเอ็นเอนั้นเพื่อเป็นข้อชี้ชัดว่าจำเลยที่1เเละ2 ใครมีดีเอ็นเอตรงกับเด็กที่คลอดมาจากโจทย์หญิงสาวพิการทางสมองที่ถูกข่มขืน สุดท้ายผลออกมาจำเลยที่ 1 เเละ 2 ไม่มีดีเอ็นเอตรงกับเด็กที่คลอดออกมา โดยในเวลาเดียวกันทางฝั่งนายสุวรรณ ผู้ที่ถูกกล่าวหา ได้ตั้งข้อสงสัยจากการประกาศของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า วันที่15 มี.ค.62 มีการประกาศคนหายซึ่งเป็นคุณตาของโจทก์หญิงสาวพิการทางสมองผู้เสียหาย ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยมากว่าทำไมหายตัวไป รวมไปถึงตำรวจไม่มีการตรวจสอบหลักฐานในพื้นที่เกิดเหตุใดๆ มีเเต่ให้หญิงสาวพิการทางสมองวัย 17 ปี ผู้เสียหายชี้รูปจาก Facebook ว่าใครเป็นคนทำ ซึ่งผลมาตกที่นายสุวรรณ เเละผู้เกี่ยวข้องอีกคน ทำให้ต้องทนเข้าคุกเพื่อรอศาลพิจารณา

ด้านนพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้โฟนอินเข้ามาในรายการให้ความรู้เพิ่มเติมถึงกรณีนี้ว่า จากสภาพสาวพิการทางสมองวัย 17ปี ซึ่งเป็นผู้พิการทางสติปัญญาประเภทที่ 5มีความเป็นไปได้ว่าอาจชี้ผิดตัวหรือให้ข้อมูลผิด ผู้พิการทางสติปัญญาประเภทที่ 5 มีหลายระดับ บางคนสติปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์ธรรมดา บางคนก็ต่ำมาก ถามว่าตรงนี้มีผลต่อความจำไหม ก็อาจจะทำให้ความจำมีความแตกต่างจากคนทั่วไป หรือบางทีเขาอาจจะแปลความหมายไม่ออกว่าการล่วงละเมิดทางเพศคืออะไร จากประสบการณ์ของผม ผมพบว่าการตั้งคำถามบางครั้งก็สามารถชักจูงให้ตอบผิดเพี้ยนไปได้ หรือการเอารูปมาให้ชี้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ก็อาจจะเป็นการชี้นำ หรือทำให้ผิดเพี้ยนไปได้เหมือนกัน

ฝั่งทนายความไพโรจน์ เพิ่มพิพัฒน์ ได้กล่าวในรายการเผยตอนนี้มีหลักฐานเพิ่มเติมมั่นใจพร้อมสู้คดีและน่าจะได้รับความเป็นธรรมเเน่นอน ภาพถ่ายที่ให้นำมาชี้ตัว ก็เป็นภาพถ่าย 3 ปีที่แล้ว ซึ่งไม่ใช่ภาพล่าสุด ส่วนใหญ่คดีร้ายแรงแบบนี้ โดยทั่วไปศาลอุทธรณ์จะไม่อนุญาตให้ประกันตัว เพราะคดีร้ายแรงพวกนี้โดยพฤติการณ์อาจจะหลบหนีได้ แต่คดีนี้มันเหมือนมรีอะไรที่ยังอยู่ในใจ ศาลท่านจึงให้ความกรุณาได้ประกันตัวในระหว่างฎีกา คดีนี้โทษ 23 ปี

ซึ่งชาวบ้านในระเเวกที่เกิดเหตุต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านายสุวรรณไม่ได้ทำ เพราะคนที่ใกล้ชิดสาวพิการวัย 17ปี มีเเต่คุณตาของเขาที่เขาออกบ้านเป็นประจำเมื่อคุณยายออกนอกบ้าน ซึ่งพอมีเรื่องขึ้นศาลอยู่ดีๆ คุณตาก็หายตัวไปอย่างนี้มองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com