พ่อร้องขอความเป็นธรรม ลูกชายถูกกลุ่มโจ๋ต่างหมู่บ้านกว่า 20 คน รุมทำร้ายสาหัส รู้ตัวผู้ก่อเหตุ แต่ผ่านไป 2 เดือนคดียังไม่คืบ ลือเส้นใหญ่
วันนี้ (21 พ.ค.2564) รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ได้เชิญ สมัย พรมน้ำคำ , แก้ว พรมน้ำคำ พ่อและแม่ของผู้เสียหาย พร้อมลูกชาย วโรดม พรมน้ำคำ เหยื่อที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และ อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ เจ้าของฉายา ทนายกระดูกเหล็ก มาพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
วโรดม พรมน้ำคำ หรือ น้องเม่น เหยื่อที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เล่าเหตุการณ์วันที่ถูกทำร้ายร่างกายให้ฟังว่า วันนั้นไปดูหมอลำไม่ไกลจากบ้าน กำลังจะกลับบ้านเวลาประมาณ 4 ทุ่ม เกือบ 5 ทุ่ม เดินสวนกลุ่มวัยรุ่น รู้ตัวแค่ว่าตัวเองล้มลงไป หลังจากนั้นก็โดนรุม ทั้งที่ไม่รู้จักคนที่ทำร้ายเลย พอเห็นเขาถอยออกไป ผมก็วิ่งกลับบ้าน ตอนนั้นไม่รู้ว่าโดนอะไรไปบ้าง เพราะมันรู้สึกชาไปหมด ยังไม่มีอาการเจ็บ
แก้ว พรมน้ำคำ แม่ของน้องเม่น เล่าว่า ตอนลูกกลับมาบ้าน หลานสาวเรียกแม่ให้มาดูพี่เม่น เจอสภาพลูกอาบเลือด บาดแผลเหวอะหวะ เลือดไหล เหมือนกับวัวโดนเชือด เลยเรียกคนข้างบ้านให้ออกมาช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล เราก็ถามลูกว่า ใครทำอะไรลูก ลูกก็บอกแค่ว่า แม่ไม่ต้องร้องไห้ หนูไม่เป็นอะไร แล้วลูกก็ถามว่า ที่หัวผมมีน้ำอะไรไหลหยดลงมา เขายังไม่รู้ตัวเลยว่าโดนอะไรมา
ด้าน สมัย พรมน้ำคำ พ่อของน้องเม่น เล่าเสริมว่า วันที่เกิดเหตุนั้นตนเองอยู่หน้าเวทีหมอลำ ลูกชายขอเดินกลับบ้านก่อน เวทีก็ไม่ไกลจากบ้านมาก จากเวทีหมอลำไปถึงบ้านประมาณ 100 เมตร สักพักลูกสาวก็วิ่งเข้ามาบอกว่าน้องเม่นโดนฟัน เราก็คิดว่าเขาล้อเล่น เพราะเพิ่งเจอกัน ก็เลยวิ่งมาดูเห็นสภาพลูกชายตัวเอง เอาผ้าขนหนูพันแผลไว้เลือดโชก ผมเป็นลูกผู้ชาย เห็นแล้วยังรู้สึกแย่ พอไปถึงรพ.หมอเย็บแผลให้ มีแผลที่ศีรษะ 3 แผล แผลตามร่างกายอีกหลายแผล หมอว่าอาจจะกระทบกระเทือนสมอง เลยส่งต่อไปรพ.ที่ใหญ่ขึ้นเพราะเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมกว่า
หลังจากนั้นคุณแม่ก็ไปแจ้งความวันที่ 28 มี.ค.ตอนเช้า ตอนนั้นแจ้งความตำรวจว่าลูกถูกทำร้าย แต่ทางตำรวจไม่ได้ให้ใบแจ้งความมา หลังจากแจ้งความไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ 13 คน เป็นเยาวชนอายุ 13-15 ปี จำนวน 12 คน และ 19 ปีอีก 1 คน เขาก็พยายามไกล่เกลี่ย จะให้เงินเฉลี่ยคนละ 5,000 บาท รวมแล้วก็ประมาณ 65,000 บาท ตอนหลังได้เจอกับคู่กรณีฝ่ายตรงข้าม เขาก็เสนอเงินให้ 100,000 บาท บอกด้วยว่าถ้าไม่เอาก็ให้ลูกคุณดำเนินคดีไป ผมเลยบอกว่า ลูกชายผมเจ็บขนาดนี้ พวกคุณมาเยียวยาหนึ่งแสนเนี่ยนะ ลองให้ลูกคุณแม่โดนฟันเย็บ 67 เข็ม แล้วเอาเงินมาให้ 2 ล้านเนี่ย คุณแม่จะเอาไหม ลูกผมก็ลูกคนนะครับ
คุณพ่อยังเล่าต่ออีกด้วยว่า ได้มีโอกาสเห็นหน้าผู้ก่อเหตุครั้งแรก เห็นว่าเขาเป็นเด็ก ก็เลยกังวลว่า ถ้าถูกดำเนินคดีเขาจะหมดอนาคตหรือไม่ ซึ่งตอนแรก ตำรวจยังไม่บอกว่าจะดำเนินคดีในข้อหาอะไร เขาบอกต้องรอใบตรวจร่างกายจากรพ.ก่อน ผมก็ไปขอที่ รพ.ตอนนี้ได้ใบมาหมดและ ตำรวจก็บอกว่าเขาจะพยายามดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่าให้ นี่ก็ผ่านมา 2 เดือนแล้ว
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง พูดถึงกรณีที่ไปแจ้งความแล้วไม่ได้ใบแจ้งความมาว่า ถ้าไปแจ้งความแล้วไม่ได้ใบแจ้งความมาถือว่าผิดปกติ ตามหลักแล้วผู้เสียหายควรจะได้รับใบแจ้งความมา ซึ่งเคสนี้จากที่ดูข่าวมาตอนแรกยังไม่มั่นใจว่าจะแจ้งข้อหาอะไร แต่พอมาดูใบรับรองแพทย์ และบาดแผลของน้องเขาแล้ว อย่างนี้ต้องเป็น ข้อหาพยายามฆ่า เพราะมีดที่ผู้ก่อเหตุใช้คือมีดยาวซามูไร ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจดูอยู่ตอนนี้ คุณต้องแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ไม่ใช่ข้อหาทำร้ายร่างกายให้บาดเจ็บสาหัส ทุกคนต้องโดนข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า
ทางรายการ ถกไม่เถียง ได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด เกี่ยวกับความคืบหน้าของคดี โดย พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ระบุว่า ในเรื่องนี้ผมได้รับการมอบหมายให้ดูแลการสอบสวน ให้เป็นไปอย่างรอบคอบ ตรงไปตรงมาที่สุด ตั้งแต่ได้รับเรื่อง เจ้าหน้าที่ก็ได้สืบหาผู้ก่อเหตุ ในวันแรกยังไม่ได้ตัว แต่ก็ทำการสืบหามาโดยตลอด จนล่าสุดทราบว่า มีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 15 คน ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย และพยายามฆ่า และจะสืบสวนต่อไปว่าหากมีคนก่อเหตุมากกว่านี้ก็จะนำตัวมาดำเนินคดีเช่นกัน
ส่วนเรื่องที่ผู้เสียหายไม่ได้รับใบแจ้งความนั้น พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ ชี้แจงว่าช่วงที่ผ่านมาอาจจะเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ระหว่างผู้เสียหากับพนักงานสอบสวน หลังจากนี้ผู้เสียหายสามารถมาพบกับผมได้โดยตรง เพื่อชี้แจงข้อสงสัย และมาขอรับใบแจ้งความได้ สำหรับข่าวเรื่องเส้นสายยืนยันว่าไม่เป็นความจริง คดีนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ ไม่ว่าจะมีการตกลงชดใช้ค่าเสียหายอย่างไร พนักงานสอบสวนก็ต้องแจ้งความเอาผิดให้ได้
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ยังรับปากอีกด้วยว่าจะช่วยเหลือในการประสานงานกับทางตำรวจ เพื่อเร่งรัดคดี และติดตามความคืบหน้าให้ ทั้งนี้ ทนายอนันต์ชัย ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีเพิ่มเติมว่า คดีอาญาก็ว่าไปตามอัตราโทษ ข้อหาพยายามฆ่านี่ได้แน่ ๆ ส่วนค่าเสียหาย อยากให้คุยกับทนายที่นั่น ซึ่งทางผมอาจจะไม่สะดวกเดินทางไป แต่พร้อมจะให้คำปรึกษากับทนาย และคุยกับทางตำรวจให้ สบายใจได้ยังไงก็ได้ค่าเสียหาย ถึงเด็กจ่ายไม่ได้ พ่อแม่เขาต้องจ่าย เพราะอาการของน้องเขามันจะมีอาการข้างเคียงตามมา อีก 2 ปี น้องอาจจะมีอาการทางสมอง จากประสบการณ์ของผมที่โดนมากับตัวเอง น้องจะไม่เหมือนเดิม เหมือนที่ผมเป็น จะได้ยินเสียงวิ้งๆในหัว ผมอยากให้พ่อคุยกับทนาย เรียกค่าเสียหายกับความสูญเสียที่น้องต้องเสียไปในอนาคตเพิ่มเติมด้วย เมื่อเขากระทำความผิด แม้ว่าเขาจะเป็นเยาวชนก็มีโทษเท่ากัน แต่ศาลจะลงโทษเท่าไหร่นั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล ยกตัวอย่าง คดี 6 โจ๋รุมทำร้ายชายพิการ ที่แม้คนที่ยืนดูเฉยๆ ก็ยังโดนข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า เหตุเพราะไม่เข้าห้ามปราม
สุดท้าย คุณพ่อและคุณแม่ ของน้องเม่น ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังจากได้คุยกับทางทนายแล้วก็รู้สึกคลายความกังวลไปได้เยอะ แต่ก็ห่วงอนาคตของลูกชายด้วย ห่วงว่าเขาจะไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ
สรุปโพล คุณคิดว่า เรื่องนี้ควรจบอย่างไร?
ทั้งนี้ รายการ ถกไม่เถียง ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็น รับสิทธิพิเศษจากผู้สนับสนุนและพันธมิตรได้ทุกตอนผ่าน TERO Digital ได้ที่
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com