หนุ่มพิการสุดช้ำ ก้มหน้ารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ เมื่อครั้งที่พ่อยังมีชีวิตได้เซ็นค้ำประกันให้กับญาติที่อยากซื้อรถ แต่ปรากฎว่าผ่อนได้ไม่นานก็ขาดส่ง พอพ่อเสียชีวิตมีจดหมายแจ้งลูกชายว่า บ้านจะถูกยึดหากไม่รับภาระชำระหนี้ทั้งหมด แต่เจ้าตัวพิการไร้รายได้ วอนญาติชดใช้ก็เมินเฉย ร่ำไห้หมดสิ้นหนทาง วิงวอนร้องสื่อ มีหนทางไหนไขทางตันนี้ได้บ้าง
วันนี้ (19 พ.ค.2564) รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ได้เชิญ นายวิเชียร ยอรัมย์ ผู้พิการที่กำลังถูกยึดบ้าน เหตุพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วเซ็นค้ำประกันให้ญาติซื้อรถ และ ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม มาพูดคุยประเด็นนี้กัน
นายวิเชียร ยอรัมย์ เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้านี้ ไม่ทราบมาก่อนว่าคุณพ่อไปค้ำประกันให้ญาติ มูลหนี้ประมาณ 8 หมื่นกว่าบาท มารู้อีกทีตอนมีหมายศาลมาที่บ้าน ระบุว่าจะยึดบ้านไปขายทอดตลาด ซึ่งที่ดินที่ถูกยึดมีมูลค่าประมาณ 890,000 บาท หลังจากรู้เรื่อง ก็ได้ไปถามอาซึ่งเป็นลูกหนี้ ก็มีการพาเขาไปเพื่อทำการไกล่เกลี่ย เบื้องต้นทางไฟแนนซ์จะเอาเงินก่อน 2 หมื่น จนตกลงกันว่าจะให้จ่ายเดือนละ 4 พันบาทก่อน 3 เดือน หลังจากนั้นค่อยไปไกล่เกลี่ยกันอีกที เราก็มีการคุยกับคุณอาว่าจะให้ช่วยกันแบ่งจ่ายไหม แต่คุณอาก็ไม่ยอม จนน้องชายต้องรับภาระทั้งหมด ต่อมาน้องชายก็ต้องออกจากงาน เพราะต้องเดินทางไปไกล่เกลี่ยจนขาดงานบ่อย ส่วนตัวเองตอนนี้มีรายได้แค่เบี้ยคนพิการ เดือนละ 800 บาท ภรรยาก็ปวยเป็นโรคไต อาก็เฉยไม่ได้โทรมาถามอะไรเลย ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีจดหมายแจ้งมาเลย รู้อีกทีก็มีหมายศาลมาแปะหน้าบ้านแล้ว ซึ่งที่ดินแปลงที่มีปัญหานี้มีบ้าน 2 หลัง หมายศาลมาแปะที่บ้านของผม ยืนยันไม่มีจดหมายอะไรมาเลย ถ้ามีจดหมายมาก็จะส่งมาที่บ้านของผม
นายวิเชียร ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ มีเจ้าหน้าที่มาถามหา ชูชัย ยอรัมย์ (อาของนายวิเชียร) แต่น้องชายไม่รู้ว่าเป็นใคร แล้วก็ถามหาบ้านอา น้องก็บอกไม่รู้ เขาเลยถามหาจำเลยที่สองคือพ่อ น้องก็บอกเสียแล้ว เขาก็มาถ่ายรูปบ้านไป หลังจากนั้นก็มีหมายมาเลย ที่่ผมไม่เข้าใจคือ ทำไมเขาไม่ไปตามบี้อาก่อน ทำไมเขาไม่ไปตามหาที่อยู่ของอาก่อน ทั้ง ๆ ที่มันก็อยู่ไม่ไกลกันเลย ทำไมมาตามบี้ผู้ค้ำประกัน
นายวิเชียร เปิดเผยอีกว่า ที่ดินที่กำลังมีปัญหาเป็นชื่อของน้องคนเดียวแล้วไปเปลี่ยนหลังจากพ่อเสีย ซึ่งตนเองอาศัยอยู่ที่นี่ ส่วนน้องไปอยู่ที่บ้านของแฟน ผมไม่อยากเสียบ้าน อยากมีบ้านอยู่ ไม่อยากให้ถูกขายทอดตลาดครับ มันเป็นมรดกของตากับยายที่โอนให้แม่ ตอนนี้ผมมีรายได้แค่จากเบี้ยคนพิการ ซึ่งเพิ่งจะได้เบี้ยคนพิการตอนเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมานี้เอง ก่อนหน้านี้เขาไม่ออกบัตรคนพิการให้ เพราะเขาบอกว่าเผื่อคนป่วยอาจจะกลับมาเดินได้ รายได้ทางอื่นก็มีมาจากน้องชายให้บ้าง คนอื่นให้บ้าง ส่วนตัวเองนั้นเริ่มพิการตั้งแต่ปี 48 อาการตอนแรก ปวดหลังมากเลยไปหาหมอ หมอบอกว่าถ้าวันรุ่งขึ้นขาไม่มีแรง ก็ให้รีบมาโรงพยาบาล วันรุ่งขึ้นตื่นมาก็ขาก็ไม่มีแรงจริง ๆ หมอก็ส่งตัวฉุกเฉินไปโรงพยาบาลจังหวัด ได้ทำการผ่าตัด แล้วหลังจากนั้นก็ไม่สามารถเดินได้อีกเลย หลังจากพิการก็มีคุณแม่เป็นคนดูแลมาโดยตลอด คุณแม่จากคนที่แข็งแรง อ้วนสมบูรณ์ ก็ต้องมาซูบลงเพราะดูแลผม คอยพลิกตัว จนเขาไม่มีเวลาพักผ่อน แล้วก็เสียชีวิตไปตอนปี 49 ผมอยู่บ้านหลังนี้มาตลอด อยู่มาตั้งแต่เกิด ผมเลยมีความผูกพันมาก ส่วนคุณอาเขาไม่มีที่ดิน ไม่มีทรัพย์สิน ทุกวันนี้เขาอาศัยเฝ้าบ้านให้พี่สาวเท่านั้น
ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม เผยว่าสำหรับเคสนี้ สิ่งที่สามารถทำได้ในตอนนี้ อย่างแรกคือ ไปเจรจากับบริษัทไฟแนนซ์เพื่อขอลดยอดหนี้ หรือไม่ก็ชี้ช่องให้เขาไปเรียกเก็บจากจำเลยที่ 1 หรือเจ้าของหนี้ หากเขาไม่จ่าย หรือมีการยักย้ายทรัพย์สินก็สามารถยื่นฟ้องร้องฐานฉ้อโกงเจ้าหนี้ได้ อยากจะย้ำเตือนคนที่ไปเซ็นเป็นผู้ค้ำประกันว่า การค้ำประกัน คือ การเอาตนเป็นหลักประกันกับเจ้าหนี้ หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนด ผู้ค้ำประกันจะต้องทำการชำระหนี้แทนในทันที ดังนั้นต้องชั่งใจให้ดีก่อนจะเซ็นค้ำประกันให้ใคร
สำหรับกรณีที่ผู้ค้ำประกันหรือลูกหนี้เสียชีวิต ทรัพย์มรดกของผู้ตาย เจ้าหนี้มีสิทธิในทรัพย์สินนี้ได้ แม้ว่าทรัพย์มรดกนั้นจะตกไปอยู่กับทายาทแล้ว ทายาทก็ต้องรับผิดชอบต่อ ดังนั้น เวลาฟ้องเขาต้องฟ้องผู้เช่าซื้อกับผู้ค้ำประกันร่วมกันอยู่แล้ว ในวันนี้ที่ทำได้คงต้องขอความเห็นใจจากโจทก์ หรือบริษัทไฟแนนซ์ แล้วไปตรวจดูว่าจำเลยที่ 1 หรือผู้เช่าซื้อ มีทรัพย์สินอะไรบ้างที่สามารถยึดมาเพื่อชำระได้ ส่วนคดีนี้ ได้มีการทำบันทึกตกลงกันแล้วว่าจะมีการจ่ายเป็นงวดๆ ซึ่งถ้าไม่ไหวก็สามารถไปทำการตกลงกันได้ว่าขอลดได้ไหม แต่ยังไงก็ต้องจ่ายอยู่ดี อยู่ที่ว่าจะจ่ายมากหรือจ่ายน้อย ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้
ทางรายการ ถกไม่เถียง ได้ติดต่อไปยัง นายเฉลิมชัย บัวจันอัด ผู้ตรวจราชการกรมบังคับคดี ถึงความคืบหน้าของคดีนี้ นายเฉลิมชัย เปิดเผยว่า คดีนี้มีการบังคับคดียึดทรัพย์ไว้แล้ว ทางกรมบังคับคดีสามารถช่วยในการไกล่เกลี่ย เราได้ทำไปแล้วในวันที่ 6 พฤษภาคม โดยให้ผ่อนชำระหนี้เดือนละ 4 พันบาท และงดการบังคับคดีไว้ 3 เดือน ซึ่งการไกล่เกลี่ยสามารถเกิดขึ้นได้ใหม่ สามารถคุยกันได้ตลอด ในส่วนการบังคับคดี เจ้าหน้าที่ต้องบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งอยู่ที่เจ้าหนี้ว่าจะฟ้องอายัดทรัพย์ของลูกหนี้ หรือผู้ค้ำประกัน หรืออาจจะทั้ง 2 ฝ่ายร่วมกัน คดีลักษณะนี้มีเยอะพอสมควร กรมบังคับคดีมีแนวทางปฏิบัติว่า ถ้าคดีไหนมีทุนทรัพย์น้อย แล้วทรัพย์ที่ยึดมีมูลค่าสูง ให้เจ้าหน้าที่บังคับคดีมีการไกล่เกลี่ย 2 ครั้ง ก่อนจะมีการขายทอดตลาด
ขณะที่ นายวิเชียร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คุณอามาจากบุรีรัมย์ตัวเปล่า แล้วมาได้ภรรยาที่นี่ ซึ่งภรรยาเขามีรถขับ ผมเลยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเขามีทรัพย์สินอะไรบ้าง เขาอยู่กับภรรยาก่อนที่จะมีการเช่าซื้อรถ ก่อนที่จะเกิดการฟ้องยึดทรัพย์ และประมาณเดือนกว่าๆที่ผ่านมา เขาเพิ่งหย่ากับภรรยา แต่เขายังอยู่ด้วยกัน ทุกวันนี้ผมค้างค่าไฟมาประมาณ 2 พันกว่าบาท ก็ได้มีการโทรไปขอเลื่อนไม่ให้เขามาตัดไฟ ที่มาร้องในวันนี้ ผมไม่ได้ต้องการเงิน ผมแค่อยากได้ที่ดินเอาไว้ ไม่อยากเสียที่ดินที่เป็นมรดกของแม่ไป ถึงแม้จะโดนขายทอดตลาด แล้วได้เงินส่วนต่างคืนมาก็ตาม แต่ที่ดินมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่า
สุดท้าย ทนายสงกานต์ ชี้ช่องทางออกว่า กรณีนี้คุณอาจะไม่รู้สึกรู้สาไม่ได้ ตามกฎหมาย ถ้าผู้ค้ำประกันมีการชำระหนี้แทนลูกหนี้ ก็สามารถฟ้องร้องไล่เบี้ยคุณอากลับทีหลังได้ ผมอยากแนะนำว่า เราต้องชี้ช่องให้กับโจทก์เลย ว่าเขามีทรัพย์สินอะไรบ้าง มีรถ มีบัญชีเงินฝากเท่าไหร่ เขาจะได้ตามไปอายัดได้ เราต้องแสดงความบริสุทธ์ใจกับโจทก์ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ซึ่งถ้าเขามีรถแล้วรถเป็นของภรรยา ต้องดูว่าภรรยาอยู่ก่อนที่จะมีการเช่าซื้อ หรือเช่าซื้อก่อน ถ้าอยู่ก่อนเช่าซื้อก็ต้องตรวจสอบว่ามีการจดทะเบียนสมรสหรือไม่ ถ้าจดทะเบียนสมรส ก็ต้องรับผิดร่วมกัน และถ้าเขาหย่ากับภรรยา แต่ยังอยู่ด้วยกัน ก็ยังถือว่าผูกพัน เราต้องชี้ช่องเจ้าหนี้ กรณีนี้คุณอาจะเข้าข่ายฉ้อโกงเจ้าหนี้ทันที จริงๆคดีนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และเหล่ากาชาดจังหวัด ควรเข้าไปดูแล เพราะเข้าข่าย ทั้งพิการและมีความทุกข์ร้อน
สรุปโพล คุณกล้าค้ำประกันให้ญาติสนิทของตัวเองหรือไม่?
ทั้งนี้ รายการ ถกไม่เถียง ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็น รับสิทธิพิเศษจากผู้สนับสนุนและพันธมิตรได้ทุกตอนผ่าน TERO Digital ได้ที่
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com