จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เชี่ยวชนกับรถแบคโฮ จนร่างกระเด็นตกพื้นเสียชีวิต ย่านมอเตอร์เวย์ เทคโนฯลาดกระบัง ซึ่งพลเมืองดีได้อัดคลิปและถ่ายภาพบริเวณโดยรอบสรุปได้ว่ามืดและไม่มีป้ายหรือไฟแจ้งเตือนใดๆ ซึ่งล่าสุดพ่อเเม่ผู้เสียชีวิตได้มาร้องทุกข์ผ่านรายการถกไม่เถียงเนื่องจากผ่านไป 44 วัน คดีไม่คืบหน้า ซ้ำคู่กรณีรถตักแบคโฮไม่เคยมาพูดคุยและไม่มารับทราบข้อกล่าวหาอีกด้วย
"ถกไม่เถียง" วันนี้ ( 12 พ.ค. 64 ) ดำเนินรายการโดยพิธีกร ทิน โชคกมลกิจ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง นิติยา บุญลัย แม่ของผู้เสียชีวิต วิโรจน์ ชูอินทร์ พ่อของผู้เสียชีวิต / ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการ.ปฏิรูปประเทศด้านยุติธรรม พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (โฟนอิน) เเละ ชัยยุทธ มังศรี เลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ (คปภ.) (โฟนอิน) มาร่วมพูดคุยกันถึงประเด็นนี้
โดยเรื่องราวคุณเเม่เเละคุณพ่อ ผู้เสียชีวิตได้เล่าว่า หลังลูกชายเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เชี่ยวชนกับรถแบคโฮ น้องยังหายใจเเต่น้องก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยที่เกิดเหตุไม่มีใครเห็นกับตาว่าเกิดอะไรขึ้น ตำรวจก็ไม่ได้เขียนอะไร ไม่มีความชัดเจนเลยว่า บริษัทอะไรทำอะไรตรงบริเวณนั้น ตำรวจก็ไม่ได้แจ้งว่าเขาทำอะไรทำงานอะไรแม่ไม่ได้รับการเยียวยาจากคู่กรณีเลย ไม่มีการติดต่อ ไม่มีคำตอบจากคู่กรณีเลย โทรหาตำรวจ เขาบอกให้รออีกฝ่ายมาเซ็นต์ยอมรับข้อกล่าวหา ทางแม่ได้แค่ใบลงบันทึกประจำวัน และใบยืนยันการเสียชีวิต
ข้อความสุดท้ายที่แม่ได้คุยกับลูกคือฝากซื้อก๋วยเตี๋ยว แล้วลูกตอบกลับมาว่าแปบนะครับแม่ มีพลเมืองดีโทรแจ้งมา เขาขับรถผ่านแล้วได้ยินเสียงปุ้งดังมากเลยวกรถกลับมาดู เจอน้องประสบอุบัติเหตุ เลยใช้นิ้วน้องแสกนปลดล็อกมือถือเพื่อโทรหาญาติน้อง
พลเมืองดีเล่าให้ฟังว่า ทางบริเวณนั้นมืดมาก เขาขับรถผ่านไปแล้ว แต่ก็ได้ยินเสียงกระแทกเสียงดัง จึงกลับมาเห็นว่าร่างของน้องกระแทกกระเด็นไปถนนอีกฝั่ง รถมอเตอร์ไซค์ก็กระเด็นไกลออกไป แม่รอว่า หลังจากงานศพน้องเสร็จ เขาคงจะติดต่อกลับมา แต่จนวันนี้ที่เผาศพน้องเสร็จไปแล้ว เขาก็ไม่ติดต่ออะไรกลับมาเลย
ต่อมาด้าน ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีนี้ว่า เขามาร้องทุกข์ว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มีการตั้งข้อหา เมื่อดูหลักฐานแล้วทำให้เห็นว่า ไม่มีการติดตั้งไฟส่องสว่าง และไม่ได้มีการตั้งสิ่งกีดขวางระหว่างการปฏิบัติงาน มันเป็นความผิด แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้ดำเนินการตั้งข้อหาใดๆ การก่อสร้างตรงนั้น ในข้อมูลเชิงลึกระบุว่า เอกชนดำนเนินงานร่วมกับกรมทางหลวง กรมทางหลวงไม่เคยปฏิเสธเลยว่าเป็นผู้ว่าจ้างหรือไม่ เเต่เขาเงียบเลย ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามหลักกรมทางหลวงต้องออกมาเยี่ยมหรือมาเเสดงตัวพูดคุยได้เเล้ว
ส่วนท่าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เผยความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้ว่า คดีนี้วันเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่จยย.เฉี่ยวชนกับรถแบคโฮที่กำลังทำงานอยู่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แบคโฮนี้เป็นบริษัทรับเหมาทำถนนกับกรมทางหลวงชนบท ซึ่งตอนนี้เราทราบตัวคนขับรถแบคโฮแล้ว และกำลังตั้งข้อหาผู้ขับขี่ ทางตำรวจมีหลักฐานทั้งหมด ในเบื้องต้นรอผลการตรวจของทั้ง 2 ฝ่าย และรอผลชันสูตร ถ้าผลชันสูตรออกมาก็จะสรุปผลได้ คาดว่าน่าจะอีก วัน สองวันนี้
ฝั่งคุณแม่ผู้เสียชีวิตยอมรับ ไม่มีสิ่งไหนที่จะแลกกับชีวิตลูกชายแม่ได้ แม่ก็แค่คนๆนึง ที่ไม่รู้เรื่องกฎหมาย ก็ได้คุณทนายมาช่วยให้คำแนะนำ ซึ่งทางด้านทนายสงกาญ์ ได้กล่าวต่อว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ พนักงานสอบสวนต้องทราบให้ได้ว่า ฝ่ายคู่กรณีมีการทำประกันเอาไว้หรือไม่ เพื่อที่ฝ่ายผู้เสียหายจะสามารถได้รับการชดเชยได้
ส่วนด้านคุณชัยยุทธ เลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ (คปภ.) ได้กล่าวถึงกรณีนี้โดยรวมว่า ต้องไปมองคู่กรณีอีกส่วนนึงคือแบคโฮ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิด ถ้าอีกฝ่ายผิดก็จะไปดูประกันของรถ คือต้องรอให้คดีจบก่อน ถ้าแบคโฮเป็นฝ่ายผิด เขาทำประกันไว้ ก็จะต้องเอาตรงนั้นไปเยียวยาได้เลย ตามรูปความคดีของตำรวจเป็นหลัก
ทั้งนั้นคุณพ่อผู้เสียชีวิตได้ตั้งข้อสงสัยว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุได้มีการอายัดรถจยย.ไปเลย แต่ไม่ได้ยึดรถแบคโฮ เขาบอกว่ามันเป็นเครื่องจักรขนาดใหญ่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก แล้วก็ไม่เคยเห็นรถคันนี้อีกเลย จนไปปรึกษาทนายสงกาญ์จนเป็นเรื่องขึ้นมา วันนี้ถึงเจอรถแบคโฮจอดอยู่
ซึ่งตรงกับที่ทนายสงกาญ์เผยข้อสงสัยเช่นกันว่า ในบันทึกประจำวันได้ลงเอาไว้ว่ารถแบ็คโฮจอดเสียอยู่ข้างทาง แต่ในความเป็นจริงและหลักฐานได้ชี้ให้เห็นว่า รถแบ็คโฮมีความเคลื่อนไหวชัดเจน คดีนี้นอกจากคนขับแบคโฮที่ต้องถูกดำเนินคดีแล้ว กรมทางหลวงชนบท และบริษัทผู้รับเหมาต้องเข้ามาดูแลด้วย ซึ่งคดีนี้เป็นคดีประพฤติตนโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นคดีที่ไม่สามารถยอมความได้ เรื่องนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รับทราบแล้ว ผมเชื่อว่าตำรวจที่ดูแลคดีต้องรีบดำเนินการ คาดว่าไม่น่าเกิด 3 เดือนน่าจะเริ่มเห็นผล
ก่อนปิดท้ายคุณแม่ผู้เสียชีวิตได้เผยว่า แม่ก็เหมือนประชาชนคนทั่วไป ที่ไม่ทราบกฎหมาย ก็ต้องขอความเห็นช่วยเหลือ และความเห็นใจจากทุกฝ่ายกับความสูญเสียในครั้งนี้ สิ่งที่ลูกคิดไว้ ตอนลูกอายุครบ 20 ปี เขาขอให้แม่ออกรถให้ แล้วเขาจะบริหารจัดการเอง แม่นัดออกรถวันที่ 1 เมษายน แต่กลับต้องไปรับศพลูกในวันที่ 31 มีนา แทน สิ่งที่ครอบครัววางแผนไว้ทั้งหมดก็ต้องหยุดลง มันเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัว เขาไม่ใช่ผู้เสียหาย เขาอาจจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เราต้องเผชิญมันหนักหนาขนาดไหน
โดยทนายสงกาญ์ได้ปิดท้ายเรื่องราวในครั้งนี้ว่า ทุกเคสที่มีผู้เสียหายในคดีอุบัติเหตุ มักจะมีความล่าช้าในการดำเนินการเสมอ ขอให้ผู้เสียหายเก็บข้อมูลและความรู้สึกเอาไว้ เพื่อนำไปบอกเล่าในชั้นศาลว่าไม่มีการเยียวยา หรือชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้น ศาลจะให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน
สรุปโพล คุณรู้สึกยังไง เมื่อเจอเจ้าหน้าที่ทำถนนข้างทาง ในยามกลางคืน?
ทั้งนี้ รายการ ถกไม่เถียง ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็น รับสิทธิพิเศษจากผู้สนับสนุนและพันธมิตรได้ทุกตอนผ่าน TERO Digital ได้ที่
Facebook https://cutt.ly/gzL1mhU
LINE https://cutt.ly/szL1RML
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com
ทิน โชคกมลกิจ
ที่ตักแม็คโคร
รถแม็คโคร
จยย
มอเตอร์ไซค์
ป้ายเตือน
ไร้หน่วยงานแยแส
ทนายสงกาญ์
ถกไม่เถียง
แบคโฮ
รถแบคโฮ