ช็อก 'เก๋ อัญวีญ์' เมียนอกสมรส ฟ้อง 'บัวขาว' 25 ล้าน แฉยับเรื่องที่ใครก็รับไม่ได้ ถูกทัวร์ลง ไล่ฟ้องระนาว

จากกรณี “เก๋ อัญวีณ์” ภรรยานอกสมรส บัวขาว บัญชาเมฆ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ต้องการให้บัวขาวรับรองลูกสาววัย 5 ขวบ พร้อมระบุที่ผ่านมา ฝ่ายบัวขาวไม่เคยเลี้ยงดูบุตรเลย พร้อมเรียกค่าอุปการะเลี้ยงบุตรสูงถึง 25 ล้านบาท ทำให้สร้างความฮือฮาไปทั้งโลกออนไลน์ จนกระเเสตีกลับชาวเน็ตต่างให้ความเห็นว่าคุณเก๋ต้องการจับบัวขาว ฝั่งทนายก็หิวเเสง อีกทั้งด้านเเฟนเพจบัวขาวได้ออกมาโต้ว่า เลี้ยงลูกดีมาตลอดเเละได้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 20 ล้าน ด้านคุณเก๋แฉไม่เป็นความจริงให้บัวขาวงัดหลักฐานมาสู้กันได้เลย

วันนี้ (6 พ.ค.2564) รายการ “ถกไม่เถียง” ทางช่อง 7HD ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ได้เชิญ น.ส.อัญวีณ์ พรชัยวิบูลย์ หรือ "เก๋" ภรรยานอกสมรสของนายสมบัติ บัญชาเมฆ หรือ "บัวขาว" นักมวยไทยชื่อดัง  และ อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ มาร่วมพูดคุยกัน

เก๋ อัญวีณ์ ได้เผยจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์รู้จักบัวขาวเมื่อต้นปี 56 ที่ร้านอาหารซอยทองหล่อ เขาไปงานวันเกิดเพื่อน แล้วเพื่อนเราอยากขอถ่ายรูปด้วย เก๋ก็พาไปขอเขาถ่ายรูป ประมาณเที่ยงคืน เขาก็เดินเข้ามาอวยพรวันเกิดเพื่อน แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ตื่นเช้ามาก็มีเบอร์โทรเข้ามา ถามว่าเป็นยังไง ยังมีชีวิตรอดไหม เก๋ก็ถามว่าพี่ไปเอาเบอร์เก๋มาจากไหน เขาก็ติดต่อมาชวนไปทานข้าว เราก็ไปแต่มีเพื่อนไปด้วย หลังจากต้นปี 57 ก็สานความสัมพันธ์กัน มีไปมาหาสู่ ไปกินข้าวด้วยกัน สามารถเรียกว่าแฟนได้ จนปี 58 เราก็มารู้ว่าตั้งครรภ์

ตั้งครรภ์ประมาณเมษา 58 ท้องได้ 2 เดือน ก็บอกเขา เขาก็รับรู้ แต่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน คลอดลูก 1 ธ.ค.58 วันที่คลอดเขาติดงาน ตอนกลางคืนอีกวันนึงเขาเสร็จงานก็มาหาที่โรงพยาบาล เราให้เกียรติเขา ถามว่าให้ใช้นามสกุลเขาไหม เขาก็บอกว่าให้ใช้นามสกุลของเก๋ก่อนแล้วกัน

ประมาณมีนา-เมษา ปี 59 เราก็ย้ายมาอยู่บ้านเดียวกัน และมีการเปลี่ยนนามสกุลน้องเป็นนามสกุลพ่อ ตอนแรกเสนอให้เขาจดทะเบียนสมรส แต่เขาไม่ยอมจด เราเคยบอกให้เขาจดทะเบียนสมรสเลย แต่เขาไม่ยอมจด ซึ่งเก๋ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม นัดวันเวลากันแต่เขาก็ไม่ว่างไป ตอนเสนอให้เขาเซ็นรับรองบุตรให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เขาก็ไม่มา ไม่ว่าง ไม่อะไรบ้าง จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้เซ็น

ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ด้วยกัน เขาก็ไปมากับที่บ้านจนถึงสิ้นปี 59 เขาก็เริ่มทำตัวช็อตเงิน แล้วก็เริ่มทำตัวเหินห่าง จุดแตกหักคือ เขาย้ายค่ายมวยไปอยู่ที่เชียงใหม่ แล้วไม่ได้บอกเราเลย วันที่เขาจะไปบวชก็มาขอขมาเราที่บ้าน ซึ่งเราโกรธมาก จะบวชพรุ่งนี้แล้วแต่เพิ่งมาบอกเรา แล้วก็เริ่มห่างออกเรื่อยๆ พอช่วงกลางปี 60 ถึงปลายปี เขาก็เริ่มไม่ค่อยช่วยเหลือค่าใช้จ่าย วันนี้จึงตัดสินใจเดินหน้าฟ้องเรื่องให้บัวขาวรับรองบุตร เพราะเรามั่นใจว่าเราดูเเลลูกได้ดีกว่า

ด้านทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้พูดถึงกรณีมีข่าวเสียหายโดนทัวร์ลงหนักว่าได้เสียคิดเกินเลยกับลูกความอย่าง คุณเก๋ กับคุณเก๋ไม่รู้จักกันมาก่อน เขาก็เลือกทนาย สุดท้ายมาลงที่ผม ปกติผมไม่รับคดียาเสพติด ฟ้องหย่า และคดีเกี่ยวกับเพศ คดีเกี่ยวกับครอบครัวเป็นคดีที่เกี่ยวกับเรื่องละเอียดอ่อนก็เลยไม่ค่อยรับ แต่คดีนี้มันเหมือนชีวิตเรา เราก็เลยเข้าใจหัวอกของเขา เลยตัดสินใจทำคดีให้เขา เราคุยกันแค่เฉพาะเรื่องของงาน ที่เอาไปพูดกันว่าผมกับเขามีอะไรกัน มันทำให้ผมเสียหายถึงครอบครัว ถ้าภรรยาของผมไม่เข้าใจ เราก็อาจจะมีปัญหากันได้ ผมยืนยันว่าไม่มีอะไร

เรื่่องฟ้อง 25 ล้าน ผมไม่เคยบอกใครเลย แต่อยู่ๆเพจบัญชาเมฆมาลงว่าฟ้อง 25 ล้าน พอลงปุ๊บทัวร์ก็มาลงเลย เราต้องอธิบายว่า ที่มาของ 25 ล้านมาจากไหน

คุณเก๋เผยไม่เคยได้เงิน20ล้านจากบัวขาวตามที่เป็นข่าวเลย ถ้ามี 20 ล้าน เอาเอกสาร เอาบิลมาเลยค่ะ เก๋จะคืนให้ทั้งหมดเลย เงินก้อนมีค่ะ แต่มันไม่ถึงอยู่แล้ว จะนั่งจะตะแคงนับยังไงมันก็ไม่ถึงค่ะ โรงเรียนที่ลูกเรียนก็เป็นโรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้าน เราก็ต้องหาทางหางานทำเพื่อที่จะให้ลูกเข้าโรงเรียนได้ ใครที่ว่าเราติดหรูคือไม่จริง พอถึงเวลาลูกเข้าโรงเรียน เขาก็บอกว่าให้เข้าโรงเรียนวัด แต่เขาเป็นลูกของบัวขาว การเรียนที่โรงเรียนวัด กับโรงเรียนเอกชนมันมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

ในมุมของเก๋เขาก็เป็นคนที่ดีคนหนึ่ง มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่ดี แต่ในด้านการบริหารครอบครัวเขาทำได้ไม่ดี มันถึงเวลาแล้วที่เก๋ต้องออกมา เก๋เคยบอกเขาแล้วว่าถ้าเขาไม่รับรองหรือทำอะไรเก๋จะฟ้องศาลนะ เราไม่ได้ทะเลาะแตกหักกัน เรื่องการรับรองบุตรเราคุยกันมานานแล้ว แต่เขาไม่ยอมทำ เราจึงต้องออกมาฟ้องร้องแบบนี้ ก่อนที่จะเกิดเรื่อง เขาก็มีโทรมาพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับลูกบ้าง ประมาณ 3 - 5 นาที จนลูกถามว่าทำไมพ่อโทรมาแค่นั้น

เมื่อก่อนเคยรัก ตอนนี้เรียกว่าแค่มีความหวังดีให้ เราอยากให้เขามาคุย ซึ่งเรื่อง 25 ล้านเนี่ย มันไม่ได้ยอดนั้นจริงๆหรอก มันอยู่ที่ดุลพินิจของศาล ถามว่ามีโอกาสจะกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันอีกไหม ถ้าเขายังร่วมงานกับทีมงานใกล้ชิดทีมนี้อยู่ ก็คงตอบว่าไม่ค่ะ ส่วนเรื่องที่ทำให้เสียความรู้สึก มันเป็นเรื่องเกี่ยวข้องของบุคคลที่ 3 4 5 และมากกว่านั้นที่เกี่ยวข้องกับเขาล้วนๆเลย

ส่วนในเรื่องคดีความคุณเก๋ไม่กังวลเรื่องเส้นสายของบัวขาว "เราไม่กลัวว่าเขาจะมีคนหนุนหลังยิ่งใหญ่จากไหน เพราะวันนี้เราเชื่อว่าสิ่งที่เราทำเป็นความถูกต้อง"

ส่วนเรื่องการที่ถูกทัวร์ลงในโซเชียล เราไม่ได้โกรธคนที่มาพิมพ์ เขาแค่มือไวกว่าสมอง ก็ต้องรับผลของการกระทำ เราโกรธคนที่สร้างประเด็นให้มีทัวร์มาลงมากกว่า และโกรธบัวขาวด้วยที่ไม่ออกมาปกป้อง และเราไม่รับการขอโทษเป็นกระเช้านะคะ มันรกบ้าน

อยากบอกบัวขาวว่า ความจริงก็คือความจริง ใครทำอะไรไว้ก็ได้รับแบบนั้น

ในการเรียกร้องโควิดมันเกิดปี 2019 มันไม่มี โควิด 2017 อยู่แล้ว และมันก็ไม่ได้เกิดแค่ที่ค่ายบัญชาเมฆอย่างเดียว มันเกิดไปทั่ว เขาจะเอาอะไรมาช็อตในตอนนั้น รายได้จากงาน หรือพรีเซนเตอร์อะไรของเขา เก๋รู้หมด ไม่เคยกีดกันพ่อลูก มีแต่เขาที่ไม่ค่อยมาหาลูกเอง เรามาเพื่อวัตถุประสงค์เดียวคือ การเซ็นต์รับรองลูก ไม่ได้หวังจะโจมตีอะไรเลย วันก่อนที่พูดเอาไว้ยังไงมันก็เป็นอย่างนั้น มีแต่ฝ่ายเขาที่ออกมาสร้างข้อกล่าวหาให้เก๋เป็นฝ่ายผิด มาทำให้ทัวร์ลงที่เรา

บัวขาวไม่เคยขอตรวจ DNA เพราะ DNA อยู่บนหน้า เเละสิงที่เก๋อดทนพยายามทำงานให้มีเงินมาเลี้ยงลูก เพราะคิดว่าเขาเอาเงินไปลงทุนทำค่ายมวยใหม่ คิดว่าใช้เงินเยอะ แต่เขาก็มายืมเงินเก๋ ให้เก๋ไถ่นาฬิการาคา 6 แสนบาทให้ เเล้วเวลามีคนถามว่าน้องมีตังค์ลูกใคร เก๋ไม่บอกคนอื่นว่าเขาเป็นลูกของบัวขาว เพราะส่วนตัวไม่ภูมิใจในความเป็นบิดาของเขา เขาไม่เคยช่วยเก๋รับผิดชอบดูแลลูกเลย

ทนายอนันต์ชัย ได้ส่งท้ายเรื่องนี้ว่า การที่ออกมาเรียกร้องเงินจำนวนนั้น มองในมุมของผู้ปกครอง เขาก็ต้องอยากจะให้ลูกได้เรียนในสภาพแวดล้อมที่ดี คุณเก๋เขาก็มีศักยภาพในการส่งลูกให้เรียนได้ในระดับกลาง แต่พอมาดูศักยภาพของคุณบัวขาวแล้ว มันสามารถไปได้ไกลกว่านั้น การที่เขาบอกว่าการเงินไม่มีสภาพคล่องนั้น เป็นการอ้างจากเขาฝ่ายเดียว แต่เราสืบมา และมีข้อมูลว่า เขามีกิจการอยู่อีกหลายอย่าง เป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ในเมื่อเขาเป็นพ่อ ก็ควรจะเข้ามารับผิดชอบดูแลบุตรด้วย เราจึงฟ้องให้เขาเข้ามาแบ่งเบาภาระตรงนี้ไปด้วยกัน

เหตุผลที่ฟ้องเรียก 25 ล้านในครั้งเดียว ในประสบการณ์ของเรา เมื่อตกลงให้ชำระเงินเป็นรายเดือน หรือรายปีนั้น มักจะมีข้อแม้ และข้อจำกัดที่จะไม่ให้มากมาย เราเรียกก้อนเดียวเพื่อแก้ปัญหาตรงนี้ แต่ศาลจะให้หรือไม่นั้น มันเป็นดุลยพินิจของศาล

ปัญหามันเกิดขึ้นจากคนสองคน คุณบัวขาวกับคุณเก๋ ผมเป็นแค่คนดำเนินการเชื่อมต่อ คนที่จะแก้ปัญหานี้ได้คือทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ผู้จัดการ หรือพี่สาว ที่ออกมาพูดจนกลายเป็นประเด็น

ส่วนสาเหตุที่ฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด 800 กว่าคดี เพราะผมถูกเข้าใจผิด การที่ผมมาช่วยเหลือผู้หญิงสองคนแม่ลูก ผมทำเพื่อความถูกต้อง แต่เขามาต่อว่าถึงครอบครัวผม มาพูดว่าผมเป็นสามีใหม่คุณเก๋เขา ผมตัดสินใจฟ้องให้เป็นบรรทัดฐาน ให้พวกมือเร็วกว่าสมองมีสติยั้งคิดมากขึ้น ไม่ได้หวังเงิน ต้องการสร้างบรรทัดฐานให้มือคีย์บอร์ด ว่าก่อนจะพิมพ์อะไรให้คิดมากกว่านี้ อย่าเลยเถิด อย่าดึงครอบครัวเขามาเกี่ยวข้อง
 

สรุปโพล คุณอยู่ทีมไหน?

ทั้งนี้ รายการ ถกไม่เถียง ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็น รับสิทธิพิเศษจากผู้สนับสนุนและพันธมิตรได้ทุกตอนผ่าน TERO Digital ได้ที่
Facebook https://cutt.ly/gzL1mhU
LINE https://cutt.ly/szL1RML

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com