จะจบอย่างไร! ยายหลั่งน้ำตา ใช้ทางกว่า 50 ปี โดนล้อมรั้วปิด เจ้าของใหม่ยันไม่ยกที่ให้

เดือดร้อนหนัก ยายวัย 74 ปี ถูกเจ้าของที่ดินใหม่ล้อมรั้วปิดทางที่ใช้มานานกว่า 50 ปี ต่อมาได้ฟ้องศาลชั้นแต่แพ้ เพราะมีทางออกอีกด้าน ล่าสุดยายหลั่งน้ำตาปรับทุกข์ ต้องตื่นตี 3 ออกไปทำงานแม่บ้าน เดินอ้อมทางเปลี่ยวกว่า 1.5 กิโลเมตร จากเดิมแค่ 60 เมตร 

จากกรณีเจ้าของที่ดินล้อมรั้วปิดทางคุณยายเเละชาวบ้านที่ใช้เดินทางไปขายของทุกวัน ซึ่งชาวบ้านร่วมกันบริจาคเป็นทางเข้า-ออก เมื่อกว่า 18 ปีที่ผ่านมา จนล่าสุดหลังชาวบ้านได้ร้องไปถึงศาลผลปรากฎว่าเเพ้คดี ด้านเจ้าของที่ดินยันทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ไม่ได้ไปเบียดบังเอาที่คนอื่นมาเป็นของตัวเอง

"ถกไม่เถียง" วันนี้ ( 29 เม.ย. 64 ) ดำเนินรายการโดยพิธีกร ทิน โชคกมลกิจ ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ยายเป้า นางไพจิตร ศรีผดุง ผู้ที่ถูกเจ้าของที่ดินล้อมรั้วปิดทางเข้าบ้าน คุณกัลยา อนันตเพรช อดีตประธานชุมชนวัดป่าเรไร คุณแหวว นางสาวยุพิน ศรีผดุง ลูกสาวของยายที่ถูกเจ้าของที่ดินล้อมรั้วปิดทางเข้าบ้าน เเละ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม มาคุยกันถึงประเด็นนี้

จากกรณีพิพาทเจ้าของที่ดินล้อมรั้วปิดตายทางเข้าออกสาธารณะที่ชาวบ้านตำบล นางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ใช้สัญจรเข้า-ออกมากว่า 50 ปี ส่งผลกระทบอย่างหนักทำให้คุณยายเป้า- ไพจิตร ศรีผดุง อายุ 74 ปีที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่ดินผืนดังกล่าวไม่สามารถเข้าออกทางเดิมได้ต้องใช้เส้นทางใหม่ซึ่งหนทางลำบากและอ้อมไกลกว่าเดิมร่วม 2 กิโลเมตร ทำให้ลูกหลานเกิดความเป็นห่วงเนื่องจากคุณยายอายุมากแล้วจึงออกมาร้องขอความเห็นใจผ่านสื่อและขอให้เจ้าของที่ดินเห็นแก่หลักมนุษยธรรม

ด้านยายเป้าเผย ยายอยู่ที่นี่มา 50 กว่าปีแล้ว ใช้ทางตรงนี้เป็นทางเดินมาตลอด ตอนนี้มันลำบากมาก ไม่มีทางเดิน ต้องอ้อมไปไกล ต้องผ่านป่า เมื่อก่อนที่นี่มีกรรมสิทธิ์อยู่แล้ว แต่แบ่งกันเพื่อให้เป็นทางเดิน

ส่วนด้านคุณแหวว ลูกสาวของยาย เผยตอนแรกเขาจะปิดทางทั้งหมด เหลือแค่ 2 เมตรก็ไม่ยอม แต่ตอนนี้เขายอมแล้ว เขาไม่ได้ยอมรับเป็นลายลักษณ์อักษร เขายอมรับปากเปล่าแค่เพราะเราออกสื่อ ยังไม่มีอะไรยืนยันว่าเขาจะให้เราใช้เป็นทางเดินไปตลอด ทางออกอีกทางมันค่อนข้างลำบาก มันไกล มันเปลี่ยว กลายเป็นป่าทึบ มีแต่เสาไฟ แต่ไม่มีไฟส่องสว่าง ทำให้มันอันตราย

ในอดีต พ่อของเจ้าของที่ เคยให้สัญญาแบบปากเปล่ายอมให้ใช้เป็นทางเดินได้ แต่พอเปลี่ยนเจ้าของ เป็นมรดกให้ลูกของเขา เขาก็เปลี่ยนไป เมื่อก่อนที่ตรงนี้เป็นที่ของพี่ชายของยาย แต่ขายให้กับพ่อของเจ้าของคนปัจจุบัน

เราไปศูนย์ดำรงธรรม แล้วเขาให้มาไกล่เกลี่ยกับเจ้าของที่ แต่เจ้าของที่ไม่ไกล่เกลี่ยด้วย ศูนย์ดำรงธรรมเลยแนะนำให้ฟ้องเป็นภาวะจำยอม เลยกลายเป็นชื่อคุณยายฟ้องคนเดียว แล้วมอบหมายให้ทนายอาสาเป็นคนไปดำเนินการ

โดยคุณยายเผยหลังจากศาลตัดสินแพ้คดี เลยไปไหว้ศาลประจำหมู่บ้านให้ช่วยเหลือ สงสารยายเถอะ ยายไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ยายต้องไปทำงาน จะกลับตอนกลางคืนมันก็มืด อันตราย ยายเคยไปขอความเห็นใจกับเจ้าของที่มาแล้ว ตอนแรกเขาก็บอกให้เดิน ให้จักรยานเข้าออกได้ แต่ผ่านมาเขาก็ไม่ให้ใช้อีก ส่วนทางอีกทางนั้นมันมืด รถของการไฟฟ้าก็ไม่สามารถเข้าไปซ่อมได้ รถยนต์ก็ไม่สามารถสัญจรได้

ฝั่งทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ หลังจากได้ฟังเรื่องราวก็ได้เเนะนำการเเก้ปัญหาเรื่องนี้เบื้องต้นว่า ตอนนี้คุณยายคงต้องไปฟ้องในเรื่องของทางเดินสาธารณะ ให้เทศบาลพื้นที่เป็นเจ้าภาพในการฟ้องร้อง โดยให้ชาวบ้านร่วมมือกัน มันก็มีโอกาสที่ศาลเขาจะให้ ผมคิดว่ามีโอกาสได้ โดยดูอดีตที่ผ่านมาว่าเป็นทางเดินจริงหรือเปล่า ใช้หลักฐานอะไรก็ว่าไป

ด้านคุณกัลยาอดีตประธานชุมชนวัดป่าเรไร ได้สอบถามข้อมูลทนายรณณรงค์หลายประเด็นเเละเผยว่า เจ้าของเก่ามีการทำหนังสือยินยอมให้บริจาคที่ดินตรงนี้เป็นพื้นที่เพื่อสาธารณประโยชน์ แต่พอเป็นเจ้าของใหม่มาเขาก็ไม่ยินยอมเหมือนเดิมอีก พอเขารู้ว่าจะไปออกสื่อ เขาก็มาบอกว่าอย่าเอาชื่อของเขาออกสื่อ ต่อมาบอกว่าให้เรื่องเสร็จก่อน แล้วเขาจะยอมให้ใช้เส้นทางอีก 2 เมตร ซึ่งฉันก็ไม่เข้าใจว่าเสร็จเรื่องอะไรอีก

จึงอยากขอร้องไปถึงเทศบาลตำบลนางรอง ให้ช่วยเหลือในการเดินเรื่องนี้ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถใช้ทางเดินนี้ได้

โดยทั้งนี้ ลูกสาวคุณยายเผยว่า ด้วยความเป็นชาวบ้าน ก่อนหน้านี้เราไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย มีแต่ชาวบ้านปรึกษากันว่าจะเอายังไงดี เลยไปร้องศูนย์ดำรงธรรม แล้วเขาก็แนะนำมาแบบนี้ตอนเขามาทำรังวัดก็ไม่มีใครรู้เรื่อง เจ้าหน้าที่กรรมการพื้นที่ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง จนพอเรื่องมันขึ้นศาลและเเพ้อย่างที่เห็น

สรุปส่งท้ายจากทนายรณณรงค์ ฝากถึงเจ้าของที่ดิน ตามข้อเท็จจริง มันเป็นทางที่หลวงเข้าไปพัฒนา เข้าไปลงทุนแล้ว มีการเอาเสาไปลงแล้ว ถ้าต่อมามีการไปปิดที่หลวง เทศบาลสามารถยื่นเพื่อให้ศาลพิจารณาได้ ซึงอาจจะลำบากหน่อยสำหรับเจ้าของที่ จึงอยากฝากถึงเจ้าของที่ การมีถนนตัดผ่านที่ดินของท่าน มันทำให้ที่ดินของท่านมีราคาสูงขึ้น ในอนาคตหลวงเขาอาจจะมาลาดยางให้อีก สามารถเพิ่มมูลค่าได้อีก

ถ้าเจ้าของไม่ยินยอมให้หลวงเข้าไปพัฒนา มันก็ไม่สามารถมีเสาไฟอยู่ในพื้นที่ได้ ถ้าหลวงเข้าไปโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม ก็ผิดกฎหมาย ในกรณีนี้เทศบาลมีอำนาจที่จะฟ้องได้ หรือจะไกล่เกลี่ยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นฟ้องร้อง
 

ทั้งนี้ รายการ ถกไม่เถียง ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็น รับสิทธิพิเศษจากผู้สนับสนุนและพันธมิตรได้ทุกตอนผ่าน TERO Digital ได้ที่
Facebook https://cutt.ly/gzL1mhU
LINE https://cutt.ly/szL1RML

ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com