ชีวิตไม่ง่ายกับการเป็น คนสองเพศ หรือ Intersex คนสองเพศ คือบุคคลที่มีอวัยวะเพศกำกวมดูไม่ออกว่าเป็นเพศชายหรือเพศหญิง เนื่องจากมีอวัยวะเพศสองอย่างอยู่ในคนคนเดียวกัน การเป็นคนสองเพศมักจะหมายถึงลักษณะทางกายภาพ ไม่ได้หมายถึงเพศสภาพหรือรสนิยมทางเพศ สำหรับ 'แทน คนสองเพศ' หรือ น.ส.มารศรี มิ่มกระโทก เกิดมาก็ถูกเลี้ยงดูแบบผู้หญิง จนเรียนชั้น ป.5 ถึงพบว่าอวัยวะเพศเป็นผู้หญิงไม่ชัดเจน มีลูกอัณฑะอยู่ข้างแคมผู้หญิง สร้างความสับสนให้กับตัวเองมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง แทน มารศรี โดนคดียาเสพติด ถูกส่งเข้าเรือนจำ แม้ในทางทะเบียนราษฎรจะเป็นผู้หญิง แต่ แทน มารศรี กลับถูกส่งเข้าไปใช้ชีวิตในเรือนจำชาย
'ถกไม่เถียง' วันนี้ (15 เม.ย.64 ) ดำเนินรายการโดยพิธีกร ทิน โชคกมลกิจ จึงได้เชิญ น.ส.มารศรี มิ่มกระโทก หรือ แทน คนสองเพศ และ พญ.ชัญวลี ศรีสุโข กรรมการแพทยสภา และแพทย์เชี่ยวชาญสูตินรีเวช โรงพยาบาลพิจิตร มาพูดคุยถึงเรื่องราวของคนสองเพศในร่างเดียว กับการใช้ชีวิตที่ไม่ง่ายเลยสำหรับกลุ่มคนอินเตอร์เซ็กส์
แทน คนสองเพศ เปิดเผยเรื่องราวชีวิตตนเองว่า ตอนเด็กเป็นเพศหญิง ใช้ชีวิตแบบผู้หญิง พอโตมาอายุประมาณ 12-13 ปี ร่างกายก็เริ่มเปลี่ยน เริ่มมีไข่อัณฑะ เสียงเปลี่ยน ตอนแรกที่คิดว่าเป็นผู้หญิง ก็คิดว่าจะมีประจำเดือน แต่ประจำเดือนก็ไม่มา ไม่เหมือนเพื่อน เลยให้แม่ดู แม่ก็เริ่มเอะใจ มีอวัยวะเพศชายขึ้นที่แคมผู้หญิง แม่เลยปรึกษา ผอ.โรงเรียน ทาง ผอ.เลยช่วยฝากที่สถานสงเคราะห์เพื่อประเมินร่างกาย ซึ่งแพทย์ก็บอกว่าที่เราเป็นอยู่เรียกว่าเป็นเพศกำกวม ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นว่าทำไมไม่เหมือนคนอื่น เริ่มมีอัณฑะออกมา แต่โตขึ้นมาก็ไม่ได้ใหญ่กว่าเดิม ยังมีขนาดเท่าเดิม ตอนนี้มีแฟนเป็นผู้หญิง มีความรู้สึกทางเพศกับผู้หญิง ซึ่งอวัยวะเพศจะแข็งตัว สามารถมีเพศสัมพันธ์กับแฟนได้ปกติ ซึ่งเมื่อก่อนคิดว่าตัวเองเป็นทอม ก็มีความสัมพันธ์กับแฟนแบบหญิงกับหญิง คือการใช้นิ้ว แต่ตอนนี้ลองใช้อวัยวะเพศชาย ก็สามารถใช้ได้ปกติ เพียงแต่การหลั่งจะไม่ปกติ
แทน ยังเล่าถึงประสบการณ์ ตอนถูกจับคดียาเสพติด ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำเพื่อฝากขังในห้องผู้หญิง เพราะด้วยความที่บัตรประชาชนเราเป็นผู้หญิง พอเข้าไปในเรือนจำหญิง คนจะคิดว่าเราเป็นทอม เรื่องการกินการอยู่สบาย แต่เราจะไปไหนมาไหนคนจะมอง อยู่แดนหญิงได้ประมาณ 3 เดือน แพทย์ก็ประเมินลักษณะเรา แล้วถามความสมัครใจว่าอยากอยู่เรือนจำไหน เราก็เลือกเรือนจำชาย เพราะมีความอยากรู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร เรือนจำชายอยู่ประมาณ 3 ปีกว่า ใช้ชีวิตลำบากกว่าคนอื่น เพราะต้องระวังตัวเองตลอดเวลา ตอนที่ย้ายมาเรือนจำชายใหม่ๆข่าวในคุกคือดังมาก ว่ามีนักโทษเหมือนชายเเล้วได้เข้าไปอยู่แดนหญิง แล้วพอมาอยู่แดนชายคนที่อยู่ในนั้นก็อยากรู้อยากเห็นอยู่แล้วว่าอวัยวะเพศเราเป็นอย่างไร เคยมีเอายามอมเมามาให้เรากิน ทำให้เกือบโดนข่มขืน แต่ไม่ได้โดน แต่พอเราเริ่มเกเรมากขึ้น เหมือนผู้ชายปกติ เขาก็ปล่อยเราแล้ว เวลาอาบน้ำในเรือนจำ ตอนอาบน้ำไม่เปลือยหมด ใส่กางเกงอาบน้ำ ไม่สามารถอาบน้ำรวมกับคนอื่นได้
ตอนนั้นอยากแก้ไขอวัยวะเพศตัวเอง เคยลังเล เพราะเคยมีแฟน แล้วแฟนไม่เข้าใจเรื่องอวัยวะเพศ แต่ตอนนี้ปล่อยวางแล้ว เพราะตัวเองชัดเจนแล้วว่าเป็นอะไร ตอนอายุประมาณ 14 - 15 ปี ก็มีหมอถามว่าอยากจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย เราก็ตอบว่าอยากเป็นผู้ชาย แต่เราก็กลัว เพราะเราไม่เคยใช้ชีวิตแบบผู้ชายมาก่อนเลย ถ้าถามว่าตอนนี้อยากเปลี่ยนคำนำหน้านามไหม แทนบอกว่า ไม่อยากเปลี่ยนคำนำหน้านาม เพราะไม่มั่นใจว่าถ้าเปลี่ยนเป็นนาย แต่เรายังมีอวัยวะเพศหญิงอยู่ กลัวจะมีปัญหาตามมา
สำหรับเรื่องการใช้ชีวิตกับแฟน แทน คนสองเพศ เปิดใจตรงๆกับถกไม่เถียงว่า ตอนมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงก็คือใช้อวัยวะเพศชายที่มีได้ปกติ เเต่เวลาเสร็จก็จะมีน้ำเชื้อออกมาทางช่องปัสสาวะ รับรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับความรู้สึกทางเพศ พูดอย่างไม่อายเลยว่าแฟนผู้หญิงเขาไม่รู้สึกฟินหรอก ด้วยที่อวัยวะเพศชายเรามันเล็กกว่าปกติคนทั่วไป มีบ้างที่แฟนผู้หญิงที่เขาไม่เข้าใจในอวัยวะของเรา
ส่วยเรื่องโดนล้อเลียน โดนบูลลี่ แทน ยอมรับว่า โดนมาตั้งแต่เด็ก โดนล้อเลียนมาตลอด ถูกเรียกว่า 'ไอ้สองเพศ' แต่ตอนนี้คิดว่าเราต้องโฟกัสที่ตัวเอง ปล่อยวาง เพราะมีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อก่อนเคยโทษตัวเอง โทษครอบครัว กับการที่เราเกิดมาเป็นแบบนี้ ทำไมไม่ปกติเหมือนกับคนอื่น มองตัวเองในกระจกก็ยังสงสัยกับตัวเองว่าเราเป็นอะไรกันแน่ แต่ตอนนี้ถ้ามีคนมาล้อเลียน หรือมาด่า เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว เพราะตัวเราเองรู้ว่าเป็นอะไร
"อยากให้คนที่เคยกระทำผิด อยากให้โฟกัสที่ตัวเอง อย่าไปโทษตัวเอง มุ่งมั่นในการทำงาน และพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น" แทน มารศรี กล่าว
ด้าน พญ.ชัญวลี ศรีสุโข กรรมการแพทยสภา และแพทย์เชี่ยวชาญสูตินรีเวช โรงพยาบาลพิจิตร ได้มาพูดคุยให้ความรู้ถึงกรณีเคสแบบ คุณแทน ว่า ภาวะเเบบนี้เราเรียกภาวะอวัยวะเพศกำกวม เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ไม่บ่อยแต่ก็ไม่ได้น้อยจนน่าตกใจ เพศกำกวมมีหลายสาเหตุ อย่างคุณแทนถ้าลองเจาะโครโมโซมดู น่าจะเป็นเพศชาย ซึ่งสามารถขอเปลี่ยนคำนำหน้านามเป็น นาย ได้ คนที่มีภาวะเพศกำกวมนั้น ตอนเด็กอาจจะยังแยกไม่ออก แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เริ่มมีฮอร์โมนเพศชายมากขึ้น อวัยวะเพศชายก็เริ่มมีการพัฒนาออกมาให้เห็นชัดมากยิ่งขึ้น เคสของคุณแทน ตอนเด็กคงเป็นผู้หญิงจริง ด้วยปุ่มกระสันอาจจะเล็กเลยตีเป็นเพศหญิง แต่พอเริ่มโตเป็นวัยรุ่น ฮอร์โมนเพศชายเริ่มออก ทำให้ลูกอัณฑะเคลื่อนเหมือนเป็นผู้ชาย ซึ่งในกรณีของคุณแทนไม่อันตรายมาก ที่อันตรายมากคือเป็นเพศหญิงแต่มีเพศกำกวมเป็นเพศชาย สำหรับการแก้ไข ก็สามารถทำได้ โดยการผ่าตัดให้ใหญ่ขึ้นและเปิดรูอวัยวะเพศตรงปลาย และถ้าอยากจะมีลูก อาจจะต้องไปเปลี่ยนคำนำหน้านาม เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องการรับรองบุตรได้
พญ.ชัญวลี ยังกล่าวด้วยว่า การถูกขานเพศผิดตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้เกิดความสับสนและไม่เข้าใจในตัวเอง อาจกลายเป็นบาดแผลทางจิตใจได้ คือเขาเป็นผู้ชายเเต่ถูกขานชื่อเป็นหญิง ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของจิตใจและเขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเขาพร้อม จริงๆ ทางการเเพทย์ห้ามพูดว่าผิดปกติ แต่ให้พูดว่าเพศกำกวม ซึ่งมันมีโอกาสเกิดขึ้นได้ 4,000 ในร้อย ซึ่งคุณแทนเขาคือเพศชายที่เเค่มีอวัยวะเพศกำกวมเฉยๆ ไม่อยากให้ใครมาบูลลี่เขา สิ่งที่คุณแทนเป็นไม่ใช่ คนสองเพศ เขามีเพศเดียว เพียงแค่อวัยวะเพศกำกวม เป็นเรื่องของธรรมชาติที่สร้างมาผิดไปจากปกติ
สรุปโพล คุณแทนควรใช้สรรพนามนำหน้าว่าอะไร
ทั้งนี้ รายการ ถกไม่เถียง ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็น รับสิทธิพิเศษจากผู้สนับสนุนและพันธมิตรได้ทุกตอนผ่าน TERO Digital ได้ที่
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com