พ่อทำอะไรไว้ ต้องชดใช้กรรม! หนุ่ย หน้าลาย ลูกชาย สมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ หลังทราบข่าวศาลพิพากษาประหารชีวิตพ่อฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า หากถูกประหารจริงพร้อมรับศพพ่อไปฌาปนกิจตามหน้าที่ลูก เพราะถือว่าพ่อทำผิด และได้รับกรรมที่ก่อไว้ ยอมรับว่ารัก แต่ไม่รู้สึกผูกพัน เพราะไม่ได้อยู่กับพ่อ ไม่ได้โตมากับพ่อ แต่เป็นพ่อบังเกิดเกล้า ต้องช่วยเท่าที่ช่วยได้ ขณะที่หลายคนสงสัย ประเทศไทยยังมีโทษประหารชีวิตหรือไม่
'ถกไม่เถียง' วันนี้ (7 เม.ย.64 ) ดำเนินรายการโดยพิธีกร ทิน โชคกมลกิจ จึงได้เชิญ พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) ,เพชรสยาม เจนหัตถ์นามเสนา หรือ ครูหน่อง อดีตเจ้าของบ้านเด็กแสงตะวัน และ หนุ่ย หน้าลาย ลูกชายของ สมคิด พุ่มพวง จึงหยิบยกประเด็นนี้มาพูดคุยกัน
หนุ่ย หน้าลาย เล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนเคยไปเยี่ยมพ่อที่เรือนจำ แต่รอบนี้ยังไม่ได้ไปเพราะเรือนจำงดเยี่ยม ตอนไปเยี่ยมพ่อก็ไม่เคยถามว่าทำไมถึงฆ่า เคยแต่ไปถามหาบ้านปู่ว่าอยู่ที่ไหน สำหรับคำถามที่ว่ารู้สึกยังไงที่พ่อโดนโทษประหาร ก็ไม่ได้เสียใจที่พ่อโดนโทษประหารชีวิต มันขึ้นอยู่กับกฎหมาย คนเราต้องรับโทษตามกฎหมาย ด้วยความที่ตัวหนุ่ยเองไม่เคยได้ใช้ชีวิตกับพ่อ แต่อยู่กับครูหน่องตั้งแต่เด็ก ที่บ้านเด็กแสงตะวัน จึงไม่ได้มีความผูกพันกัน หนุ่ยรับว่าเป็นคนเชื่อเรื่องเวรกรรม เพราะที่ผ่านมาก็โดนมาเยอะ เลยบอกคุณพ่อว่าหากโดนประหารชีวิตผมก็จะส่งแกไปสู่สุคติ
สำหรับกระแสที่ หนุ่ย หน้าลาย โดนสังคมรุมโจมตี เหตุเพียงเพราะเป็นลูกของ สมคิด พุ่มพวง และด้วยความที่ตัวเองเคยมีคดี และมีรอยสักบนใบหน้า ทำให้โดนคนมองว่าเป็นคนไม่ดีไปด้วย หนุ่ย ยอมรับว่าเครียด อยากลบรอยสัก เพราะไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวก หลังจากตัวเองพ้นโทษ ก็ออกมาประกอบอาชีพขายปลาหมึกย่าง กับแมลงทอด ตอนนี้ย้ายไปอยู่อุดรธานี เพราะตอนอยู่ขอนแก่นมีคนมาด้อมๆมองๆที่บ้าน ทำให้ระแวงไม่กล้าอยู่บ้าน หนุ่ยยืนยันว่า จะเป็นคนดี ไม่ทำอะไรให้คนอื่นเดือดร้อน ซึ่งถ้าคนกดดันมากๆ ผมก็จะปรึกษาพ่อหน่อง
ด้าน ครูหน่อง เพชรสยาม เจนหัตถ์นามเสนา อดีตเจ้าของบ้านเด็กแสงตะวัน ผู้ดูแล หนุ่ย มาตั้งแต่ยังเด็ก ได้เล่าเรื่องราวของหนุ่ยให้ฟังว่า ตัวหนุ่ย ไม่ได้มีพฤติกรรมส่อไปในทางรุนแรง อาจจะมีเกเรบ้างนิดหน่อย แต่พอมามีคดีที่พ่อเขาโดนจับ เขาเปลี่ยนไป ดูเครียด หงุดหงิดก้าวร้าว ก็อยากจะบอกสัมคมว่าต้องรู้จักแยกเเยะ ไม่อยากให้ไปลงที่หนุ่ยเขา อย่าพยายามยุให้เขาไปในทางโลกมืด ครูหน่องกลัวว่าถ้าผลการตัดสินเรื่อง สมคิด พุ่มพวง ออกมาไม่เป็นไปตามที่กระแสสังคมต้องการ สังคมจะเอามาลงที่ตัวลูก เพราะตอนนี้หนุ่ยเหมือนเป็นคนแบกรับความคาดหวังของสังคม ทั้งๆที่เขาไม่ได้มีความผิดอะไร ตัวครูหน่อง เห็นด้วยกับคนที่บอกว่าหนุ่ยเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น แต่ต้นของหนุ่ยคือ ครูหน่อง ซึ่งใกล้ชิดกับเขามากกว่า
สำหรับเรื่องรอยสักบนใบหน้าของหนุ่ย มีทั้งคนที่สนใจจะช่วยเเละอยากสักเพิ่มให้เพื่อความสวยงาม เเต่มันค่อนข้างเสี่ยงเเละถ้าจะเลเซอร์มันต้องทำหลายครั้งค่อนข้างลำบาก
ทั้งนี้ ครูหน่อง ยังแนะให้ภาครัฐลงมาช่วยดูแลเด็กๆในชุมชนบางคนที่ขาดโอกาส หรือเด็กที่มีปัญหา ซึ่งควรจะมีครูแนะแนวกระจายเข้าไปในชุมชน เข้าไปช่วยเหลือเด็กหลังห้อง เด็กหลังชุมชน เด็กหลังถนน หากเราไม่เข้าไปช่วยเหลือตรงนี้ สักวันเขาจะกลายเป็นเด็กหลังกำแพง ก่อนทิ้งท้ายถึงสังคมว่าไม่อยากให้เอาการกล่าวโทษจากการที่พ่อหรือแม่ประพฤติตัวไม่ดี ไปลงที่ลูก อยากให้มาช่วยกันดูแล ปกป้องเด็กมากกว่า
ส่วน พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม (สป.ยธ.) ได้มาไขข้อสงสัยถึงประเด็นโทษประหารในเมืองไทยว่า ประเทศไทยมีการบัญญัติโทษประหารชีวิตเอาไว้ในกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้นำมาใช้ประหารชีวิตจริงเป็นเวลานานแล้ว คือเราเป็นประเภทครึ่งๆกลางๆ มีบทบัญญัติโทษอยู่ในกฎหมาย แต่เวลาจริงๆไม่ได้ทำ ซึ่งตอนนี้มีนักโทษ 100 กว่ารายที่ได้รับโทษประหาร แต่รอกระบวนการอยู่ กรณีของ สมคิด พุ่มพวง นี้มีโอกาสที่จะไม่ได้โดนประหารชีวิตจริง เพราะตามกฎหมายต้องยื่นคำร้องขออภัยโทษ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ได้ร้องขอด้วยตัวเองก็ตาม ซึ่งพออยู่ในกระบวนการ ก็จะต้องอยู่ในช่วงการรอประหาร
ที่สมคิดก่อคดีครั้งแรก ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แล้วโดนปล่อยตัวออกมา หลักการจำคุกตลอดชีวิตก็ไม่ได้จำคุกตลอดชีวิตจริง ถ้าประพฤติดีก็จะมีการลดโทษ อย่างมากก็จำคุก 15 ปีแล้วปล่อยออกมา สำหรับโทษประหารของสมคิด คงไม่ได้ออกมาตอนนี้ หากได้รับการอภัยโทษ และลดโทษ อย่างมากก็อีก 15 ปี ซึ่งตอนนั้นก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว เพระาอายุมากแล้ว ส่วนเรื่องกระบวนการติดตามผู้กระทำผิดในตอนนี้ ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เขาควรจะถูกจับกุมตั้งแต่ก่อเหตุครั้งแรก ไม่ควรปล่อยให้ลอยนวลจนไปก่อเหตุกับคนอื่นได้อีก สำหรับเรื่องการลดโทษเป็นเรื่องจำเป็น เพราะจะสามารถช่วยจูงใจให้ผู้ต้องขังอยากพัฒนาตัวเอง อยากทำความดีเพื่อที่จะได้ลดโทษให้น้อยลง ซึ่งในการลดโทษก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาถึงผู้เสียหายเช่นเดียวกัน
สำหรับเรื่องการกระทำผิด มันไม่ได้เกิดขึ้นจากปัจจัยส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่มันมีเรื่องสภาพแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อตัวคนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จริง ๆ โทษประหารไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา โทษจำคุกตลอดชีวิตก็เพียงพอแล้ว แต่ปัญหาของประเทศเราก็คือ สุดท้ายก็ไม่ได้จำคุกตลอดชีวิตจริง หัวใจของการแก้ปัญหาก็คือ การหันมาช่วยกันหาวิธีป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว ผลมันร้ายแรงมาก
สรุปโพล คุณคิดว่า ฆาตรกรต่อเนื่องสามารถกลับใจได้หรือไม่?
ทั้งนี้ รายการ ถกไม่เถียง ยังเปิดโอกาสให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็น รับสิทธิพิเศษจากผู้สนับสนุนและพันธมิตรได้ทุกตอนผ่าน TERO Digital ได้ที่
ติดตาม รายการ “ถกไม่เถียง” ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ภายใต้การผลิตของบริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และสามารถรับฟังผ่านทาง hitz955.com