ดราม่ากระฉ่อน ร่อนแร่เจอทอง แหวน พระ สุดท้ายโป๊ะแตก เพราะหารเงินไม่ลงตัว
logo รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน

ดราม่ากระฉ่อน ร่อนแร่เจอทอง แหวน พระ สุดท้ายโป๊ะแตก เพราะหารเงินไม่ลงตัว

รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน : มาต่อกันที่เรื่องที่เป็นกระแสฮือฮา ทำเอาหลายคนต้องคว้า กระทะ ถ้วย ไห กะละมัง หม้อ สารพัดเครื่องมือทำครัวออกไป ร่อน ร่อนทอง,ราชบุรี,ชาวบ้านร่อนทอง,โป๊ะแตก,หารเงินไม่ลงตัว

939 ครั้ง
|
29 ม.ค. 2564
มาต่อกันที่เรื่องที่เป็นกระแสฮือฮา ทำเอาหลายคนต้องคว้า กระทะ ถ้วย ไห กะละมัง หม้อ สารพัดเครื่องมือทำครัวออกไป ‘ร่อนทอง’ เนื่องจากมีครูท่านหนึ่งไปร่อนทองในคลองชลประทาน จ.ราชบุรี แล้วเจอ ‘เศษก้อนทอง’ โดยคาดว่าเป็นทองนพคุณ ซึ่งมีราคาขายสูงกว่าทองปกติ 2 เท่า 
 
เมื่อข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปเท่านั้น ก็มีชาวบ้านแห่กันมาร่อนทอง จนบางรายก็ได้ทอง ได้พระเครื่อง หรือแม้แต่กระทั่งเครื่องรางของขลังติดไม้ติดมือกลับบ้านสมใจ แต่บางรายก็ต้องผิดหวังไปตามระเบียบ
 
โดยเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 64 นายกรภัทร พรของแม่ อายุ 33 ปี เขาบอกว่าเขามีอาชีพครูปฐมวัย โดยเขาได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวบอกว่า "คลองแถวสนามกอล์ฟดอนแจง ใกล้คอกม้า น้ำแห้งเลยลองลงไปร่อนทองดู มีจริงๆ แหะ ของแท้ครับ ผมหาเองกับมือ" พร้อมโพสต์รูปเศษก้อนสีทองคล้ายเศษทองคำที่อยู่ในถุง
 
โดยคุณครูคนนี้เล่าว่า ตนเป็นคนไปร่อนทอง เพราะวันหนึ่งขณะที่เชสกำลังตกปลาอยู่ มีคนขับรถสิบล้อเดินมาบอกว่าในคลองนี้มีแร่ทองคำอยู่ เขาเคยร่อนไปขาย ได้เงินกินเหล้าบ่อย ๆ บางครั้งโชคดีได้เงินถึง 4,000-5,000 บาท 
 
ซึ่งคุณครูเล่าว่า ตนทดลองร่อนทองมา 3 วัน ได้เศษก้อนทองมาไม่ถึง 1 กรัม เมื่อไปให้ร้านทองตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นทองคำแท้ แถมเป็นทองคำนพคุณหรือทองคำเนื้อเก้า เป็นทองบริสุทธิ์สามารถขายได้ราคาดีกว่าทองปกติถึง 2 เท่า เนื่องจากมีพุทธคุณอยู่ในตัว ด้านไสยศาสตร์สามารถป้องกันภูตผีปิศาจ หรือสิ่งลี้ลับได้
 
เมื่อข่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวบ้านจากหลากหลายพื้นที่ในจ.ราชบุรี หรือแม้แต่ชาวบ้านจังหวัดข้างเคียงก็ไม่วายต้องยกพลคนในครอบครัวมาร่อนทองที่คลองชลประทานแห่งนี้อย่างล้นหลาม ซึ่งก็มีพ่อค้าแม่ขายเดินทางมาตั้งแผงขายอาหารและเครื่องดื่มให้บริการนักเสี่ยงโชคเหล่านี้ ทำให้สาธารณสุขต้องเข้ามาตั้งโต๊ะตรวจอุณหภูมิ เพราะเกรงจะมีการแพร่เชื้อโควิด
 
จนกระทั่งช่วงบ่ายของวันที่ 24 ม.ค. 64 ก็ต้องพบกับเรื่องฮือฮา เพราะมีชาวบ้านคนหนึ่ง กลายเป็นผู้โชคดีที่ร่อนทองได้สำเร็จ พร้อมพระเครื่อง 3 องค์ และเครื่องรางอีก 1 ชิ้น จากการช่วยเหลือของ นายกรภัทร ครูหนุ่มผู้โชคดีรายแรก
 
ชาวบ้านคนนี้ เล่าว่า “หลังจากทราบข่าวจึงได้ชวนญาติพี่น้องมาร่อนทองบ้าง จึงได้นำกระทะเหล็ก ตะแกรง กระด้ง และถาดมาร่อนทองตั้งแต่ช่วงเช้า จนเกือบเที่ยงวันชักเริ่มท้อ แต่ได้ครูหนุ่ม แนะนำให้ลองมาร่อนแถวบริเวณที่พบงู จึงย้ายมาร่อนบริเวณดังกล่าว ซึ่งรู้สึกดีใจและคิดว่าตนเองดวงดีร่อนทองจนเจอ ส่วนหนึ่งเพราะได้คำแนะนำจากครูหนุ่ม”
 
นอกจากนี้ ก็ยังมีคนดวงเฮงอีก 1 รายคือ นายพิบูลย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวนครปฐม ได้นำเครื่องตรวจจับโลหะลงไปหาทองในคลองดังกล่าว ซึ่งได้เจอกับแหวนลักษณะคล้ายแหวนทอง และมีวัตถุคล้ายเพชรหรืออาจจะเป็นพลอยติดอยู่กับแหวนจำนวน 1 วง พร้อมเหรียญ 10 และทุ่นตะกั่ว
 
นอกจากนี้ยังมีชายพม่าอายุ 77 ปี เคยเป็นนักร่อนทองมานาน 20 ปี เขาเชื่อว่าในคลองนี้ไม่มีแร่ทองคำ เพราะพื้นที่ที่มีทองจะต้องมีภูเขาบริเวณใกล้ ๆ เมื่อดินหรือหินกร่อนไหลมาตามน้ำจึงมีเศษทองติดมา ส่วนทองรูปพรรณที่พบในคลองไม่ใช่สินแร่
 
แม้จะมีคนยืนยันว่าไม่มีทองในคลองชลประทาน แต่นักเสี่ยงโชคก็ยังเดินทางมาร่อนทองกันทุกวัน จนทางจังหวัดต้องสั่งปิดสถานที่ เพราะมีคนมารวมกลุ่มกันเกิน 100 คน อีกทั้งถ้าในคลองมีแร่ทองคำจริงก็จะเข้าข้อกฎหมาย พ.ร.บ.แร่ ที่ต้องมีการควบคุมดูแล เพราะกฎหมายระบุว่า เมื่อพบตัวแร่ต้องจ่ายค่าภาคหลวง ซึ่งจะมีกฎหมายและบทลงโทษ
 
นายอำเภอเมือง ยังได้กล่าวอีกว่า จากการศึกษาวิจัยคลองเส้นนี้ไม่มีการพบสินแร่ทองคำเลย แต่ถ้ามองว่าตรงนี้เป็นเมืองเก่าเมื่อ 2 พันปี อาจมีทองเก่า ทองโบราณ ตนคิดว่าของเหล่านั้นคงไม่เหลือแล้ว 
 
ทว่าเรื่องราวดูเหมือนจะไม่จบลงเพียงแค่ถูกห้ามร่อนทอง เพราะดูเหมือนครูหนุ่มที่ร่อนทองได้เป็นคนแรก จะโป๊ะแตกเข้าให้แล้ว เมื่อนายวรพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมขายของภายในตลาดนัดกับครูหนุ่มมากว่า 2 ปี ออกมาแฉว่า ตนกับครูหนุ่ม หรือที่ทุกคนเรียกว่า นายบี และนายจอร์น ซึ่งคนในตลาดนัดจะรู้จักในชื่อ นายจอร์น เป็นพ่อค้าขายกุญแจ พระเครื่อง และอัญมณีแปลกๆ จนเขามามีปัญหากับพ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน เรื่องไม่ให้นับถือไอ้ไข่ แต่พ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดนัดนับถือไอ้ไข่เป็นอย่างมาก ทำให้เขาไม่พอใจจนเลิกขายของในตลาดนัดไป
 
ส่วนเรื่องที่เขาร่อนทองเจอนั้น ตนมองว่าเป็นเรื่องโกหก เป็นการสร้างกระแสมโนขึ้นมาเพื่อหารายได้ให้ตัวเองหรือเปล่า เพราะหลังจากที่เขาไปออกอากาศกับทางทีวีช่องหนึ่ง ยังเอาเงินค่าจ้างมาอวดให้คนอื่นๆ ดู 
 
นายวรพลยังกล่าวอีกว่า ตนคิดว่า เขาสร้างกระแสขึ้นมาเองเพื่อเงิน ชื่อเสียง อยากให้คนยกยอ ว่าเขาเป็นคนเจอสมบัติ เอาจริงๆ แล้ว ถ้าเขาร่อนได้จริงๆ เขาจะมาประกาศลงเฟซบุ๊กทำไม สู้แอบพาครอบครัวตนเองมาร่อนไม่ดีกว่าเหรอ ไม่ต้องมาแบ่งกับใคร เท่าที่ตนรู้จักเขา มีแค่อาชีพเดียวคือค้าขาย แต่เขาชอบพูดเว่อร์ว่ารวย ถูกหวยเป็นสิบล้านบ้างล่ะ คือต้องการให้คนมาสนใจเขา
 
นายวรพล กล่าวอีก ส่วนเรื่องที่เขาอ้างว่าเขาเป็นครู ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเป็นครู แต่เขาเคยอ้างว่าเป็นหมอ เป็นเจ้าของกิจการ แล้วอยู่ๆ มาเป็นครูได้อย่างไร 
 
เรื่องราวมาพีคตรงนี้ เมื่อครูหนุ่มบอกเล่าถึง ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ก็คือ บุคคลหนึ่งที่อ้างตัวเป็นผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด ที่ติดต่อเข้ามาทันทีที่เห็นโพสต์รูปเศษทองของเขา โดยผู้สื่อข่าวคนนี้เข้ามาบอกให้เขาสร้างเรื่องราวต่อ โดยให้โกหกว่ามีคนขับสิบล้อมาชี้จุดให้ พร้อมทั้งพาเขาไปออกรายการ รายการให้มา 12,000 บาท แต่ปรากฏว่านักข่าวเอาไป 10,000 บาท เขาได้มาเพียง 2,000 บาท จึงทำให้เขาตัดสินใจออกมายอมรับความจริงกับสื่อในวันนี้ ส่วนคนขับรถสิบล้อ เขาก็จัดฉากขึ้นมา
 
ยังไม่หมดเท่านั้น นายกรภัทร ได้ยอมรับว่า ไม่ได้มีอาชีพครู แต่ความจริงแล้วเขาประกอบอาชีพขายกุญแจตามตลาดนัด ซึ่งเรียนมหาวิทยาลัยจนถึงปีที่ 3 ตนได้ลาออกมาประกอบอาชีพขายของตามตลาดนัด บวกกับตนนั้นเป็นคนชอบสะสมอัญมณี หรือพวกหินแปลกต่างๆ ทำให้หลายคนเข้าใจว่าตนนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านอัญมณี จึงนิยมเรียกตนว่า "ครูหนุ่ม"
 
 
 
 
 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/etauzraezs4

ข่าวที่เกี่ยวข้อง