ทนายตั้ม ยังไม่รับทำคดีให้ลุงพล จนกว่าจะเข้าพื้นที่บ้านกกกอก และ ไปตรวจสอบข้อสงสัยให้คลี่คลายเสียก่อน ขณะที่ลุงพล เดินทางเข้ารับทราบ 2 ข้อกล่าวหาแล้ว โดยให้การปฏิเสธทั้งหมดเพื่อขอต่อสู้คดี
ความคืบหน้ากรณี นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ลุงเขยของน้องชมพู่ เด็กหญิงผู้เสียชีวิตบนภูเหล็กไฟ อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร โดยช่วงบ่ายวานนี้ ลุงพล เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.กกตูม หลังถูกแจ้งข้อหาตาม ความผิดตาม พรบ.ป่าไม้ กรณี ครอบครองไม้มะค่าแต้ ซึ่งนำไปตั้งบูชาเพราะเข้าใจว่าเป็นไม้ตะเคียนทอง ส่วนอีกคดี คือ ข้อหาทำร้ายร่างกาย ฟ้า นภัส นักข่าวอัมรินทร์ทีวี
เบื้องต้น ลุงพล ให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อกล่าวหา ให้เหตุผลว่าไม่มีเจตนากระทำความผิด ส่วนขั้นตอนทางคดี มอบหมายให้ทนายความเป็นฝ่ายดำเนินการทั้งหมด
ส่วนอีกกรณีที่กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบ คือ การก่อสร้างรูปปั้นพญานาคยักษ์ ที่มีการพิสูจน์ว่ารุกล้ำพื้นที่สงวนหรือไม่ ลุงพล เผยว่า หากถูกดำเนินคดีและต้องถูกรูปปั้นทิ้ง ยอมรับว่า รู้สึกเสียดาย แต่ล่าสุดได้ปรึกษาทีมกฎหมาย และ ได้ติดต่อวิศวกรเพื่อออกแบบรับรองการสร้างรูปปั้นดังกล่าวแล้ว
หลังจากนั้นช่วงเย็นที่ผ่านมา ลุงพล และ ป้าแต๋น เดินทางจาก จ.มุกดาหาร ไปยังโรงแรมแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร เพื่อพบ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทนายความประชาชนฯ ซึ่งทนายตั้ม ยังคงพักอยู่ในโรงแรมดังกล่าวไม่สามารถเข้าพื้นที่ จ.มุกดาหาร ได้ เนื่องจากต้องปฏิบัติตามมาตราการโควิด-19
ทั้งนี้ ทนายตั้ม ได้พูดคุยกับ ลุงพล และ ป้าแต๋น กว่า 1 ชั่วโมง ก่อนออกมาเปิดเผยว่า จากรูปคดี ซึ่งฟังจากข้อมูลของทั้ง 2 คิดว่าไม่มีเรื่องน่ากังวล แต่จะรับทำคดีหรือไม่ ขอลงพื้นที่และตรวจสอบที่เกิดเหตุหาข้อมูลด้วยตนเองก่อน สำหรับคดีนี้ จากข้อมูลทั้งสอง ระบุว่า มีพยานสำคัญซึ่งตำรวจยังไม่สอบสวน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร
สำหรับพยานปากสำคัญรายนี้ มีรายงานว่า ลุงพล เคยให้การกับตำรวจไปแล้วกรณีเป็นบุคคลรายสำคัญ และ สามารถอธิบายไทม์ไลน์ของลุงพลได้ทั้งหมด
+ อ่านเพิ่มเติม