เชียงใหม่-จนท.ป่าไม้ตรวจสอบพื้นที่ปลูกป่า ประวิตร-ฌอน ยันไม่ตาย แค่ผลัดใบช่วงหน้าแล้ง
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ ‘Tee Hit’ ได้โพสต์ภาพกล้าต้นไม้ที่ถูกปลูกเรียงเป็นแถว แต่ไม่ได้รับการดูแลและเหี่ยวแห้งตาย มีเพียงฟางหญ้าคลุมไว้ที่โคนต้นเท่านั้น พร้อมบรรยายข้อความว่า
“ฌอน นายจำได้ไหม??ป่าที่นายเคยมาปลูก ต้นไม้ที่นายเคยปลูกก็ยังไม่มีใบงอกมาสักใบเลย ผ่านไปเป็นปีแล้ว นายกลับมาดูแลบ้าง???” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้นำไปแชร์ต่อและเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษณ์วิจารณ์จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นการตำหนิ โดยเชื่อว่าภาพที่มีการนำมาโพสต์นั้น เป็นพื้นที่ปลูกป่าตามโครงการ“รวมใจไทยปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว”
บริเวณห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และนายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดังเข้าร่วมด้วย ก่อนที่ต่อมา ฌอน จะถูกโจมตีอย่างหนักให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการรับบริจาคเงินช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพ ทำให้ต้องเก็บตัวเงียบไปตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งล่าสุดเกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง
วานนี้ (15 ม.ค.64) ที่ห้วยตึงเฒ่า อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ นายณัฏฐนันธ์ ด่านอนุพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนจัดการป่าชุมชน รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) และนายศิริชัย ทองประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่1(เชียงใหม่) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ
โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าต้นไม้ที่ปลูกไว้โดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมทั้งบุคคลสำคัญ จำนวน 47 ต้น และที่ปลูกเสริมเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่งเป็นรวม 60 ต้น ไม่ได้ตายหมดตามที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด ซึ่งสภาพต้นไม้ที่ไม่มีใบนั้น เป็นเพียงการผลัดใบในช่วงย่างเข้าสู่ฤดูแล้งเท่านั้น อย่างไรก็ตามพบว่ามีบางต้นที่ตาย แต่มีอัตราการรอดสูงกว่า 80% ขณะที่ต้นตะเคียนทองที่ปลูกโดยพลเอกประวิตรและต้นไม้ที่บุคคลสำคัญร่วมกันปลูกรวมจำนวน 47 ต้นนั้น ยังไม่ตายและอยู่ครบทั้งหมด ซึ่งจากนี้เตรียมจัดเจ้าหน้าที่เพิ่มความถี่ในการดูแลมากขึ้น
ทั้งนี้นายณัฏฐนันธ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าต้นไม้ที่ปลูกตามโครงการไม่ได้ตายตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลมีเดียแต่อย่างใด โดยลักษณะที่ต้นไม้ไม่มีใบนั้น เป็นเพียงการผลัดใบตามธรรมชาติในช่วงย่างเข้าสู่ฤดูแล้งเท่านั้น และจากการตรวจนับพบว่าต้นไม้ที่ปลูกโดยบุคลลสำคัญทั้งหมด 47 ต้น ยังไม่ตายและอยู่รอดทั้งหมด ส่วนที่มีการปลูกเสริมเพิ่มเติมไว้ในคราวเดียวกันนั้น พบว่ามีตายไปบางส่วน อย่างไรก็ตามในภาพรวมต้นไม้ที่ปลูกไว้ทั้งหมดมีอัตราการรอดสูงกว่า 80% พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมาร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ทหารที่เป็นเจ้าของพื้นที่ดูแลต้นไม้ที่ปลูกไว้อย่างต่อเนื่อง แต่จากนี้จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้และเพิ่มความถี่ในการเข้ามาดูแลเพิ่มขึ้น
ขณะที่นายศิริชัย ทองประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการปลูกป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่1(เชียงใหม่) กล่าวว่า ตามที่มีข้อมูลเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียว่าต้นไม้ที่ปลูกไว้ตายนั้น ในข้อเท็จจริงแล้วต้นไม้ที่มีการนำมาปลูกไว้นั้น ตามธรรมชาติจะมีการผลัดใบในช่วงหน้าแล้ง และแตกยอดออกใบใหม่ในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค. ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้งพอดี จึงเป็นปกติที่ต้นไม้ที่ปลูกไว้จะผลัดใบออกหมด
แต่เมื่อย่างเข้าช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.จะพบว่ามีการแตกยอดออกใบใหม่ โดยขณะนี้บางต้นก็เริ่มแตกยอดและออกใบใหม่ให้เห็นบ้างแล้ว นอกจากนี้จากการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจนับต้นไม้ที่ปลูกไว้โดยบุคคลสำคัญพบด้วยว่ายังอยู่ครบทั้ง 47 ต้น ส่วนที่มีการปลูกเสริมเพิ่มเติมให้ครบ 60 ต้น มีตายบางส่วน และจะทำการปลูกเพิ่ม รวมทั้งเพิ่มความถี่ในการจัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้แวะเวียนมาดูแลร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/bnAO3wtTXS8