สรุปม้วนเดียวจบ ลือลุงพลเปลี่ยนไป ยูทูบเบอร์ล้อมรอบ เจอหลักฐานชัด แย้มใกล้ออกหมายจับแล้ว!

คดีน้องชมพู่ มหากาพย์อันยืดเยื้อยาวนาน ซึ่งนับตั้งแต่วันที่น้องชมพู่หายตัวปริศนาไปในวันที่ 11 พ.ค.63 จนกระทั่งวันนี้เปิดศักราชใหม่คนไทยทั้งประเทศก็ยังไม่รู้ว่า ใครคือคนร้าย!

ขณะที่ ในช่วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวเกี่ยวกับการตายของน้องชมพู่ เริ่มกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง และมีรายงานข่าวว่า อาจมีการออกหมายจับคนร้ายในเร็วๆ นี้

TERO News สรุปม้วนเดียวจบ ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับลุงพล ใกล้ออกหมายจับคนร้ายแล้วจริงหรือไม่ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เข้ามาเกี่ยวข้องอะไร หมอปลา, อุ๊บ วิริยะ, ทนายโนบิตะ หายไปไหน เราสรุปให้ภายในหน้าเดียว!

- 2 ต.ค.64 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. แถลงใหญ่ความคืบหน้าคดีเสียชีวิตปริศนาของ “น้องชมพู่” บนภูเหล็กไฟ จ.มุกดาหาร ใจความสำคัญของการแถลง คือ ยังไม่ได้จับใครดำเนินคดี พร้อมร่ายยาวการทำงานสืบสวนสอบสวนกว่า 4 เดือน แต่ยังไม่มีพยานหลักฐานพอแจ้งข้อหาดำเนินคดีใคร แต่ย้ำว่ามีเป้าหมายอยู่ในใจแล้ว แต่พูดไม่ได้

-  หลังจากนั้น สื่อหลักยกเลิกการปักหลักนำเสนอข่าวในบ้านกกกอก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือ มีทูบเบอร์กว่า 40 ชีวิต มากว่า 30 ช่อง เข้ามาทำหน้าที่ในการนำเสนอเรื่องราวต่างๆ หล่อเลี้ยงกระแส ลุงพล และนำเสนอความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่หมู่บ้านแห่งนี้

- โดยมีการรายงานว่า ยูทูบเบอร์ที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่บ้านกกกอก สามารถสร้างรายได้ตั้งแต่ระดับหลักพันจนถึงหลักแสนบาทต่อเดือน ซึ่งยูทูบเบอร์เหล่านี้ บางคนมาคนเดียว บางคนมาเป็นครอบครัว บางคนเอาเต็นท์มากาง หรือแม้กระทั่งบางคนมาปักหลักเช่าบ้านอยู่

- ช่วงประมาณปลายเดือน พ.ย.63 "อุ๊บ วิริยะ" นักปั้นมือทอง ที่ก่อนหน้านี้มีความสนิทสนมกับครอบครัวของลุงพล โพสต์ข้อความและไลฟ์เฟซบุ๊กประกาศว่า ไม่ขอร่วมงานกับลุงพล เนื่องจากมีความไม่สบายใจเป็นการส่วนตัว ซึ่งต่อมา มีกระแสข่าวว่า อุ๊บ วิริยะ ไม่พอใจที่ลุงพลเทงานที่รับเป็นพรีเซนเตอร์

-1 ธ.ค.63 ลุงพล และอุ๊บ วิริยะ ปรับความเข้าใจ และโผเข้ากอดกัน โดยมีหมอปลาเป็นคนกลางในการประสานรอยร้าว

- ในวันเดียวกันนั้น ลุงพลได้โชว์ยอดบริจาคราว 1.3 ล้านบาท ที่เพิ่งเปิดบัญชีมาได้เพียง 3-4 วัน ซึ่งวัตถุประสงค์การเปิดรับบริจาคก็เพื่อจะนำเงินมาสร้างพญานาคที่บริเวณข้างบ้านลุงพล ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางอุ๊บ วิริยะ และหมอปลา ได้เตือนเรื่องการเปิดบัญชีรับเงินบริจาคของลุงพลมาแล้วหลายครั้ง       

- 8 ธ.ค.64 ลุงพล ชี้แจงกรณีที่มีแฟนเพจเฟซบุ๊กตั้งข้อสังเกตว่า 2 สามีภรรยาใจบุญที่สร้างบ้านให้ลุงพลฟรีๆ จำนวน 3 แสนบาท จะมาขอเงินคืน ตนขอยืนยันว่า ทั้งคู่ไม่ได้มาขอเงินคืน แต่มีช่วงที่เขาไม่สบาย จึงแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราไม่ทัน จึงขอความช่วยเหลือ ตนกับป้าแต๋นจึงช่วยเหลือไปจำนวนหนึ่ง

- 9 ธ.ค.64 นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา พร้อมด้วยน้ำฟ้า ภรรยา ประกาศยุติการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีน้องชมพู่ และก่อนหน้านี้ หมอปลาได้เตือนลุงพลไปแล้วหลายครั้งเรื่องการเปิดรับบริจาค เพราะห่วงว่าเปิดบัญชีรับเงินบริจาคแล้วอาจจะเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง

- ลุงพล กล่าวถึงหมอปลาว่า ยอมรับในสิ่งที่หมอปลาตัดสินใจ เพราะที่ผ่านมาหมอปลาก็ช่วยเหลือมาตลอด และเชื่อมั่นว่าหมอปลาก็จะให้ความช่วยเหลือเช่นเดิมและตลอดไป

- 10 ธ.ค.64 หมอปลาระบุว่า อยากจะฝากถึงลุงพลว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่ลุงพลโกนหัว และถูกสังคมเพ่งเล็งว่า เป็นผู้ต้องสงสัย ใครที่เข้าไปหา และวันนี้คนที่เข้ามาหาเขาหวังอะไร ตนจึงมองว่าต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ตนเตือนด้วยความหวังดี

- 11 ธ.ค. 63 เฟซบุ๊กส่วนตัวของ นรินทร์ หลาบโพธิ์ หรือ น้าแต น้าชายของน้องชมพู่ ได้แชร์คลิปไลฟ์สดความยาวประมาณ 3 นาทีของตัวเองในช่อง ฟาร์มหนูพุก VIP ระบุหัวข้อว่า "ดังได้..มึงก็ดับได้ อย่าหลงตัวเอง"

- หมอปลาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ “ลุงพล” อยากให้ยูทูบเบอร์ที่ตามติดชีวิตลบคลิปที่ลุงพลแสดงพฤติกรรมฉุนเฉียว เตะข้าวของนั้น หมอปลา ในฐานะคนที่เคยสนิท ให้ความเห็นว่า ลุงพลน่าจะเครียด เนื่องจากตอนนี้ออกมารับงานเอง และงานก็เยอะมาก จึงพยายามระบายความเครียดออกมา

- หมอปลา ยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้เตือนลุงพลไปแล้วว่า การที่อนุญาตให้ยูทูบเบอร์ถ่ายตามติดชีวิตส่วนตัวแบบนี้ จะส่งผลเสียต่อตัวเองมากกว่า เพราะไม่ว่าเราจะแสดงอาการ รัก โลภ โกรธ หลง ก็ล้วนถูกถ่ายเก็บไว้หมด ทำให้ไม่มีช่วงเวลาส่วนตัวหลงเหลือ

- ลุงพล ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า วันนี้มีเรื่องให้โมโหนิดหน่อย จึงเตะกล่อง แต่ตนไม่ได้ห้ามยูทูบเบอร์แชร์คลิป

- 15 ธ.ค.63 “หมอปลา” ประกาศให้เงินรางวัลผู้ที่ให้เบาะแสจนสามารถจับกุมคนร้ายที่ฆ่าน้องชมพู่ได้ เป็นเงิน 1 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งไว้ 6 แสน หลังถูกแม่น้องชมพู่ แจ้งความข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เหตุปล่อยคลิปเสียง

- 27 ธ.ค.63 ลุงพลใส่ชุดโบราณเพื่อเตรียมตัวเข้าขบวนแห่ พระสุวรรณแสน (หลวงพ่อองค์แสน) แต่ลุงพลทำท่าเดินแบบบิดซ้ายบิดขวาต่อหน้ากลุ่มยูทูบเบอร์ โดยมีเสียงยูทูบเบอร์พูดเสียงดังว่า “อย่าเดินแบบนี้ เดี๋ยวเหมือนคนนั้น” จากคลิปดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นว่าเป็นการล้อเลียน หรือเหยียดเพศ และหมายถึงท่านทางของอุ๊บ วิริยะ หรือไม่

- อุ๊บ วิริยะ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รู้สึกสะเทือนใจ และต่อไปนี้ไม่มีธุระจำเป็นอะไรที่จะต้องคุยกันแล้ว ส่วนป้าแต๋น ชี้แจงว่า ถ้าเป็นคนรู้จักกัน เป็นคนกันเอง ไม่ควรคิดเล็กคิดน้อย ควรจะดีใจมากกว่าเป็นเรื่องขำๆ และเป็นเรื่องบริสุทธิ์ใจ

- 8 ม.ค.64 ลุงพล และป้าแต๋น เดินทางไปที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ จ.ปทุมธานี เพื่อไปสอบปากคำเพิ่มเติมโดยเข้าเครื่องจับเท็จ(ถือว่าเป็นครั้งแรกในคดีนี้ที่มีการใช้เครื่องจับเท็จ) ซึ่งลุงพลใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมงกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ ส่วนป้าแต๋นใช้เวลา 4 ชั่วโมง

- โดยมีรายงานว่าก่อนหน้านี้ พ่อแม่น้องชมพู่ พี่สาว น้าต่าย น้าเสริม น้าแต น้าฝน รวม 7 คน ได้เข้าเครื่องจับเท็จไปก่อนแล้ว

- ในคืนนั้น เจ้าหน้าที่เตรียมนำรถออกไปส่งลุงพลป้าแต๋นกลับที่พัก แต่ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เนื่องจากยูทูบเบอร์ และแฟนคลับที่ติดตามลุงพลป้าแต๋น ไม่พอใจและต้องการให้ตำรวจปล่อยลุงพลและป้าแต๋นลงจากรถ จึงยืนขวางประตูรถ ทำให้ประตูรถปิดไม่ได้

- ต่อมา เจ้าหน้าที่ต้องยอมให้ลุงพลและป้าแต๋นลงจากรถมาเพื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังจากนั้นทั้งลุงพลป้าแต๋น จึงเดินทางกลับบ้านกกกอก จ.มุกดาหารทันที โดยไม่ขึ้นรถที่ตำรวจจัดเตรียมไว้ให้

- 9 ม.ค.64 หมอปลา เผยว่า วันนี้ตนไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับครอบครัวของลุงพลอีกแล้ว แม้เขาจะมาขอความช่วยเหลือก็ตาม เมื่อเริ่มมีคนติดตามเยอะ ลุงพลก็กลายเป็นคนลืมตัว แถมยังระแวงครอบครัวของตน ขนาดที่ว่าคิดว่าตนทำคุณไสยใส่ จนต้องไปอาบน้ำมนต์ หรือเรื่องกล้องวงจรปิดที่ตนไปติดให้ที่บ้านของเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่เขาคิดว่าตนไปติดเพื่อจับผิดเขา

- ลุงพล ชี้แจงในเรื่องนี้ว่า สาเหตุที่ถอดออกทั้งหมด เพราะยังไม่ได้เปลี่ยนรหัสไวไฟ อีกทั้งกล้องดังกล่าวสามารถดูผ่านเเอปพลิเคชันได้ ตนก็ไม่ทราบว่านอกจากตนเเล้วมีใครดูบ้าง จึงถอดออกเพื่อความสบายใจ ไม่เกี่ยวกับการระเเวงหมอปลา

- 11 ม.ค.64 ป้าแต๋นให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เดือนก่อนพบเครื่องดักฟังวางอยู่บริเวณคอนโซลหน้าเกียร์บนรถของลุงพล และวันที่เจอเครื่องดักฟัง ลุงพลถึงกับร้องไห้ เพราะคาดว่า คนที่ทำอาจเป็นคนที่เคยสนิทสนม

- 12 ม.ค.64 ทนายโนบิตะประกาศแยกทาง ขอถอนตัวจากการทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายกับลุงพลและป้าแต๋น เนื่องจากลุงพลไม่ได้ไว้วางใจให้เป็นทนายความเหมือนเดิม อาจเป็นเพราะมีทนายความที่มีประสบการณ์มากกว่าเสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือ

- 14 ม.ค.64 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ลงพื้นที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เพื่อพูดคุยกับพ่อเเม่ของน้องชมพู่ในเรื่องความคืบหน้าทางคดี

- นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่จะเชื่อมโยงไปถึงคนก่อเหตุฆ่าน้องชมพู่ได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับ

- สื่อหลักช่องต่างๆ ได้ขึ้นไปที่สำนักสงฆ์ภูหลวง เพื่อขอสัมภาษณ์ลุงพล ในประเด็นที่นายอัจฉริยะ เดินทางลงมาในพื้นที่บ้านกกกอก เพื่อพูดคุยเรื่องความคืบหน้าทางคดีกับพ่อเเม่น้องชมพู่ แต่กลับมีกลุ่มยูทูเบอร์ที่ตามติดชีวิตลุงพล พากันออกมาขัดขวางเเละบอกว่าไม่ให้สื่อหลักเข้าถึงตัวลุงพลได้ โดยระบุว่าลุงพลของดให้สัมภาษณ์สื่อเป็นเวลา 2 เดือน หากมีประเด็นอะไรจะชี้เเจงผ่านช่องยูทูเบอร์เท่านั้น.