แฟนๆ โทรศัพท์มือถือเสี่ยวมี่ (Xiaomi) คงตกอกตกใจอีกครั้ง เหมือนกับที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศศึก แบนมือถือและอุปกรณ์ไอทีของหัวเหว่ย (Huawei) ในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ การปิดกั้นทางการค้าและเทคโนโลยีดังกล่าว กระทบกับยอดขายโทรศัพท์มือถือของ Huawei เป็นอย่างมาก ทำให้ผู้ใช้งานที่คุ้นเคยกับ Google play ทั้งโปรแกรมแผนที่, โปรแกรมดูวีดีโออันดับ 1 ของโลก ไม่สามารถใช้งานได้ ยอดขายของหัวเหว่ยจึงรูดตกลงมา จากเดิมมียอดจำหน่ายโทรศัพท์เป็นอันดับต้นๆ ของโลก
ผลจากการเคลื่อนไหวนี้ ทำให้ในวันศุกร์ ที่ 15 ม.ค. 2564 ช่วงเปิดตลาด หุ้นของ Xiaomi ในตลาดฮ่องกงลดลงถึง 13% จาก 33.32 เหรียญฮ่องกง ลดเหลือ 28.17 เหรียญฮ่องกง และจากการประกาศฉบับนี้ ส่งผลให้บริษัทดังกล่าวไม่สามารถมาลงทุนใหม่ในสหรัฐฯ ได้ และบังคับให้นักลงทุนชาวอเมริกันต้องถอนการถือครองหุ้นบริษัทที่อยู่ในบัญชีดำ
ที่มา Xiaomi today
ไม่เพียงแค่การแบนธุรกิจด้านโทรคมนาคมท่านั้น ยังมีการเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่ามีบริษัทในสาขาอื่น ๆ ด้วย อาทิ Commercial Aircraft Corporation บริษัทผลิตเครื่องบินของประเทศจีน หรือ CNOOC บริษัทน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในจีนเอง ก็ถูกกระทรวงพานิชย์ของสหรัฐฯใส่เข้ามาในรายชื่อการขึ้นบัญชีดำด้วยเช่นกัน
ทางสหรัฐอเมริกาได้ให้เหตุผลในการขึ้นบัญชีดำในครั้งนี้ว่า เป็นการเน้นย้ำและตอบโต้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า บริษัทที่ดูเหมือนจะเป็นของพลเรือนนั้น แท้จริงแล้วได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีชั้นสูงจากกองทัพจีน มองดูแล้วก็ไม่ต่างกับการทำสงครามกันของทั้ง 2 ประเทศมหาอำนาจ เพียงแค่เปลี่ยนสนามรบจาก สมรภูมิภาคพื้นดิน ให้กลายเป็นสมรภูมิทางการค้า ซึ่งทางประเทศจีนเองก็ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
ที่มา: Financial Times
เหลืออีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้นที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะต้องก้าวลงจากอำนาจ เปิดทางให้ โจ ไบเดน ได้ก้าวขึ้นมากุมบังเหียน เดินหน้าขับเคลื่อนประเทศสหรัฐอเมริกาต่อไป ด้วยนโยบายที่แตกต่างกัน น่าจับตามองทีเดียวว่าทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของ 2 มหาอำนาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ มาตรการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในยุคสมัยทรัมป์ จะมีการถูกยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
แต่ไม่ว่าจะเป็นทิศทางไหน การขยับตัวของยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 ย่อมต้องสร้างแรงสั่นสะเทือนส่งมาถึงพวกเราได้อย่างแน่นอน...
ข้อมูลจาก :