กกต.กวาดล้างมือซื้อเสียงคืนหมาหอน ขู่ทุจริตโทษคุกสูง 10 ปี ย้ำ 6 โมงเย็นวันนี้ห้ามหาเสียง-ขายสุรา
logo ข่าววันใหม่

กกต.กวาดล้างมือซื้อเสียงคืนหมาหอน ขู่ทุจริตโทษคุกสูง 10 ปี ย้ำ 6 โมงเย็นวันนี้ห้ามหาเสียง-ขายสุรา

ข่าววันใหม่ : กกต.เอาจริงคืนหมาหอน ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วออกล่ามือซื้อเสียง จับแล้วมีนครปฐมพร้อมเงินของกลาง เลขา กกต.ซื้อเสียงเตือนโทษแรงติดคุกทั้ง กกต,เลือกตั้ง,เลือกตั้งท้องถิ่น,เลือกตั้งอบจ,คืนหมาหอน

2,029 ครั้ง
|
20 ธ.ค. 2563
กกต.เอาจริงคืนหมาหอน ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วออกล่ามือซื้อเสียง จับแล้วมีนครปฐมพร้อมเงินของกลาง เลขา กกต.ซื้อเสียงเตือนโทษแรงติดคุกทั้งคนให้คนรับสูงถึง 10 ปี ย้ำ 6 โมงวันนี้ห้ามหาเสียง-ขายสุรา
 
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงมาตรการป้องกันการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นในคืนก่อนการเลือกตั้งหรือที่เรียกกันว่า คืนหมาหอนในคืนนี้ (19 ธ.ค.) โดยเปิดเผยว่าในวันนี้เครือข่ายของ สำนักงาน กกต. ซึ่งประกอบด้วย ผู้ตรวจการการเลือกตั้ง ชุดตำรวจเคลื่อนที่เร็วจากสถานีตำรวจต่างๆทั่วประเทศ สมาชิกศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย หรือ ศส.ปชต. ตลอดจนเครือข่ายประชาชน และ ผู้ใหญ่บ้านทุกพื้นที่ จะประสานการทำงานร่วมกัน ออกหาเบาะแส สอดส่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียง อย่างเต็มที่ทั่วประเทศ หากพบการกระทำความผิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที เพื่อให้การเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใส โดยมั่นใจว่ามาตรการของ กกต. จะจับกุมผู้ที่ทำความผิดมารับโทษอย่างถึงที่สุดไม่ปล่อยให้ลอยนวลไปได้
 
เลขาธิการ กกต.ระบุว่า ตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น การซื้อเสียง จะมีโทษทั้ง ผู้ให้และผู้รับ โดยในมาตรา 65 ของ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 กำหนด ห้ามผู้ใดกระทำการ ให้เงิน ทรัพย์สิน หรือสัญญาว่าจะให้ หรือเตรียมจะให้ หรือกระทำการที่เป็นการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ และ มาตรา 92 กำหนดห้ามผู้มีสิทธิเลือกตั้งยอมรับเงิน หรือประโยชน์อื่นใด เพื่อให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้ผู้สมัครรายหนึ่งรายใด มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี ปรับสูงสุด 2 แสนบาท และตัดสิทธิ์เลือกตั้งถึง 20 ปี พร้อมเตือนไปยังผู้สมัคร และประชาชน ให้ระมัดระวังการกระทำที่เป็นการสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันนี้ (19ธ.ค.) เป็นต้นไปตามกฎหมายกำหนดห้ามผู้สมัคร โฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงห้ามจำหน่ายจ่ายแจกสุราด้วยซึ่งจะมีความผิดตามกฎหมาย
 
ด้าน พ.ต.อ. ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม เปิดเผยถึงการปฏิบัติการของ ผู้ตรวจการเลือกตั้ง และชุดเคลื่อนที่เร็วของตำรวจ ในวันนี้ ได้จับกุมหัวคะแนน ของผู้สมัครรายหนึ่งที่ จ.นครปฐม แล้วพร้อมเงินของกลางสำหรับใช้ในการซื้อเสียงจำนวนกว่า 30,000 บาท ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหา และนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายเลือกตั้งแล้ว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพฤติกรรมของหัวคะแนนรายดังกล่าว มีการนำเงินออกไปแจกซื้อเสียงให้เงินผู้สิทธิเลือกตั้งหัวละ 500 บาท เพื่อให้เลือกหมายเลขของผู้สมัคร รายหนึ่ง ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ตามมาตรา65 โทษสูงสุดจำคุกถึง 10 ปี ปรับสูงสุด 2 แสนบาท และตัดสิทธิ์เลือกตั้งถึง 20 ปี อยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีการแจกเงินซื้อเสียงให้ผู้ใดบ้าง เพราะมีโทษความผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ และเตรียมสาวไปถึงตัวผู้สมัครที่เกี่ยวข้องด้วย
 
กาญจนบุรี - รวบอดีตทหารยศร้อยตรี ตระเวนขี่รถจ่ายเงินซื้อเสียงเลือกตั้ง อ้างรับงานจากรุ่นพี่ อสม.
 
คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรีประสานกำลังตำรวจเมืองกาญจนบุรี รวบอดีตทหารยศร้อยตรี ขณะตระเวนขี่รถจักรยานยนต์จ่ายเงินซื้อเสียงให้กับชาวบ้านในตำบลหนองบัว เจ้าตัวสารภาพรับงานต่อมาจากรุ่นพี่ที่เป็น อสม. ตระเวนซื้อเสียงราคาหัวละ 500 บาท
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี รับการประสานจากนายศิวบูลย์ เชาว์ศิลป์ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ว่ามีการตระเวนจ่ายเงินซื้อเสียงเลือกตั้ง นายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ในเขตพื้นที่หมู่ 5 ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปดักซุ่มพร้อมเก็บภาพพฤติกรรมการกระทำผิดของชายสูงอายุคนหนึ่ง ที่ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนเข้าออกบ้านเรือนประชาชนหลายหลังในหมู่บ้านเกื้อกาญจน์ หมู่ 5 ตำบลหนองบัว ก่อนจะแสดงตัวเข้าทำการตรวจค้นและจับกุม ขณะที่ชายสูงอายุคนดังกล่าว ตระเวนจ่ายเงินให้กับชาวบ้านจำนวน 3 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดเงินของกลางเป็นธนบัตรใบละ 500 บาท จำนวน 3 ใบ รวมเป็นเงิน 1,500 บาทได้ จึงได้ควบคุมตัวชายคนดังกล่าว มาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี 
 
ทราบชื่อชายสูงอายุคนดังกล่าวคือ ร้อยตรีปัญญกร ภู่ระหงษ์ อายุ 64 ปี อดีตข้าราชการทหาร โดยนายปัญญกร รับสารภาพว่า ได้ตระเวนจ่ายเงินซื้อเสียงในการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรีจริง โดยได้รับการไหว้วานจากรุ่นพี่ที่รู้จักกันและเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ให้ตนช่วยนำเงิน 500 บาท ไปแจกจ่ายซื้อเสียงให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านเกื้อกาญจน์ จำนวน 20 ราย ให้เลือกผู้สมัครหมายเลข 1 โดยตนไม่ได้รับค่าจ้างหรือค่าตอบแทนใดๆ มีเพียงการตกลงว่าจะพาไปเลี้ยงอาหารเท่านั้น 
 
ทั้งนี้ หลังทำการสอบถามข้อมูลเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาญจนบุรี จะได้นำตัวร้อยตรีปัญญกร ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามความผิดกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่น ซื้อสิทธิ์ ขายเสียงและจะได้มีการขยายผลถึงผู้จ้างวานให้ดำเนินการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ว่ามีใครร่วมขบวนการบ้างต่อไป
 
พิจิตร - 2 ตายายหอบเงินซื้อเสียง ส่งเจ้าหน้าที่ กกต.และตำรวจ หลังได้รับเงินซื้อเสียงจากตัวแทนผู้สมัคร รับเลือกตั้ง อบจ.พิจิตร คนละ 300 บาท
 
เมื่อกลางดึกวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่สถานีตำรวจภูธรบึงนาราง จังหวัดพิจิตร นายสวน อิ่มอุระ อายุ 79 ปี พร้อมด้วย นางสว่าง อิ่มอุระ อายุ 74 ปี 2 ตายายสามีภรรยา ได้นำธนบัตรชนิด 100 บาท จำนวน จำนวน 600 บาท ส่งมอบให้กับ ร.ต.อ.เกริกเกียรติวัฒนา สายแวว พนักงานสอบสวน และ เจ้าหน้าที่ กกต พิจิตร หลังจากที่ได้รับแจกเงินซื้อเสียงมาจากหัวคะแนน ของทีมผู้สมัคร องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิจิตร หมายเลข 1
 
โดยเหตุการเกิดขึ้นหลังจาก ที่ นางสว่าง กลับจากตลาดนัดระหว่างทางได้พบกับนายไพทูรย์ ไม่ทราบนามสกุล ได้ส่งมอบเงินจำนวน 600 บาท ให้ พร้อมกับบอกให้เลือก เบอร์ 1 เมื่อยายได้รับเงินแล้วจึงกลับบ้าน และแบ่งเงินให้กับนาย สวน 300 บาท หลังจากนั้นทางด้านผู้นำหมู่บ้าน ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทราบข่าว จึงมาพบ 2 ตายายและสอบถาม พร้อมด้วยญาติๆ ของ 2 ตายาย ว่าได้รับเงินซื้อเสียงมาหรือไม่ ซึ่ง 2 ตายาย บอกว่าได้รับเงินซื้อเสียงของหมายเลข 1 มาจริง ทั้งหมดจึงบอกว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย โดย 2 ตายายบอกว่า ไม่รู้เขาให้เลยรับไว้ โดย 2 ตายายจึงได้ตัดสินใจนำเงินมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กกต.เพื่อบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
 
ในขณะที่นายวิก ชูจิตร กำนันตำบลแหลมรัง อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนเองทราบว่ามีการแจกจ่ายเงินเพื่อซื้อเสียงในพื้นที่ จึงได้ชวนผู้ใหญ่บ้านออกไปตรวจสอบ และสอบถาม 2 ตายาย ซึ่งทั้ง 2 ท่านก็ยอมรับว่ามีผู้นำเงินมาให้ เพื่อให้เลือกเบอร์ 1 จริง ไม่ใช่นำมาให้เหมือนปกติ เช่นการให้ซื้อหมากซื้อพลูกิน เนื่องจากผู้นำเงินมาให้ก็มีความสนิทสนมกับ 2 ตายาย จึงได้แนะนำให้ตายาย นำเงินมาส่งมอบให้ตำรวจ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
 
ชมผ่านยูทูบ ; https://youtu.be/uRMMRnPutBE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง