“รองนายกฯดอน”เผยนานาชาติไร้กังวลสถานการณ์ในไทย มองเป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตย
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ ( 17 ธ.ค. ) ที่ประชุมเปิดโอกาสให้สมาชิกตั้งกระทู้ถามปัญหาต่างๆไปยังรัฐบาล โดยนายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.จังหวัดน่าน พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถามสด นายกรัฐมนตรี กรณีที่สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา 9 คน ร่างข้อมติเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในประเทศไทยเพื่อเสนอต่อสภาสหรัฐฯในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ ให้มีท่าทีต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในไทย
โดยนายชลน่าน ตั้งคำถามว่ารัฐบาลได้รับทราบสาระสำคัญของข้อมติดังกล่าวหรือไม่ และมีแนวทางในการปกป้องชื่อเสียงของประเทศอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนจากสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนของเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม
ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทนนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับข่าวที่เกิดขึ้น โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการติดตามตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวทันทีกับทางการสหรัฐฯ
ซึ่งเรื่องนี้แม้ในไทยมีการพูดถึงกันประหนึ่งว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ในสหรัฐฯไม่ได้เป็นที่สนใจ และจากการสอบถามไปยังทางการสหรัฐฯ ตลอดจนการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดยืนยันว่าทางการสหรัฐฯไม่ได้ถือว่าเป็นปัญหา เพราะสหรัฐฯเองก็มีปัญหาทางการเมืองมากพออยู่แล้ว จึงเชื่อว่าร่างข้อมติดังกล่าวจะถูกตีตกในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ เพราะเป็นวันสุดท้ายในสมัยการประชุมสภาสหรัฐฯ
นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจสอบที่มาที่ไปของข้อมติดังกล่าวว่าเกิดจากความสนใจของ ส.ว.สหรัฐฯจริงหรือไม่ เพราะเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศการเมืองภายในสหรัฐฯที่กำลังคุกรุ่นและมีปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งคนในสหรัฐฯให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องอื่นๆที่เกิดขึ้นในประเทศอื่นประกอบกับ ส.ว.หลายคนของสหรัฐฯก็ไม่ได้มีท่าทีให้ความสนใจกับสถานการณ์ในไทยเป็นพิเศษ ทำให้มีสมมติฐานว่าข้อมติดังกล่าวเกิดจากการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน และเกิดการล็อบบี้จากบุคคลภายนอก ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้มีการตรวจสอบแล้วพบมีหลักฐานที่จะสามารถยืนยันเรื่องดังกล่าวได้
อย่างไรก็ตามรัฐบาลเองไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่ง สถานเอกอัครราชทูตไทยในสหรัฐฯได้ออกไปพูดคุยหารือกับหน่วยงานต่างๆของสหรัฐฯเพื่อที่จะรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น และได้รับการยืนยันว่าร่างข้อมติดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงท่าทีทางการเมืองของ ส.ว.สหรัฐฯบางคนเท่านั้น ไม่ได้มีผลที่จะสามารถบังคับใช้ รวมทั้งไม่ได้มีผลผูกพันใดๆ และทางการไทยก็ได้มีหนังสือชี้แจงทำความเข้าใจไปยัง ส.ว.ที่เสนอร่างข้อมติดังกล่าวแล้วเพื่อให้เข้าใจในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และให้คำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เพราะรายละเอียดตามร่างข้อมติดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย และประเทศอื่นๆก็ไม่ได้มีความสนใจในเรื่องนี้ อีกทั้งยังไม่มีประเทศใดๆมีท่าทีกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และมองว่าเรื่องที่ออกมาไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯยิ่งเป็นการสร้างปัญหาที่ตามมาในหลายๆด้านด้วยกัน โดยเฉพาะด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในแง่ของการเข้ามาสู่ภูมิภาค
นายดอนตั้งข้อสังเกตว่ากระแสข่าวดังกล่าวถูกกระพือข่าวเป็นพิเศษในประเทศไทย ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในความสนใจของฝ่ายสหรัฐฯ โดยเฉพาะรัฐบาลสหรัฐฯเอง และจากการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ( 16 ธ.ค. ) ทูตสหรัฐฯกลับมีท่าทีชื่นชมสถานการณ์ชุมนุมในประเทศไทยเป็นไปด้วยความสงบและทางการได้ใช้ความอดกลั้นในการรับมือ ซึ่งภาคเอกชนของสหรัฐฯก็ไม่ได้มีข้อห่วงกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะถือเป็นเรื่องปกติในกระบวนการประชาธิปไตยของแต่ละประเทศ เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯอเมริกาก็มีการประท้วงอยู่บ่อยครั้งตลอดเวลา และยังเชื่อว่าไทยสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ในที่สุด และจากการพูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯยืนยันว่าสหรัฐฯไม่ได้แทรกแซงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่เราได้กลิ่นอายจากการล็อบบี้มากกว่า พร้อมย้ำว่ากระทรวงการต่างประเทศไม่ได้มองข้ามปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เวลาเราเจอปัญหาเราจะไม่โวยวายทำตัวเป็นมวยวัดออกมาอาละวาด จนเป็นผลลบต่อประเทศไทยเสียเอง จึงขอให้คนไทยมีจิตใจที่มั่นคงพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆเมื่อได้รับข่าวสาร และควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน
ทีมข่าวการเมืองรายงาน
+ อ่านเพิ่มเติม