บริษัทปล่อยเงินกู้สุดเถื่อน เตะหน้า แส้เฆี่ยนพนง. ฉุนเก็บดอกเบี้ยไปใช้เอง
logo รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน

บริษัทปล่อยเงินกู้สุดเถื่อน เตะหน้า แส้เฆี่ยนพนง. ฉุนเก็บดอกเบี้ยไปใช้เอง

รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน : โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์คลิปความรุนแรงในบริษัทปล่อยเงินกู้แห่งหนึ่ง ที่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันจนสลบคาเท้า โดยตามรา เงินกู้,กู้นอกระบบ,แส้เฆี่ยน,กู้,เงินนอกระบบ,รอดไปด้วยกัน,รอดไปด้วยกันเศรษฐกิจชาวบ้าน,รอดไปด้วยกันกับทิน,ทิน,ทินโชคกมลกิจ,ข่าวเศรษฐกิจ,เงินกู้โหด

735 ครั้ง
|
03 ธ.ค. 2563
โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์คลิปความรุนแรงในบริษัทปล่อยเงินกู้แห่งหนึ่ง ที่ถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันจนสลบคาเท้า โดยตามรายงานคาดว่าปมเหตุมาจากการที่จับได้ว่า ชายคนดังกล่าวแอบเก็บเงินค่าดอกเบี้ยและเงินที่ปล่อยกู้ไป เข้ากระเป๋าตัวเอง
 
 
ในคลิปจะเห็นว่ามีพนักงานชายคนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น ถูกชายลักษณะคล้ายหัวหน้างานซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง ฟาดขาเตะเสยเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง จนล้มคว่ำลงไป ไม่พอ ยังตามไปเตะซ้ำๆ และใช้สายยางเฆี่ยนตี แบบไม่ยั้งแรง
 
 
ซึ่งหากฟังดีๆ จะได้ยินเสียงพูดว่า “บอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าทำ”  ระหว่างลงมือลงเท้าซ้อมจนกระทั่งสลบคาที่ ท่ามกลางสายตาของชายอีกนับสิบชีวิตภายในห้อง ที่นั่งดูหน้าตาเฉยจากการตรวจสอบพบว่า คลิปดังกล่าว เกิดขึ้นที่ ภายในบริษัทปล่อยเงินกู้และให้ผ่อนทองคำพื้นที่ จ.สมุทรสาคร
 
 
ขณะที่ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ภายในบริษัทปล่อยเงินกู้ และพนักงานคนดังกล่าวถูกลงโทษ และถูกทำร้าย เนื่องจากเก็บเงินค่าดอกเบี้ยและเงินที่ปล่อยกู้ไป แต่ไม่นำเงินส่งเข้าบริษัท ซึ่งพนักงานคนอื่นไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ
 
 
ต่อมา พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือ กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ ออกมาระบุว่า เหตุเกิดนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือน ม.ค. 2563 พื้นที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร สาเหตุเกิดจาก ผู้เสียหายขัดคำสั่งเจ้าของบริษัท
 
 
ล่าสุด วันนี้ (2 ธ.ค.) ผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร  ในข้อหาความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายฯ” พร้อมดำเนินการคุ้มครองพยาน และดำเนินการสืบสวนขยายผลมูลฐานความผิดที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ซึ่งภายหลังจากนี้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร จะดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา  โดยกำชับให้นำตัวผู้ก่อเหตุเเละพวกมาดำเนินคดีโดยเร็ว
 
 
อย่างไรก็ดี วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝาก กรณีนี้คุณถูกเจ้าหนี้ทวงหนี้ด้วยการใช้คำหยาบคาย และใช้ความรุนแรง คุณสามารถทำอะไรได้บ้าง
 
 
ข้อมูลจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่า การทวงหนี้ที่ใช้พฤติกรรมตัวอย่างเช่น เขียนจดหมายข่มขู่ด้วยวาจาหยาบคายหรือเป็นเท็จ ทำร้ายร่างกาย ด่าทอ กักขัง เป็นต้น
 
 
ลูกหนี้หรือสมาชิกในครอบครัว เพื่อน บรรดาผู้ถูกทวงหนี้มีอำนาจแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านั้นได้ทันที ถ้ามีการทำร้ายบาดเจ็บหรือกักขังหน่วงเหนี่ยว พวกเขาต้องรับโทษอาญาฐานทำร้ายร่างกายหรือทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพอีกคดีหนึ่งด้วย
 
 
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 337 บัญญัติว่า ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้ ยอมให้ หรือ ยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่า จะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือ ของบุคคลที่สาม จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำผิดฐานกรรโชก มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
 
 
ถ้าความผิดฐานกรรโชกได้กระทำโดย ขู่ว่าจะฆ่า ขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายให้ผู้ถูกข่มขืนใจ หรือผู้อื่น ให้ได้รับอันตรายสาหัส หรือขู่ว่าจะทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่ทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น หรือมีอาวุธติดตัวมาขู่เข็ญ ผู้กระทำต้องมีโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
 
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/DzTfYWo1Yo8

ข่าวที่เกี่ยวข้อง