จากกรณีนายสมภาร สุรัญกุล หรือเสี่ยเต้ย อดีตสามีนางวรรณลี ปัญญาใส อายุ 48 ปี หรือเจ๊อ๋อ ที่ถูกหวย 90 ล้าน และจ้างหย่า 50 ล้านบาท จนกลายเป็นข่าวโด่งดัง กระทั่งเมื่อหลายวันก่อน เสี่ยเต้ยมาเสียชีวิตด้วยการติดเชื้อในกระแสเลือด โดยญาตินำศพมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน อ.หนองแสง จ.อุดรธานี โดยมีกำหนดฌาปนกิจในวันที่ 25 พ.ย.นี้
ขณะที่ ญาติของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า ขณะนี้เกิดปัญหาไม่มีเงินจัดงานศพให้น้องชาย เนื่องจากกดเงินออกจากบัญชีน้องชายไม่ได้
โดยก่อนหน้านี้น้องชายมีเงินในบัญชีธนาคาร 2 แห่ง บัญชีแรกมีเงิน 10 ล้านบาท ส่วนอีกบัญชีมีเงินหลักแสน โดยคืนวันที่ 19 พ.ย.(ก่อนเสี่ยเต้ยเสียชีวิต 1 วัน) เสี่ยเต้ยได้นำบัตรเอทีเอ็มมาไว้ให้ตน โดยยังกดเงินออกมาได้ตามปกติ แต่หลังจากที่น้องชายเสียชีวิต จะไปกดเอทีเอ็มนำเงินออกมาเป็นค่าใช้จ่ายงานศพ แต่กดเงินออกมาไม่ได้ เหมือนบัญชีถูกอายัด ทำให้ไม่มีเงินทำศพ จึงต้องตั้งศพไว้ที่บ้านก่อน และเตรียมไปติดต่อธนาคารอีกครั้ง
เบื้องต้นญาติๆ และเพื่อนๆ ของเสี่ยเต้ยที่รักใคร่กัน ได้ช่วยกันระดมเงินลงขันช่วยๆ กัน จนพอที่จะจัดงานศพได้ ส่วนเรื่องเงินมีกี่บัญชี มีเท่าไหร่ เรื่องนี้ญาติของเสี่ยเต้ยไม่ทราบ เพราะไม่เคยถามกับเสี่ยเต้ย ไม่เคยไปวุ่นวายเรื่องเงินกับเขา
หลายคนตั้งข้อสงสัยในกรณีนี้ว่า หากญาติ หรือคนสนิทของเราเสียชีวิตกระทันหัน แต่ทางญาติมีความจำเป็นต้องนำเงินในบัญชีของผู้ตายมาใช้ อย่างกรณีนี้ก็คือ จะนำมาจัดงานศพ จะต้องดำเนินการอย่างไร?
ทนาย ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล เจ้าของเพจ legal intelligence มนต์ชัย ทนายโซเชียล เปิดเผยกับทีมงานรายการรอดไปด้วยกัน เกี่ยวกับกรณีนี้ว่า อันดับแรก การรับมรดกต้องเป็นไปตามพินัยกรรม แต่หากผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ กฎหมายกำหนดว่า
อันดับแรก ทางญาติจะมาตรวจสอบก่อนว่า ผู้ตายแต่งงานจดทะเบียนสมรส และมีลูกหรือไม่
- หากผู้ตายมีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันอยู่ และมีลูก เงินในบัญชีและทรัพย์สินทั้งหมดของผู้ตาย จะตกเป็นของภรรยาและลูก
- ในกรณีที่ผู้ตายหย่าร้างกับภรรยา หรือภรรยาเสียชีวิตไปก่อนแล้วนั้น แต่ยังมีลูกด้วยกัน และลูกมีชีวิตอยู่ เงินในบัญชีและทรัพย์สิน จะตกเป็นของลูก
- ในกรณีที่ผู้ตายไม่มีภรรยา หรือมีภรรยา แต่ไม่มีทะเบียนสมรสกัน และก็ไม่ได้มีลูก เงินในบัญชีและทรัพย์สิน จะตกเป็นของพ่อแม่ผู้ตาย
โดยหลักฐานที่ภรรยา ลูก พ่อแม่ของผู้ตาย ต้องนำไปแสดงต่อศาล จะมีดังนี้ 1.ใบมรณบัตร 2.ใบสูติบัตรผู้ตาย(เพื่อแสดงให้เห็นว่า พ่อแม่ของผู้ตายคือใคร) ใบสูติบัตรลูก(เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้ตายคือพ่อ) 3.ใบทะเบียนสมรสระหว่างผู้ตายและภรรยา 4.บัญชีของผู้ตาย
ส่วนขั้นตอนดำเนินการก็คือ ญาติๆ ต้องไปร้องต่อศาลที่ผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล
- ในกรณีที่ผู้ตายไม่มีภรรยา ไม่มีลูก ไม่มีพ่อแม่ แต่มีญาติ ดังนั้น ญาติใกล้ชิดสนิทสนมจะต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้ได้ว่า ตนเองเป็นญาติของผู้ตายจริงๆ โดยการหลักฐานที่เป็นรูปถ่ายที่แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนม, มีหลักฐานการทำงาน การใช้ชีวิต การทำธุรกรรม เป็นต้น ซึ่งหลักฐานต่างๆ เหล่านี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลว่า น้ำหนักของหลักฐานหนักแน่นหรือไม่
ในกรณีที่ผู้ตายไม่เหลือใครเลย ไม่มีภรรยา ไม่มีลูก ไม่มีพ่อแม่ และไม่มีญาติ สุดท้ายแล้วทรัพย์สินจะตกเป็นของแผ่นดิน
อย่างไรก็ตาม ส่วนเรื่องพินัยกรรมทรัพย์สินของเสี่ยเต้ย นางสงกรานต์ พี่สาวคนที่ 4 ของเสี่ยเต้ย เปิดเผยว่า เสี่ยเต้ยเคยพูดก่อนเสียชีวิตว่า หากผมเป็นอะไรไปขอให้พี่ไปที่ธนาคารในตัวเมืองและเปิดเซฟดูพินัยกรรมว่ามีอะไรบ้าง พี่ไม่ต้องห่วงผมทำไว้หมดแล้ว จะไม่ปล่อยให้ครอบครัวลำบาก โดยหลังเสร็จงานศพเสี่ยเต้ย จะมีการอ่านพินัยกรรมที่บ้านเสี่ยเต้ย โดยพี่ทั้ง 4 คนของเสี่ยเต้ยมาร่วมรับฟัง
ส่วนเจ๊อ๋อและลูกบุญธรรม(ตามรายงานข่าวมีการระบุว่า เด็กหญิง 4 ขวบ ลูกบุญธรรมของเสี่ยเต้ย เป็นลูกของลูกสาวเจ๊อ๋อ โดยเสี่ยเต้ยและเจ๊อ๋อ จดทะเบียนรับรองบุตรบุญธรรมเป็นลูกตามกฎหมาย) จะมาร่วมฟังด้วยหรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ๊อ๋อ ถ้าเสี่ยเต้ยทำพินัยกรรมให้เจ๊อ๋อและลูกบุญธรรมก็มีสิทธิ์มารับฟัง คาดว่าเจ๊อ๋อจะมาร่วมงานเผาศพวันที่ 25 พ.ย. อยากให้เจ๊อ๋อมา เพราะเสี่ยเต้ยรักเจ๊อ๋อมาก