แม่ทัพภาคที่ 4 ขอเวลาหาสาเหตุระเบิดอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ว่าเกิดจากคนหรือระบบ เพื่อแก้ไขให้ถูกจุด พร้อมยอมรับปัญหาสะสมมานาน ต้องใช้เวลาแก้ไข
พลโทวลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ จากการปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน และภารกิจต่างๆ โดยกล่าวถึงสถานการณ์ภาคใต้ว่า ในช่วงเดือนรอมฎอน ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบนโยบายให้ดูแลอย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากทหารก็ยังมีตำรวจและฝ่ายปกครอง โดยหลักสำคัญคือการทำให้ประชาชนปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ซึ่งต้องแบ่งพื้นที่รับผิดชอบให้ชัดเจน เขตเมือง ผอ.รมน.จังหวัดดูแล ส่วนอำเภอศูนย์ปฏิบัติการและนายอำเภอเป็นผู้ดูแล โดยมีการเพิ่มกำลังอาสาสมัครด้วย นอกจากนิติทางด้านกำลัง ยังใช้นิติศาสนาเข้าช่วยเพราะยังมีการบิดเบือนความเชื่อทางศาสนาอยู่
ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุยังมุ่งทำลายแหล่งเศรษฐกิจ หรือจุดที่มีความอ่อนแอร่วมไปถึงมัสยิด แสดงให้เห็นว่าไม่คำนึงถึงหลักศาสนา ถือเป็นสิ่งที่หน้าเป็นห่วง แต่ทั้งหมดทุกฝ่ายก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่ ตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบกในฐานะหัวหน้า คสช.
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเหตุระเบิดที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา มาจากคนหรือระบบที่มีปัญหา หากเกิดจากคนน่าจะมีความประมาทหรือละเลยซึ่งต้องลงโทษ แต่หากเกิดจากระบบก็ต้องปรับปรุงแก้ไขในทุกนิติ
แม่ทัพภาคที่ 4 ยอมรับปัญหาภาคใต้ สะสมมายาวนาน ต้องใช้เวลาในการแก้ไข จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะประชาชน ที่ต้องมีส่วนร่วมและเปลี่ยนแปลงความเชื่ออย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะการทำให้ประชาชน เชื่อมั่นศรัทธาในเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในขณะที่เจ้าหน้าที ต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเป็นธรรม ทั้งนี้ยืนยันส่วนตัวทำงาน ตามที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ไม่เกี่ยวกับ ช่วงฤดูแต่งโยกย้าย เพราะไม่สามารถเลือกได้ว่าจะไปอยู่ที่ใด ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา
เบตง
ยะลา
แม่ทัพภาค4
พลโทวลิตโรจนภักดี
คาร์บอมบ์
ชายแดนใต้
ปัญหา
คน
ระบบ
การเมือง
แก้ปัญหารถติด
ไฟใต้