ผบ.ทร. สั่งการส่งเรือ 20 ลำ เตรียมอพยพ ส.ส.-ส.ว. ออกจากสภาฯ หากปิดเส้นทางบก ส่วนกรณีผู้ชุมนุมจะนำเรือเป็ดใช้เดินทางน้ำไปยังรัฐสภานั้น อยู่ในความรับผิดชอบกรมเจ้าท่า และตำรวจน้ำในการดูแลรักษาความปลอดภัย
วันที่ 17 พ.ย. พล.ร.ท.เชษฐา ใจเปี่ยม โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณี สำนักงานเลขารัฐสภา ของเรือสนับสนุนเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย ของ สส และ สว. ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในระหว่างวันที่ 17-18 พ.ย. ภายหลังมีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มเดินทางมาร่วมทำกิจกรรม กรณีหากมีการปิดเส้นทางบก โดยจำเป็นต้องใช้เส้นทางทางเรือในการอพยพ สส.และ สว. ร่วมถึงเจ้าหน้าที่ประจำรัฐสภา
โดยกองทัพเรือสนับสนุนเรือจากกรมการขนส่งทหารเรือ และกองเรือลำน้ำ เตรียมพร้อมหากมีความจำเป็น ส่วนกรณีผู้ชุมนุมจะนำเรือเป็ดใช้เดินทางน้ำไปยังรัฐสภานั้น พล.ร.ท.เชรษฐา กล่าวว่า อยู่ในความรับผิดชอบกรมเจ้าท่า และตำรวจน้ำในการดูแลรักษาความปลอดภัย ส่วนกองทัพเรือจะเข้าบูรณาการกรณีฉุกเฉิน
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้อนุมัติจัดตั้งหมวดเรือเฉพาะกิจเคลื่อนย้ายและรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญทางน้ำ โดยเตรียมเรือจำนวน 20 ลำ ของกรมการขนส่งทหารเรือ และตรียมเรือจำนวน 3 ลำไว้สำหรับ สส. และ สว. รวมถึงเรือตรวจการณ์จู่โจม เรือตรวจการลำน้ำกองทัพเรือ เรือยางท้องแข็ง
ขณะเดียวกัน ประกาศกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ได้ประกาศสภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า จังหวัดสมุทรปราการและพื้นที่ใกล้เคียง ในระหว่างวันที่ 15 – 23 พ.ย.63 ระหว่างเวลาประมาณ 05.00 –13.00 น. (ฉบับที่ 20) เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้มีกําลังแรงขึ้นลักษณะดังกล่าวอาจทําให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ
โดยคาดหมายว่าที่บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าฯ และพื้นที่ใกล้เคียงระดับน้ำจะมีความสูงประมาณ 1.70 – 1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลางจากระดับทะเลปานกลาง จึงขอให้ระมัดระวังผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากระดับน้ำดังกล่าวและติดตามสภาวะระดับน้ำอย่างใกล้ชิด
+ อ่านเพิ่มเติม