เปิดนาทีชุลมุน สลายการชุมนุมมวลชนราษฎร บริเวณแยกเกียกกาย

1,790 ครั้ง

17 พ.ย. 2563

แชร์ข่าวไปที่

วันที่ 17 พ.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้จะมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) โดยมีวาระเรื่องด่วนที่น่าจับตาคือเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ รวมถึงการรายงานการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนรับหลักการจำนวน 6 ฉบับ ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว

ขณะที่ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ประกอบด้วย ร่างฝ่ายค้าน 5 ฉบับ ร่างฝ่ายรัฐบาล 1 ฉบับ และร่างประชาชน 1 ฉบับ

ในการประชุมครม.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ในระหว่างช่วงพักการประชุม ครม.นายกฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่เปิดมิวสิกเพลง "เพราะเธอคือประเทศไทย" เวอร์ชั่นใหม่ ที่ร้องโดยวง The Newsroom ซึ่งเป็นเพลงที่นายกฯ แต่งเนื้อร้อง ในข่วงสมัยรัฐบาล คสช.เปิดในห้องประชุม ครม.ที่ตึกสันติไมตรี

โดย นายกฯย้ำว่า เป็นเพลงที่ตั้งใจแต่งขึ้น เพื่อให้คนไทยมีความภาคภูมิใจ รักกัน ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก

มีรายงานว่า ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้มีการหารือเป็นการส่วนตัวกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ห้องรับรองตึกสันติไมตรี เป็นเวลาประมาณ 10 นาที

กระทั่งเวลาประมาณ 14.28 น. ที่แนวแบริเออร์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห่างจากรัฐสภาประมาณ 30 เมตร มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุมราษฎร บริเวณแนวกั้น ขณะที่แนวการ์ดของคณะราษฎร ได้ประกาศให้นำมวลชนออกจากแนวกั้น พร้อมกับวางกำลังของการ์ด ที่มีเครื่องป้องกัน ทั้งหมวก แว่นตา เข้าไปแทน

ขณะที่ เวลา 14.30 น. พบว่าบรรยากาศบริเวณสี่แยกเกียกกายไปจนถึงท่าเรือเกียกกาย ได้มีมวลชนที่สวมใส่เสื้อเหลืองทยอยเดินทางจากบริเวณด้านสี่แยกบางโพเข้าสมทบบริเวณสี่แยกเกียกกาย

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงการฉีดน้ำว่า มีการตั้งแนวและพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้ามา โดย 3 ครั้งแรก เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำเปล่า และครั้งที่ 4 เจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำผสมสารเคมี เนื่องจากผู้ชุมนุมยังมีการฝ่าแนวกั้นอยู่ โดยเป็นการทำตามยุทธวิธี ไม่ได้สลายชุมนุม แต่เป็นการเจรจา

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้พยายามกันผู้สื่อข่าวให้ออกไปอยู่แนวหลัง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายก็ถูกละอองสารเคมี ที่ลอยกลับมาเข้าตา ทำให้แสบตา จนต้องถอยมาล้างหน้าและเช็ดตา เพื่อให้ดีขึ้น

เวลา 15.20 น. ตัวแทนกลุ่มราษฎร ได้มีการประกาศว่า เรือเล็กของกลุ่มราษฎร 2 ลำ กำลังจะเดินทางมาถึงพื้นที่ พร้อมอ้างว่า กรมเจ้าท่าได้ยึดเรือใหญ่ของกลุ่มราษฎรไปแล้วทั้ง 4 ลำ ถือว่าเจ้าหน้าที่รัฐบังคับให้ประชาชนเป็นโจร

ฝากถึงตำรวจช่วยให้ความร่วมมือกับประชาชน และฝากถึงกรมเจ้าท่า ให้ปล่อยเรือของกลุ่มราษฎร มิฉะนั้น เรือที่จอดอยู่ในเขตท่าน้ำนนท์ ประชาชนก็สามารถยึดได้เช่นกัน ถ้าเรือของราษฎรมา ราษฎรก็จำเป็นจะต้องยึดเรือด่วนเจ้าพระยา ไปร่วมในการชุมนุมในครั้งนี้

เวลา 16.05 น. วันที่ 17 พ.ย. ตัวแทนมวลชนราษฎร ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า จะให้โอกาสเจ้าหน้าที่ส่งคนมาเจรจา โดยคนที่จะเจรจาให้ขึ้นมาที่หัวรถฉีดน้ำ โดยเจรจากันคนละประโยค หากนับ 1-10 แล้วไม่มีใครมาเจรจา อาจจะมีการขยับของกลุ่มราษฎร

เวลา 16.19 น. เจ้าหน้าที่ได้มีการฉีดน้ำที่คาดว่ามีการผสมสารเคมีใส่กลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้ง เนื่องจากหลายคนมีอาการแสบจมูก แสบตา ขณะที่ตัวแทนราษฎรได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมได้หลบไปทางซ้ายมือ และให้ดูแลกัน โดยให้ส่งน้ำให้มวลชนที่อยู่แนวหน้าได้ล้างตา และอย่าเอามือขยี้ตา ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนก็ได้เริ่มถอยร่นมาทางด้านหลังที่ติดกับแนวรถของแกนนำ

17.20 น. บริเวณแยกเกียกกายจุดที่ผู้ชุมนุม ล่าสุด กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถฝ่าแนวกั้นในบริเวณดังกล่าวเข้าไปได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ล่าถอยออกจากพื้นที่ ส่งผลให้ผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรปะทะกับกลุ่มม็อบเสื้อเหลือง โดยมีการปาสิ่งของเข้าใส่กันเช่นขวดน้ำ ถังสี และสิ่งของอื่นๆอย่างชุลมุน

ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/IRodP5mEwPs

แชร์ข่าวไปที่

รอดไปด้วยกันเศรษฐกิจชาวบ้าน

ม็อบ

ชุมนุม

สลายม็อบ

ราษฎร

เสื้อเหลือง

แก๊สน้ำตา

รัฐสภา