'สมพงษ์' ซัด! นายกฯ เป็นต้นเหตุของปัญหา นำประเทศสู่วิกฤติ จี้ลาออก-ปล่อยตัวผู้ชุมนุม

14,835 ครั้ง

26 ต.ค. 2563

แชร์ข่าวไปที่

สมพงษ์ ชี้นายกฯเป็นต้นเหตุของปัญหา นำประเทศสู่วิกฤติ จี้ลาออก แสดงความรับผิดชอบ และปล่อยตัวผู้ชุมนุมกลุ่มที่ถูกจับกุมคุมขัง

วันที่ 26 ต.ค. ที่อาคารรัฐสภา เพื่อเข้าร่วมประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ อภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 165 เพื่อหาทางออกประเทศ จากสถานการณ์การชุมนุม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรก ระบุ รู้สึกเสียใจกับญัตติที่รัฐบาลเสนอ เป็นการสร้างความแตกแยกให้ขยายวงกว้าง และซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงไปอีก ไม่สามารถเป็นทางออกให้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่ยืนยันตนเอง มีความตั้งใจจะใช้โอกาสนี้เสนอทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ จึงขอร้องทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมช่วยกันประคับประคอง ให้การเปิดประชุมสมัยวิสามัญครั้งนี้เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ แก้วิกฤติประเทศ

การเปิดประชุมครั้งนี้มีความสำคัญเพราะแนวโน้มการจัดการภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีจะยิ่งนำพาไปสู่สถานการณ์ที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังจากถ้อยคำและการกระทำของนายกฯและมาตรการต่างๆที่ออกมา ล้วนเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟ ซึ่งเป็นการยั่วยุ และซ้ำเติมให้สถานการณ์ต่างๆ ยุ่งยากเข้าไปอีก

ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมล้วนมาจากรัฐบาลเป็นต้นเหตุ ตั้งแต่ขาดความชอบธรรมในการเข้ามาบริหาร สร้างรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฏหมายสูงสุดของประเทศ เพื่อคงไว้ซึ่งอำนาจของตนเองมากกว่าเป้าหมายของรัฐธรรมนูญที่ควรจะเป็นคือสิทธิเสรีภาพ ความเป็นธรรม ในทุกสถานการณ์ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค ไม่มีการเลือกปฏิบัติ

การบริหารงานตลอดหกปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดว่านายกรัฐมนตรีล้มเหลวไร้ความสามารถด้วยนโยบายที่ผิดพลาดเริ่มต้นด้วยการเข้าสู่อำนาจ ที่มาอย่างไม่ชอบทำจากกฎกติกาที่สร้างขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจ ทำให้รัฐบาลไม่มีผลงานในการบริหารประเทศ ไม่เป็นที่ยอมรับและไว้วางใจจนทำให้ประชาชนออกมาชุมนุม และเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น คือการสั่งการสลายการชุมนุม จนนำไปสู่การจับกุม คุมขัง ตั้งข้อหาไม่เป็นธรรม และยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกกังวลของประชาชนและประชาคมโลก ซึ่งไม่มั่นใจว่าภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีจะใช้มาตรการความรุนแรงต่อนักเรียนนักศึกษาและประชาชนอีกหรือไม่

นายสมพงษ์ ยังกล่าวอีกว่าปัญหาปัจจุบันประเทศเราก้าวไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม และความดื้อรั้นของนายกรัฐมนตรีด้วยแนวคิดอำนาจนิยม ยึดติดกับอำนาจที่ได้มาโดยไม่ชอบทำใช้กลไกของรัฐมาควบคุมคุกคามประชาชน ขยายความขัดแย้งรุนแรงจนไม่สามารถสร้างโอกาสและทางเลือกที่เหมาะสมในการแก้ปัญหาของชาติ รวมถึงปัญหาเศรษฐกิจสังคม การศึกษา การว่างงาน จึงไม่สามารถที่จะให้พลเอกประยุทธ์ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านทหารมาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เพราะความคิดและการกระทำที่เป็นเผด็จการ ไม่เข้าใจประชาชน ทำให้ไม่เข้าใจประชาชนแม้จะอ้างว่ามาจากการเลือกตั้งแต่เป็นการเลือกตั้งที่สมคบกันสร้างฐานอำนาจให้ตนเองและพวกพ้องจากการออกแบบรัฐธรรมนูญที่มีเป้าหมายคือสืบทอดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ

สถานการณ์ปัจจุบันเป็นหลักฐานอย่างดีที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไม่เคยเข้าใจประชาชนและไม่คิดที่จะรับฟัง การชุมนุมวันนี้เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ ตามระบอบประชาธิปไตย ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นต่างๆควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง

จึงเรียกร้องให้พิจารณาข้อเสนอของผู้ชุมนุม และเปิดใจรับฟังเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยปลดเงื่อนไขที่เป็นมูลเหตุของวิกฤตและให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกคุมขังจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดในการใช้เพราะ ประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงและยุติการใช้กฎหมายดำเนินคดีกับ ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐบาลและที่สำคัญที่สุดคือนายกรัฐมนตรีต้องลาออกเพราะเป็นอุปสรรคสำคัญที่เป็นภาระของประเทศ หากนายกรัฐมนตรีลาออกจะเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อ ความผิดพลาดและความล้มเหลว

แชร์ข่าวไปที่

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

สมพงษ์อมรวิวัฒน์

ฝ่ายค้าน

พรรคเพื่อไทย

ประชุมสภา

ประชุมสภาสมัยวิสามัญ

ม็อบ26ตุลา

ผู้ชุมนุม