ประชาชนจากหลายพื้นที่ ของจังหวัดชลบุรี กว่า 1,000 คน ร่วมกันสวมเสื้อเหลือง ออกมาปกป้องสถาบัน ขณะที่ชาวพิษณุโลกเข้าแจ้งความดำเนินคดีม็อบนักศึกษากระทำการจาบจ้วงสถาบัน
ชลบุรี - เมื่อเวลา 16.15 น. ที่หน้าลานพระรูปเสด็จพ่อ ร.5 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี ตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้มีประชาชนในหลายพื้นที่ กว่า 1,000 คน ได้ร่วมตัวกัน โดยใส่เสื้อเหลืองและชูภาพพระบรมสาทิศลักษณ์และพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 พร้อมทั้งโบกธงชาติและธงเฉลิมพระเกียรติสีเหลือง เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
พร้อมมีการเปิดเผยว่า ด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันหลักของชาติ เป็นที่ยึดมั่นจิตใจของประชาชนชาวไทย เป็นองค์ประกอบสำคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามประเพณีการปกครองของไทย จึงเป็นหน้าที่สำคัญของประชาชนคนไทย ในอันที่จะเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ด้วยความจงรักภักดี และปกป้องรักษาพระบรมเดชานุภาพ พวกเราชาวชลบุรี จึงขอให้รัฐบาลได้ใช้มาตรการทางกฎหมาย กับผู้ประสงค์ร้าย มุ่งสั่นคลอนสถาบันหลักของชาติไทย โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึก ความผูกพันภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
โดยที่จะขอปกป้องรักษาถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยเลือด เนื้อ และชีวิต ให้คงอยู่ควบคู่กับแผ่นดินไทยตลอดไป ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงหลังจากนั้นร่วมกันร้องเพลงชาติไทย และได้สลายตัวแยกย้ายกลับบ้าน
พิษณุโลก - ประชาชนชาวจังหวัดพิษณุโลกที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้นัดหมายรวมตัวกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เข้าพบ พันตำรวจเอกภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เพื่อนำหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามมาตรา 112 กับ แนวร่วมกลุ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร ที่จัดกิจกรรม และขึ้นเวทีปราศรัยภายในมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
โดยหนึ่งในประชาชนบอกว่า ประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อดทน อดกลั้นต่อการกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม ที่กระทำการจาบจ้วง ดูหมิ่น ไม่ว่าจะเป็นการกระทำหรือวาจา มาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งมีหลักฐานปรากฏการกระทำความผิดที่ชัดเจน
จึงมีความคิดว่าควรให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อผู้กระทำผิดกฎหมาย เพราะการกระทำจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
โดยในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ ตนเองจะนำเอา หลักฐานกรณีนี้ เข้ายื่นต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อพิจารณาดำเนินคดีต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
+ อ่านเพิ่มเติม