ท่ามกลางสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มราษฎร ทำให้หลายคนไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ เอกชน บริษัทห้างร้าน รวมไปถึงประชาชน เป็นกังวลว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจ ที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นตัวจากพิษวิกฤตโควิด-19 ว่าจะทรุดหนักลงไปอีกหรือไม่
ขณะที่ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัครสส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นในใจกลางเมือง ที่เป็นย่านเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อการสัญจรไปมา การดำเนินชีวิต และการทำมาหากิน โดยจะเห็นได้จากภาพที่แชร์กันในโลกออนไลน์ ถึงภาพห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในย่านราชประสงค์แทบจะเป็นห้างร้างหลังการชุมนุม ฉะนั้นจะเห็นได้ว่ามีผลกระทบทางจิตวิทยา ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอย และใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง การจ้างงาน
ด้าน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศโดยเฉพาะการชุมนุมในช่วงนี้ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างชัดเจน เพราะมีการชุมนุมในเขตค้าขายและร้านค้าไม่ได้ปิด ขณะที่ผู้ชุมนุมมีการจับจ่ายใช้สอย มองว่ายังไม่เห็นผลกระทบหากไม่มีการทำลายทรัพย์สินและการทำร้ายซึ่งกันและกัน
ดังนั้นจึงต้องติดตามให้ทุกฝ่ายร่วมมือและแก้ปัญหา รวมถึงจับตาท่าทีรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรเมื่อหลายฝ่ายออกมาแสดงความพร้อมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีความเห็นร่วมกันทั้งผู้ชุมนุมและรัฐบาล ทางรัฐบาลต้องรีบแก้ไขในเรื่องนี้
ทั้งนี้ การชุมนุมที่มีการกระจายในหลายจุด โดยวันนี้ยังอยู่ในความเรียบร้อย หากจะกระทบกับการค้าขาย ก็จะเป็นแค่เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ในระยะยาวกังวลว่าจะมีมือที่สามเข้ามาทำให้การเรียกร้องไม่เป็นไปอย่างเรียบร้อย อาจกระทบความเชื่อมั่นและการลงทุนได้
ดังนั้นจึงต้องติดตามให้ทุกฝ่ายร่วมมือและแก้ปัญหา รวมถึงจับตาท่าทีรัฐบาลว่าจะดำเนินการอย่างไรเมื่อหลายฝ่ายทุกภาคส่วนออกมาแสดงความพร้อมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีความเห็นร่วมกันทั้งผู้ชุมนุมและรัฐบาล ทางรัฐบาลต้องรีบแก้ไขในเรื่องนี้
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/niiGzKBBhRM
+ อ่านเพิ่มเติม