เรื่องร้อนของเมืองไทยในขณะนี้ คงหนีไม่พ้นอุณหภูมิทางการเมือง ที่กำลังเดือดสุดๆ ไล่เรียงกันตั้งแต่เมื่อวาน 14 ตุลา ที่มีการเผชิญหน้าของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกว่า คณะราษฎร 2563 และ กลุ่มคนเสื้อเหลือง จนเกิดเหตุปะทะและความวุ่นวายกันหลายช่วงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ดังที่เราเห็นคลิปกันในโลกออนไลน์ ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎรจะเคลื่อนล้อมทำเนียบรัฐบาล พร้อมประกาศจะปักหลักค้างคืน ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก
แต่ในช่วง 04.00 น. ของวันที่ 15 ต.ค.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร หลังเกิดความรุนแรงในการชุมนุม ความไม่สงบเรียบร้อยของประชาชน มีการกระทำที่กระทบต่อขบวนเสด็จพระราชดำเนิน
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะเข้ากระชับพื้นที่ สลายการชุมนุม คุมตัวผู้ชุมนุมได้รวม 20 คน โดยในจำนวนนี้มีแกนนำรวม 3 ราย ประกอบด้วย, นายอานนท์ นำภา, เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ และนายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ ก่อนที่ช่วงสาย เจ้าหน้าที่นำหมายจับเข้าจับกุมอีก 2 แกนนำ รุ้ง ปนัสยา และชานนท์ ไพโรจน์ ที่ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งในเขตพระนคร หลังทางกลุ่มประกาศจะทำการชุมนุมอีกครั้งในวันนี้ (15 ต.ค.63) เวลา 16.00 น. ที่แยกราชประสงค์ แม้ว่าจะถูกสลายการชุมนุมไปแล้วในช่วงเช้า
ซึ่งตำรวจได้แถลงเตือนห้ามชุมนุม แยกราชประสงค์เด็ดขาด หากฝ่าฝืนก็จำเป็นต้องเข้าควบคุมตัวตามกฎหมาย พร้อมตั้งกอร.ฉ. หรือ กองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง คุมสถานการณ์ความรุนแรง หากเหตุการณ์ความไม่สงบบานปลายไปต่างจังหวัดก็จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มเช่นกัน
แต่สถานการณ์ล่าสุดที่แยกราชประสงค์ มีผู้ชุมนุมมารวมตัวหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งปิดการจราจรบริเวณโดยรอบเต็มรูปแบบ บริเวณถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกราชดำริ ไปจนถึงประตูน้ำ, ถนนพระราม 1 แยกเฉลิมเผ่า - แยกราชประสงค์ และ ถนนเพลินจิต ตั้งแต่แยกชิดลม ไปยังแยกราชประสงค์ ซึ่งประชาชนสามารถหลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางรอบนอกได้ 12 เส้นทาง อาทิ ถนนราชปรารภ, เพชรบุรี, พญาไท, พระรามสี่, อังรีดูนังต์
บรรยากาศล่าสุดช่วงเย็นนี้ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการวางกองกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนหลายกองร้อย โดยรอบพื้นที่ทั้งหมด เกิดการกระทบกระทั่งกัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่พยายามผลักดันมวลชนที่รวบตัวอยู่บนสกายวอล์ค เพราะไม่อนุญาตไม่การรวมตัวกันเกิน 10 คน ตามข้อกำหนดของประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้เกิดความไม่พอใจแก่มวลชน เกิดเหตุชุลมุนกันเป็นระยะ
ซึ่งจากความเดือดของการเมืองไทยในช่วงนี้ ทำให้หลายฝ่ายกังวลโดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ เพราะจากพิษโควิด-19 ก็ทำให้ประเทศเจ็บหนักมาแล้ว และหากเกิดความวุ่นวายทางการเมืองจะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจของไทย เพราะภาพข่าวถูกนำเสนอไปทั่วโลก สร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับชาวต่างชาติและนักลงทุน หวั่นว่าอาจซ้ำรอยความรุนแรงที่ฮ่องกง
วันนี้เราลองมาฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์จาก สัมภาษณ์สด รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง ถึงประเด็นเศรษฐกิจไทยท่ามกลางการเมืองร้อนแรงนี้ และการหาทางรับมือของชาวบ้านอย่างเราๆ หากต้องได้รับผลกระทบจากสิ่งที่ไม่คาดคิด
+ อ่านเพิ่มเติม