นายกฯ ดอดพบประธานชวน พร้อมขอคำแนะนำในการทำหน้าที่ ยันไม่ขัดแย้งกับใคร ห่วงม๊อบจาบจ้วงสถาบันฯ ขณะชวน มอบต้นลิ้นมังกรทองใ
วานนี้ (9 ต.ค.63) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง เข้าพบ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา โดยยืนยันว่าไม่มีวาระซ่อนเร้น มาพบเพียงเพื่อเชิญ นายชวน เข้าร่วม พิธีพระราชทานเพลิงศพ พันเอกประพัฒน์ จันทร์โอชา บิดา เนื่องจากนายชวน ถือเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง จึงต้องมาเชิญด้วยตนเอง ซึ่งนายชวน ได้มอบต้นลิ้นมังกรทองให้เป็นที่ระลึกด้วย
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การเข้าพบนายชวนครั้งนี้ ได้ขอคำแนะนำเรื่องการทำหน้าที่จากนายชวน หลีกภัย และไก้ยืนยันกับนายชวนว่า จะแก้ไขปัญหาการทุจริตให้ดีที่สุด พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่ได้มีความขัดแย้งกับใคร โดยเฉพาะ ส.ส. พรรคการเมืองต่างๆ เพราะถือว่าเข้ามาตามกระบวนการของประชาธิปไตย และ ส.ส. ทุกคนก็ถือเป็นผู้ทรงเกียรติ ดังนั้นการดำเนินการใดๆ จะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก เพราะรัฐบาลทำเพื่อคนทั้งประเทศ ไม่แบ่งว่า พื้นที่ไหนเป็นของฝ่ายใด
ขณะเดียวกันในรัฐบาลเองก็ไม่ได้มีความขัดแย้ง มีแต่เพียงความขัดแย้งภายนอกเท่านั้น โดยเฉพาะปัญหาการชุมนุมทางการเมือง ยอมรับว่าเป็นห่วง ไม่อยากให้เกิดขึ้น ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลลูกหลานตัวเองให้ดี เชื่อว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้ว ว่าอะไรควรไม่ควร อย่าขยายให้เรื่องบายปลาย ยืนยันว่า สิ่งทีรัฐบาลทำอยู่ก็เพื่อให้บ้านเมืองสงบ ไม่ขัดแย้งกับใคร หากรัฐบาลไม่ดำเนินการใดๆ ก็จะมีความผิดตามกฎหมายฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ และหากใครไม่ต้องการเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายก็ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย
นายกรัฐมนตรีขอขอบคุณประชาชน ที่มีความเป็นห่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ขออย่าเผชิญหน้ากัน และขอให้ทุกคนเข้าใจ ถึงการเข้ามาทำหน้าที่ ตั้งแต่ปี 2557 ว่า ตอนนั้นเกิดสถานการณ์อย่างไร พร้อมย้ำว่าการชุมนุมที่จะมีขึ้น อีกหากไม่ก้าวล่วงสถาบันฯ ก็ไม่มีปัญหา
ส่วนข้อกังวลว่าการชุมนุม จะกระทบเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินนั้นยืนยันว่า เจ้าหน้าที่มีแผนถวายความปลอดภัยอยู่แล้ว และ กล่าวว่าช่วงนี้ เป็นบรรยากาศอันเป็นมงคล พิธีทางศาสนาในการถวายผ้าพระกฐิน “ใครทำกรรมดี ก็ได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่ว เขาทำบุญกันทั้งประเทศ จะมาทำลายบรรยากาศกันได้อย่างไร”
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่ได้มีการหารือกับ นายชวน หลีกภัยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกรรมาธิการ ที่เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาจะมีการหารือกัน ว่า จะลงมติ เลือกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบัใก จะตั้ง ส.ส.ร. หรือไม่ พร้อมรับปากว่า จะเร่งออกกฎหมายประชามติให้เร็วขึ้น เพื่อรองรัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย แต่หากรัฐธรรมนูญใหม่ยังไม่ออกมา ก็ต้องใช้ฉบับเดิมไปก่อน
ทั้งนี้ ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกฝ่ายและ สื่อมวลชน ช่วยกันดูแลบ้านเมืองเพื่อลูกหลานทุกคนในฐานะที่เป็นคนด้วยกัน อย่าทำอะไรให้อนาคตเสียหาย สิ่งสำคัญคืออย่าลืมแผ่นดินเกิดที่บรรพบุรุษปกป้องมา จนมีที่อยู่ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่ดีที่สุดในอาเซียน เพราะทุกวันนี้ เศรษฐกิจก็แย่พออยู่แล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม