จากกรณีหญิงสาวได้รอยสักไม่ตรงปก จะไปสักพญานาค แต่ดันได้งูเขียวหัวโม่ง และต่อมา ช่างโจ้ เจ้าของร้านร่มไม้แทททู ประธานชมรมผู้รักอาชีพช่างสักแห่งประเทศไทย ได้ช่วยแก้รอยสักให้ จนได้เป็นพญานาคสมใจนั้น ล่าสุด กลายเป็นดราม่าอีกครั้ง
เมื่อวานนี้ (5 ต.ค.) น.ส.สุพรรณี เรืองอ่อน สาวสักพญานาค เปิดใจว่า ก่อนหน้าจ้างให้ช่างสักลายบนแผ่นหลังเป็นรูปพญานาค แต่ลวดลายที่ได้กับไม่เหมือนต้นแบบ จึงประสานช่างสักเพื่อขอแก้ไขและแสดงความรับผิดชอบ พร้อมนำไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ขณะช่างสักนั้นได้ติดต่อช่างสักคนใหม่ให้มาแก้ไขและทำตามแบบที่ตั้งใจไว้จนแล้วเสร็จ หลังจากแก้รอยสักมากว่า 1 สัปดาห์ พบว่าบริเวณแผ่นหลังที่มีการสักพญานาค มีตุ่มแดง ๆ เป็นหนองและมีผื่นคันเต็มไปหมด เหมือนแพ้อะไรบางอย่าง ซึ่งรอยสักก็ยังลอก สีพญานาคก็เปลี่ยนไปด้วย หลังเกิดอาการก็ได้หลีกเลี่ยงการเกา คิดว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่อาการปกติหลังจากที่ได้สักไปแล้ว และต้องรอดูอาการว่าจะดีขึ้นหรือเป็นอย่างไร
ด้าน น.ส.จุติมา เรืองอ่อน น้องสาวของ น.ส.สุพรรณี กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าว่าตุ่มแดงและผื่นคันนั้นมาจากอุปกรณ์สักไม่สะอาดหรือไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ รวมทั้งไม่รู้ด้วยว่าตุ่มจะเพิ่มขึ้นด้วยหรือเปล่า หลังจากพี่สาวมีอาการคันก็ยังไม่มีการติดต่อกับช่างสัก แต่นำภาพลงไปโพสต์ในโซเชียลแล้ว หลังจากแก้รอยสักมากว่า 1 สัปดาห์ พบว่าบริเวณแผ่นหลังที่มีการสักพญานาค มีตุ่มแดง ๆ เป็นหนองและมีผื่นคันเต็มไปหมด เหมือนแพ้อะไรบางอย่าง ซึ่งรอยสักก็ยังลอก สีพญานาคก็เปลี่ยนไปด้วย หลังเกิดอาการก็ได้หลีกเลี่ยงการเกา คิดว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่อาการปกติหลังจากที่ได้สักไปแล้ว และต้องรอดูอาการว่าจะดีขึ้นหรือเป็นอย่างไร
น.ส.จุติมา กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า โพสต์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ยอมรับว่าไม่มีความรู้เรื่องการสัก เพราะเพิ่งสักครั้งแรก สิ่งที่เกิดขึ้นไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเครื่องมือที่ใช้สัก หรืออาจเกิดจากผลข้างเคียงจากการสัก แต่ยอมรับว่าตอนนี้เครียดมาก ไม่อยากออกมาพูดให้ใครเสียหายอีกแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะไปรักษาอาการผื่นขึ้นที่แผล ทั้งนี้ ตนเองขอให้จบเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะไม่อยากเป็นข่าว
ขณะที่ คุณน้ำอ้อย ภรรยาของช่างโจ้ ซึ่งเป็นช่างสัก เปิดเผยว่า ขณะนี้สามีรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เนื่องจากเกิดความเครียดสะสม พักผ่อนน้อย หลังจากเดินทางกลับมาจากการแก้รอยสักที่นครศรีธรรมราช และเริ่มมีกระแสดราม่า ทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่ ร่างกายทรุดตัวลง จนหายเงียบไป เพราะต้องรักษาตัวและฟื้นฟูสภาพจิตใจ
กรณีประเด็นดราม่าที่ออกมา คุณน้ำอ้อย ชี้แจงว่า ประเด็นแรกที่ถูกโจมตีเรื่องภาพถ่ายหลังสักเสร็จมีการปรับแสงให้ดูสดใส เนื่องจากสถานที่สักเป็นบ้านของเจ้าของรอยสัก ที่แสงสว่างน้อย และมีเพียงแสงสว่างจากโคมไฟเท่านั้น ปกติหลังสักเสร็จ ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่ารอยสักจะลอกหมด แต่นี่ผ่านมาแค่ไม่กี่วัน มันยังลอกไม่หมด โดยหลังสักจะต้องดูแลรอยสักไม่ให้ถูกน้ำ สบู่ แชมพู หรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของน้ำหอม รวมถึงต้องทาออยล์ให้ผิวชุ่มชื่นอยู่เสมอ ซึ่งตนมีรอยสักจำนวนมากที่เป็นฝีมือสามี ก็ไม่เคยเกิดปัญหาเพราะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
ส่วนดราม่าเรื่องอุปกรณ์สัก แก้วน้ำ จานสี เป็นของช่างเจ ช่างคนแรก เราไม่ได้เป็นคนเตรียมไป มีเพียงเครื่องสักและเข็มสักเท่านั้น หากจะสงสัยว่าแพ้หมึกสักหรือไม่ ต้องไปตรวจสอบกับช่างเจ ซึ่งเมื่อสามีไปเห็นอุปกรณ์สัก ก็จะไม่สักให้ เพราะต้องไลฟ์สด อาจทำให้ภาพลักษณ์ดูไม่ดี แต่สุดท้ายก็ยอมสัก ทั้งนี้ ตอนสักเสร็จ เจ้าของรอยสักก็พอใจ และไม่เคยติดต่อมาถามอะไรเลย ตนจึงสงสัยว่า หากมีปัญหาหรืออยากได้คำแนะนำ ทำไมไม่ถามเราที่เป็นช่างที่สักให้ แต่กลับนำภาพที่ดูไม่ดี ไปส่งให้เพจโจมตีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนยังไม่สามารถบอกสามีได้ กังวลว่าอาการจะทรุดหนักกว่าเดิม เพราะที่ไปเราตั้งใจไปทำให้ ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเลย แต่กลับถูกโจมตี เบื้องต้นได้ปรึกษาทนาย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่โจมตี ฐานหมิ่นประมาทและ พ.ร.บ.คอมแล้ว
ขณะที่วันนี้ (6 ต.ค.) นายกฤตย์ เหลืองเช็ง นายกสมคมการค้าผู้ประกอบการสักลาย ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว่า หากจะมีการแก้อีกครั้งก็อาจจะได้ไม่ดีเท่าที่ควร อีกทั้งขณะนี้รอยสักใหญ่ลามไปครึ่งหลังแล้ว หากจะมีการแก้อีกครั้งอย่างไรแล้วจะต้องมีขนาดใหญ่กว่าของเดิมขึ้นมาอีก ซึ่งอย่างน้อยงานต้องกินบริเวณกว้างครึ่งหลัง อย่างไรก็ตามเมื่อคิดจะมีรอยสักรอยสักติดตัวทั้งทีต้องมีการตรวจสอบ ต้องเช็กก่อน อย่าไปฟังเพียงว่าคนนี้ดัง หรือเก่ง อย่าเพิ่งไปเชื่อตรงนั้น
+ อ่านเพิ่มเติม