วันนี้ (23 ก.ย.) ที่กระทรวงมหาดไทยมีการเรียกประชุมผู้ว่าฯในเขตภาคกลางตอนบนลงมาจนถึง กทม. และปริมณฑล รวมถึงกรมชลประทาน เพื่อหารือและวางมาตรการรับมือสถานการณ์อุทกภัย
นายรอยล จิตรดอน ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร แถลงสรุปสถานการณ์ ว่า ขณะนี้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 21 จังหวัด 114 อำเภอ มีประชาชนเดือดร้อน 604,788 คน แบ่งเป็น
+ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด
+ ภาคเหนือ 4 จังหวัด
+ ภาคกลาง 7 จังหวัด
+ ภาคตะวันออก 2 จังหวัด
+ ภาคใต้ 1 จังหวัด
โดยรวมแล้วน้ำปีนี้มากกว่าปีที่แล้ว พ.ศ.2555 แต่ยังน้อยกว่าปี พ.ศ.2554
อย่างไรก็ตามในวันที่ 25 – 29 ก.ย.นี้ จะมีร่องมรสุมพาดผ่านเข้ามาทางภาคกลางอีกรอบ จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคกลาง , กทม. , ปริมณฑล และภาคตะวันออก ซึ่งจุดที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดคือ
+ เขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งขณะนี้มีน้ำอยู่ ร้อยละ 92 ของความจุ สามารถรับได้อีกแค่ 17 ล้าน ลบ.ม.
+ เขื่อนลำนางรอง มีน้ำอยู่ ร้อยละ 81 ของความจุ หากฝนตกลงมาอย่างหนักอีกรอบ น้ำจากเขื่อนลำนางรองจะทะลักออกไปทางจังหวัดบุรีรัมย์
ด้านนายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันว่า ขณะนี้ระดับน้ำใน กทม.ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ที่ห่วงคือ ปัญหาถนนใน กทม.ที่ทรุดลงเรื่อยๆ และกำลังเริ่มเป็นแอ่งกระทะ ทำให้การระบายน้ำออกจากตรอก ซอก ซอย ลงสู่ลำคลองได้ลำบาก กทม. จึงสั่งการให้สถานีสูบน้ำจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำเอาไว้ให้พร้อมทุกเครื่อง โดยเฉพาะในคลองเปรมประชากร ที่มีปัญหาเรื่องการระบายน้ำมากที่สุด
กระทรวงมหาดไทย
รอยลจิตรดอน
ผอสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร
กรมชลประทา
ประชุม
ประเมิน
สถานการณ์น้ำ
อุทกภัย
น้ำท่วม