พรรคประชาธิปัตย์ เสนอแผนโครงการไทยเข้มแข็ง2020 ให้รัฐบาลใช้แทน เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ย้ำ 7 ปีใช้เงินเท่ากัน แต่ได้งานการศึกษา สาธารณสุข และระบบชลประทาน เพิ่มเติม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทีมผู้บริหารพรรค แถลงเสนอแผน โครงการไทยเข้มแข็ง 2020 เพื่ออนาคตที่ประชาชนเลือกได้ โดยย้ำว่าเงิน 2ล้านล้านบาท สามารถอยู่ในระะบบงบประมาณได้ ซึ่งรักษาเสถียรภาพทางการคลังได้ดีกว่า โปร่งใสและสามารถลดการทุจริตคอร์รัปชั่นได้มากกว่า เป็นประโยชน์ต่อคนไทยทุกชนชั้นมากกว่า โดยไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ยังเพียงพอต่อการรองรับแผนการลงทุนใน7ปีข้างหน้า ด้วยการร่วมทุนกับบริษัทเอกชน ซึ่งจะสามารถจัดสรรเงิน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้คลอบคลุมมากขึ้น แบ่งเป็น
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 4 ด้าน คือ
- คมนาคม 1.2 ล้านล้านบาท
- การศึกษา และการวิจัย 4 แสนล้านบาท
- สาธารณสุข 2 แสนล้านบาท
- พัฒนาระบบชลประทานเพื่อการเกษตร 2 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นการใช้จ่ายในวงเงินที่เท่ากัน แต่ประเทศได้ของที่คุ้มค่า และคลอบคลุมรอบด้านมากกว่า จึงถือว่า แผนงาน 7 ปีเท่ากัน งบเท่ากัน แต่ได้งานมากกว่า
นายอภิสิทธิ์ ได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่ได้ทำโครงการนี้ตอนเป็นรัฐบาลว่า เป็นเพราะมีข้อจำกัดเรื่องการเงินการคลัง และต้องเร่งฟื้นตัวเศรษฐกิจโดยเร็ว ดังนั้นแผนจึงไปเสร็จในช่วงปี 2553 ซึ่งขณะนั้นมีการพูดคุยกับทางรัฐบาลจีนในเรื่องการจัดทำรถไฟความเร็วสูง รวมถึงมหาวิทยาลัยวิจัย แต่โครงการเหล่านี้ได้ชะงักเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล