ชวนร่วมงานมหกรรมผ้าไหมไทย จากชุมชนสู่สากล วันที่ 18-20 ก.ย.นี้
logo รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน

ชวนร่วมงานมหกรรมผ้าไหมไทย จากชุมชนสู่สากล วันที่ 18-20 ก.ย.นี้

รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน : เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ Covid-19 ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อนามัยและชีวิตความเป็นอยู่ของป รอดไปด้วยกันเศรษฐกิจชาวบ้าน,ทิน โชคกมลกิจ,รอดไปด้วยกัน,ข่าวเศรษฐกิจ,ผ้าไหมไทย,มหกรรมผ้าไหมไทย จากชุมชนสู่สากล

2,755 ครั้ง
|
15 ก.ย. 2563

เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ Covid-19 ได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อนามัยและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ประกอบ กับรัฐบาลได้ประกาศพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อแก้ไขปัญหา และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าว มีการจํากัดพื้นที่ (Lock down) การห้ามเข้าไปยังแหล่งที่มี ผู้คนแออัด รวมถึงการห้ามจัดงานประชาสัมพันธ์แสดงสินค้าและการจัดงาน Events ต่างๆ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ผลิตสินค้าหม่อนไหมที่ขาดโอกาสและไม่มีช่องทางในการจําหน่ายสินค้า

ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น รัฐบาลได้ประกาศผ่อนคลาย มาตรการต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจําวันได้ตามปกติ การประชาสัมพันธ์และ ส่งเสริมการตลาดผ้าไหมให้ผู้บริโภคทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นอีกภารกิจที่ ต้องดําเนินโดยเร่งด่วน ซึ่งกรมหม่อนไหมมีวิสัยทัศน์ในการเป็นองค์กรชั้นนําด้านหม่อนไหม เพื่อพัฒนาไหมไทยอย่างยั่งยืนสู่สากล

 

รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน : ชวนร่วมงานมหกรรมผ

กําหนดจัดโครงการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการตลาดผ้าไหมจากชุมชนสู่สากล ภายใต้แนวคิด (Theme) “มหกรรมผ้าไหมจากชุมชนสู่สากล” จัดในวันที่ 18-20 กันยายน 2563 ณ ลานโปรโมชัน ชั้น 1 และ ชั้น G ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาแจ้งวัฒนะ ภายในงานประกอบด้วยนิทรรศการชุดผ้าไหมกว่า 70 ชุดออกแบบโดยดีไซน์เนอร์กว่า 35 ประเทศ และนิทรรศการให้ความรู้ เกี่ยวกับวิถีการทอผ้าไหม อีกทั้ง ยังมีการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดเสื้อผ้าออกแบบโดยดีไซน์เนอร์นานาชาติวันละ 2 รอบโชว์ และบูธแสดงและ จําหน่ายสินค้าชั้นนําจากเกษตรกร กลุ่มผู้ทอผ้าไหมและผู้ประกอบการผ้าไหม 50 บูธ และกิจกรรมส่งเสริม การขาย เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้ทราบถึงคุณค่าและ ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของผ้าไหมไทย (Thai silk)และเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร กลุ่มผู้ทอผ้าไหม และผู้ประกอบการผ้าไหม โดยการเพิ่มช่องทางการจําหน่ายผ้าไหมให้มากขึ้น ภายหลังสถานการณ์การ ระบาดของโควิด-19

 

และอีกงานกับโครงการ “ท่องเที่ยว ไหมไทย สร้างสรรค์ชุมชน สู่เส้นทางโลก”(Creative Local Silk Tourism for the World) จัดในวันที่ 22-23 ก.ย.นี้

 

รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน : ชวนร่วมงานมหกรรมผ

 
ปัจจุบันมีหมู่บ้านที่เลี้ยงหม่อนไหมกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่ละหมู่บ้านได้สืบทอดและอนุรักษ์ภูมิปัญญาการเลี้ยงไหมและทอผ้าไว้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกประเภทหนึ่งที่ควรได้รับการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้คนไทยได้ไปท่องเที่ยว เพื่อสืบสานภูมิปัญญา คุณค่า เอกลักษณ์ของผ้าไหมไทยให้คงอยู่ และเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปี หลวง ในการส่งเสริมและสนับสนุนไหมไทยให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทย รวมทั้งเพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการผ้าไหมและการขยายโอกาสทางการค้า จึงมีแนวคิดจัดงานเพื่อนําเสนอสินค้าที่ดีมีคุณภาพจากเกษตรกรเพื่อ เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ประกอบการธุรกิจสิ่งทอ และดีไซน์เนอร์ต่างชาติ ได้รู้จักผ้าไหมไทยและวัฒนธรรมไทยมากยิ่งขึ้น และต้องการให้สินค้าจากเกษตรกรไม่ใช่แค่รู้จักภายในประเทศเท่านั้น เพื่อให้ผ้าไหมไทยเป็นที่รู้จักสู่ตลาดสากลให้ผู้ประกอบการธุรกิจสิ่งทอต่างชาติสั่งซื้อผ้าไหมไทยเป็นวัตถุดิบ เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกรหลังวิกฤตเศรษฐกิจและการระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า (Covid-19)
 
การท่องเที่ยงแห่งประเทศไทย กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับมูลนิธิช่วยเหลือนักท่องเที่ยว กําหนดจัดโครงการ “ท่องเที่ยว ไหมไทย สร้างสรรค์ชุมชน สู่เส้นทางโลก”(Creative Local Silk Tourism for the World) จัดในวันที่ 22-23 กันยายน 2563 ณ ชั้น G ลานเมือง 1 และ ลานเมือง 2 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและผู้ประกอบการผ้าไหมทั่วประเทศได้นําสินค้ามาจําหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหมู่บ้านผ้าไหมไทยทั่วประเทศร่วมถึงสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ภายในงานประกอบด้วย จอ LED จํานวน 16 จอ เพื่อฉายวีดีทัศน์ของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆของประเทศไทย 4 ภาคและเป็ นครั้งแรกที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้วีดีทัศน์ส่งเสริมการท่องเที่ยวแสดงแสงสีเสียงบนจอ LED , สื่อดิจิตอลเพื่อส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เช่น Google map และ QR Code เมื่อสแกนจะพบเส้นทางคมนาคมไปถึงหมู่บ้านผ้าไหมต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจเดินทางไปจังหวัดต่างๆได้สะดวก, การสัมภาษณ์ชาวเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและให้ชมบริเวณผลิตผ้าไหมและบรรยากาศหมู่บ้านผ้าไหมจังหวัดต่างๆ , บูธแสดงสินค้าไม่ตํ่ากว่า 30 บูธ จาก 4 ภาคของประเทศไทยที่มีหมู่บ้านผ้าไหม เพื่อให้ชุมชนนําสินค้ามาจัดแสดงและจําหน่ายภายในงาน ,จัดแฟชั่นโชว์โดยนางแบบชั้นนํานานาชาติเพื่อดึงดูดให้คนมาชมงานและจับจ่ายใช้สอยสินค้าภายในงาน โดยจะจัดแฟชั่นโชว์ทุกวันๆละ 2 รอบ และจัดนิทรรศการชุดเสื้อผ้าที่ตัดเย็บโดยดีไซน์เนอร์ต่างชาติไม่ตํ่ากว่า 30 ประเทศ
 
การจัดงานในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสู่หมู่บ้านผ้าไหมทั่วประเทศเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร ผู้ผลิตผ้าไหม ผู้ประกอบการผ้าไหมและชุมชนให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นหลังวิกฤตเศรษฐกิจและการระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า (Covid-19 )
 
ชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/r9zvURCjFdM

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รอดไปด้วยกันเศรษฐกิจชาวบ้าน EP.69 (7 มกราคม 2564)
3,620 ครั้ง
รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน
08 ม.ค. 2564
"รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน" EP.67 (5 มกราคม 2564)
762 ครั้ง
รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน
06 ม.ค. 2564
"รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน" EP.60 (17 ธันวาคม 2563)
975 ครั้ง
รอดไปด้วยกัน เศรษฐกิจชาวบ้าน
18 ธ.ค. 2563