จากกรณี น้องการ์ตูน ที่เคยตกเป็นข่าวแอบอ้างเอาชุดพยาบาลมาสวมใส่ ทั้งที่ไม่ได้เป็นพยาบาล แถมออกลีลาใส่เครื่องแบบพยาบาลเต้นโชว์ใน TikTok ก่อนที่จะมีคนออกมาแฉว่า เธอไปหลอกแต่งงานกับคนในเครื่องแบบ จนเป็นข่าวดังเมื่อหลายเดือนก่อน
ผ่านมาไม่กี่เดือน ข่าวฉาวมาอีกรอบ เมื่อมีหญิงสายรายหนึ่งโพสต์แฉว่าถูกสามีบอกเลิก หลังจากที่เพิ่งคลอดลูกได้ไม่นาน ด้วยความสงสัยจึงได้สืบหาสาเหตุพบว่า สามีติดพันกับการ์ตูน พยาบาลเก๊รายนี้ ทำให้ชื่อของการ์ตูนกลับมาดังอีกครั้ง และทำให้หลายคนอยากรู้ว่าในฐานะเมียหลวงจะจัดการเมียน้อยและสามีได้อย่างไรบ้าง
วันนี้เราลองมาคุยเรื่องนี้กัน เพราะเรื่องแบบนี้ต้องยอมรับว่า หลายบ้านต้องเจอ และที่สำคัญ คุณจะยังพอมีเงินสักก้อนหนึ่งไว้คอยดูแลลูกน้อยของคุณด้วย
ก่อนอื่น มาดูกันว่าถ้าเราเป็นเมียหลวง เรามีสิทธิฟ้องใครได้บ้าง
1.ฟ้องเมียน้อยฐานเป็นชู้ ต่อศาล เรียกเงินค่าทดแทนจากเมียน้อยได้
2.ฟ้องสามี ให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรจนถึงช่วงบรรลุนิติภาวะ
3.ฟ้องสามี ให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเรา ในกรณีที่เราไม่มีรายได้หรือไม่มีงานทำ
4.ร้องเรียนที่ทำงานของเมียน้อยและสามี ซึ่งบางที่ถือว่าเป็นโทษร้ายแรงอาจถึงขั้นไล่ออก แต่ก็ต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่าถ้าสามีเราถูกไล่ออก แล้วจะมีรายได้มาเลี้ยงดูคุณหรือลูกได้หรือไม่
ในส่วนของการฟ้องร้องเมียน้อยนั้น สิ่งสำคัญคือเมียหลวงต้องมีทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นเครื่องยืนยัน ถ้าใครไม่มีก็หมดสิทธิ์ฟ้อง ส่วนหลักฐานอื่นๆที่เราจะใช้ฟ้องมีอะไรบ้าง ก็เช่น
1. ชื่อจริงนามสกุลจริงของเมียน้อย ถ้าแค่ชื่อเล่น ชื่อเฟซบุ๊ก อันนี้ฟ้องไม่ได้
2. ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ หรือการส่งข้อความแชทหากันของสามีเรากับเมียน้อย
3. รายการเคลื่อนไหวทางบัญชี เพื่อใช้ยืนยันว่าฝ่ายชายมีการโอนเงินให้ใช้ และอุปการะเลี้ยงดูกัน
4. ภาพถ่ายทางสื่อโซเชียล ภาพแอบถ่ายโดยนักสืบ หรือภาพกล้องวงจรปิด ที่แสดงให้เห็นว่าหญิงชู้อยู่กับสามีเรา
5. หลักฐานหรือพยานที่แสดงให้เห็นว่า เมียน้อยรู้ดีว่าฝ่ายชายมีภรรยาแล้ว แต่ก็ยังเข้ามายุ่ง
6. หลักฐานการเข้าพักตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วยกัน เช่น การเช็คอินตามโรงแรมหรือที่เที่ยว แล้วโพสต์เฟซบุ๊ก ไอจี หรือหลักฐานทางบัตรเครดิต
7. หลักฐานการซื้อทรัพย์สินให้แก่กัน เช่น บ้าน รถ คอนโด เสื้อผ้า กระเป๋าแบรนด์เนม เป็นต้น
8. สูติบัตรหรือทะเบียนบ้านของเด็กที่เกิดจากสามีเรากับเมียน้อย
เมื่อรวบรวมหลักฐานทั้งหมดได้แล้ว ก็ทำการยื่นฟ้อง โดยต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่ที่รู้ว่าเป็นชู้กัน ถ้าปล่อยปละละเลยเกิน 1 ปี จะถือว่าไม่ติดใจในการที่จะดำเนินคดี
เมื่อฟ้องแล้วก็จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี ในการเรียกค่าเสียหาย หรือที่เรียกว่าค่าสินไหมทดแทน ซึ่งจำนวนเงินที่จะฟ้องก็ขึ้นอยู่กับฝั่งเมียหลวง ตามกฎหมายแล้วไม่ได้ระบุแบบเป๊ะๆ แต่จะดูกันตามความเหมาะสม หน้าตาทางสังคม หน้าที่การงาน
โดยปกติคนธรรมดา ก็อาจจะได้ค่าเสียหายประมาณ 200,000-500,000 บาท แต่ถ้าเป็นดารา คนมีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักของสังคม ก็ยิ่งเรียกค่าเสียหายได้สูงกันเป็นหลักล้าน แต่สุดท้ายจะได้เงินตามที่เรียกไหมนั้น ก็ต้องแล้วแต่ดุลยพินิจของศาล
แล้วถ้าเมียหลวงฟ้องชนะ เงินที่ได้จะเอาไปทำอะไรได้บ้างล่ะ? โดยทั่วไปแล้วจะได้อยู่หลักแสน ก็เหมือนเป็นการทวงศักดิ์ศรีของเราคืน เพราะเงินที่เมียน้อยเคยใช้จ่ายอยู่ก็เป็นเงินของสามีเรา ซึ่งควรจะเป็นเงินที่ใช้เลี้ยงดูเมียหลวงและลูก แต่ในเมื่อสามีเอาไปเลี้ยงดูคนอื่น ก็เป็นสิทธิของเมียหลวงที่จะเรียกคืนมา ทั้งค่าเลี้ยงดู ค่ากินค่าอยู่ ยิ่งถ้ามีลูกก็จะได้ค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษ เป็นต้น
เพิ่มเติม : แต่ถ้าเมียน้อยไม่ได้ทำมาหากินอะไร ไม่มีบ้าน มีรถให้ยึด เราฟ้องไปก็อาจไม่ได้อะไร แต่จะได้ความสะใจ เพื่อเป็นการประกาศให้โลกรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือเมียน้อย เมื่อมีหมายศาลไปติดหน้าบ้าน พ่อแม่ญาติพี่น้องรู้เรื่อง เพื่อนที่ทำงานรู้ โลกโซเชียลรู้ กลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน
และย้อนกลับมาที่ตัวคุณเอง ต้องถามตัวเองให้ดีว่าพร้อมที่จะเอาเรื่องในบ้านไปให้คนอื่นได้รับรู้ไหม พร้อมที่จะสาวไส้ สาดโคลน งัดหลักฐานมาสู้กัน ตีแผ่ให้คนรอบข้างรู้ ทนายรู้ ศาลรู้หรือเปล่า ถ้าไม่พร้อมก็ต้องหย่าเงียบๆ ตกลงค่าเลี้ยงดูกันไป แต่ถ้าพร้อมเพราะความคับแค้นใจ มองว่าไม่มีอะไรจะเสีย ก็เป็นสิทธิ์ที่คุณจะกระทำได้