มนุษย์เงินเดือนหรือผู้มีรายได้ท่านใดยังไม่ยื่นเสียภาษีต้องรีบแล้ว เพราะจะครบกำหนดที่กรมสรรพากรประกาศไว้ภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และภาษีเงินได้นิติบุคคล
ซึ่งนี่เป็นการขยายเวลา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้เสียภาษีที่ต้องประสบวิกฤตโควิด-19 เพื่อให้รักษาสภาพคล่อง จากเดิมสิ้นสุดในเดือน มี.ค. แต่ปีนี้ได้ขยายมาเป็นส.ค. ซึ่งสามารถยื่นได้ทั้งแบบเอกสารและยื่นออนไลน์
ผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากร rd.go.th ที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ซึ่งเมื่อเรากรอกรายละเอียดรายได้และการลดหย่อนต่างๆแล้ว ระบบจะคำนวณภาษีที่จะต้องชำระเพิ่ม หรือยอดที่ต้องได้คืนหากชำระเกิน ถ้าเราผูกกับระบบพร้อมเพย์จะได้ภาษีคืนเร็วกว่า
ภาษีเงินได้ส่วนบุคคล มีด้วยกัน 2 แบบ คือ
- ภ.ง.ด.90 ผู้ที่มีเงินได้นอกเหนือจากค่าจ้าง เช่น ค่าลิขสิทธิ์, ดอกเบี้ย, เงินปันผล, ค่าเช่าบ้าน, ค่าคอมมิชชั่น หรือทำธุรกิจส่วนตัว ฯลฯ
- ภ.ง.ด.91 มนุษย์เงินเดือนโดยทั่วไป ที่มีรายได้ทางเดียวจากการจ้างงาน เช่น เงินเดือน, โบนัส, ค่าโอที, เบี้ยเลี้ยง
สำหรับใครที่มีเงินเดือนสูง หรือรายได้เยอะก็ต้องเสียภาษีมากขึ้น ทำให้เราต้องวางแผนลดหย่อนภาษี ลองมาดูกันคร่าวๆว่าสิทธิในการลดหย่อนภาษีมีอะไรกันบ้าง แบ่งเป็นกลุ่มๆดังนี้
- กลุ่มสิทธิค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว สำหรับบุคคลที่มีบุตร, คู่สมรส, ผู้ต้องดูแลพ่อแม่อายุ 60 ปีขึ้นไป, ดูแลผู้พิการ, ค่าฝากครรภ์คลอดบุตร
- กลุ่มประกัน เงินออมและการลงทุน เช่น ประกันสังคม, ประกันชีวิต, ประกันสุขภาพ, เบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุน LTF และ RMF เป็นต้น
- กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ดอกเบี้ยจากเงินกู้ซื้อบ้าน คอนโด และการซื้อบ้านหลังแรก
-กลุ่มเงินบริจาค เช่น เงินสนับสนุนการการศึกษา, บริจาคโรงพยาบาล, บริจาคเพื่อสาธารณะ และบริจาคให้พรรคการเมือง
-กลุ่มตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ เช่น ช็อปช่วยชาติ, เที่ยวเมืองรอง, ซื้อสินค้า OTOP, ค่าเสียหายจากภัยพิบัติ
ซึ่งหากใครมีข้อสงสัยในการยื่นภาษี ก็สามารถสอบถามไปที่สายด่วนของกรมสรรพากร 1161