ครอบครัวตัญกาญจน์แถลงสัสดีเมืองชลบุรีออกหมายเรียกไปเกณฑ์ทหาร ยันสัสดีมาขอโทษแล้ว ไม่มีเจตนาตอกย้ำความเจ็บปวด แต่ผิดพลาดทางข้อมูลระหว่างพลเรือนกับทหาร
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 18 สิงหาคม ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ครอบครัว "ตัญกาญจน์" นางสุกัญญา น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พ่อแม่และพี่สาวของนายภคพงษ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย ที่เสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 หลังได้กลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ เพียงแค่ 1 วัน ด้านทางครอบครัวติดใจหลังแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ชันสูตรพลิกศพ พร้อมระบุในใบรับรองการเสียชีวิตว่า เกิดจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน นอกจากนี้ยังพบว่าอวัยวะภายในหายไปทั้งหมด แต่คดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ล่าสุดสัสดีอำเภอเมืองชลบุรี ได้มีจดหมายเรื่องทหารกองเกินไม่มาแสดงตน เพื่อรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร ประจำปี 2563 ถึง นายภคพงษ์ ตัญกาญจน์ ลงวันที่ 11 สิงหาคม 2563 พร้อมทั้งระบุว่า "ท่านเป็นบุคคลหนึ่งที่ไม่ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร โดยไม่ปฏิบัติตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พุทธศักราช 2497 จึงให้ไปแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่สัสดีอำเภอเมืองชลบุรี ณ ที่ทำการสัสดีอำเภอเมืองชลบุรี ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เพื่อชี้แจงเหตุผลที่ท่านไม่ปฏิบัติตามหน้าที่กฎหมายกำหนดไว้ และเมื่อพ้นเวลาดังกล่าวแล้ว ท่านจะถูกดำเนินคดีอาญาตามความผิดฐานหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่มาแสดงตน เพื่อรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร ตามมาตรา 44 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 300 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ลงชื่อ พันโท ประครอง วงศ์ใหญ่ สัสดีอำเภอเมืองชลบุรี ทำให้ครอบครัวของน้องเมยต้องออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้
น.ส.สุพิชา พี่สาวน้องเมยกล่าวว่า ในวันนี้ทางด้านสัสดีอำเภอเมืองชลบุรี และสัสดีจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางมาขอโทษครอบครัวเรียบร้อยแล้ว ตนเองคิดว่าเป็นเรื่องของความผิดพลาดมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามตนเองยังสงสัยในเรื่องของระบบสารสนเทศจึงได้สอบถามไป และได้รับคำตอบว่าระบบของพลเรือนกับทหารยังไม่ประสานงานกัน ก็งงเหมือนกับน้องชายเสียชีวิตไปแล้ว 3 ปี ยังไม่มีการรายงาน ซึ่งตนเห็นว่ากองทัพน่าจะเอางบประมาณไปพัฒนาเรื่องการสื่อสารและเทคโนโลยีจะดีกว่าเอาไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ จะได้มีการพัฒนาไปมากกว่านี้ เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นตลกร้ายจริงๆ
น.ส.สุพิชากล่าวถึงความคืบหน้าของคดีน้องเมยว่า มีทั้งหมด 3 คดียกฟ้องไป 1 คดี ส่วนคดีที่เหลือทั้งหมดเงียบ ส่วนตนเองได้ไปแจ้งความที่ สน.พญาไท แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะมีผลต่อรูปคดี โดยจะเกี่ยวข้องกับน้องเมยทั้งหมด หลังจากนั้นจะนำเรื่องไปร้องเรียนยังกรรมาธิการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง
นับตั้งแต่น้องเมยเสียชีวิตนั้นทางกองทัพได้มอบเงินมาให้ 1 แสนบาท ยังฝากไว้ ไม่ได้นำมาใช้แต่อย่างใด ส่วนเงินที่จะได้ชดเชยนับล้านบาทนั้นไม่มี" น.ส.สุพิชากล่าวและว่า สำหรับชีวิตทุกวันนี้หลังจากว่าความคดีต่างๆแล้ว และมาช่วยครอบครัวทำขนมไทยออกขาย เพื่อหาเงินสู้คดีกับต่อไป
ทางด้านนายพิเชษฐ์กล่าวว่า รับหนังสือสัสดีแล้วเห็นว่าตลกดี หน่วยงานราชการไม่ประสานงานกันหรืออย่างไร ส่วนน้องเนยเสียชีวิตมาแล้ว 3 ปี ทุกวันนี้ยังเจ็บลึกๆ ในใจ
ทางด้านพันเอกวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกออกมาขออภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ไปกระทบกับความรู้สึกของครอบครัว พร้อมกับชี้แจงว่าข้อมูลทะเบียนราษฎร์กับทะเบียนทหารไม่เชื่อมโยงกัน กองทัพอยู่ระหว่างการนำข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปพิจารณาแก้ไข
+ อ่านเพิ่มเติม