ตอนนี้สังคมไทย กำลังตั้งคำถามถึงความเหมาะสมเกี่ยวกับกรณีที่มีกลุ่มคนหัวใสเปิดทัวร์ “บ้านกกกอก” ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เพื่อไปให้กำลังใจนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ลุงของน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่เสียชีวิตปริศนา ซึ่งจนป่านนี้ก็ยังไม่สามารถปิดคดีได้
โดยทัวร์บ้านกกกอกที่มีการขายให้กับคนทั่วไปนั้น ได้ระบุแพคเกจว่า จะพาไปเยี่ยมให้กำลังใจลุงพล โดยมีค่าใช้จ่ายคนละ 1,300 บาท พร้อมกางเต็นท์บ้านลุงพล อาหาร 3 มื้อ พาชมสถานที่ภูเขาน้องชมพู่ ที่ภูเหล็กไฟ ขูดหาเลขเด็ดบนเขา 10 ที่นั่ง
นอกจากนี้ยังมีทัวร์ 3 วัน 4 คืน 3,900 บาท/ท่าน ไปชมเจ้าปลาส้ม พักบ้านลุงพล ผูกข้อไม้ข้อมือด้วยสายสิญจน์ ซึ่งเจ้าของทัวร์เขายังบอกอีกด้วยนะครับว่า คุณสามารถสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จากกรณีนี้ เรามาดูอัตราการเติบโตของการท่องเที่ยวในจังหวัดมุดาหาร ภายหลังจากที่กระแสลุงพล กระแสบ้านกกกอกดังเปรี้ยงปร้างในเวลานี้ มันเติบโตขึ้นมากน้อยอย่างไรบ้าง
โดยคุณเยาวลักษณ์ ตั้งประกิจ นายกสมาคมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร บอกกับทีมงานของเราว่า จากคดีของน้องชมพู่ ทำให้อัตราการเติบโตการท่องเที่ยวภายในจังหวัดมุกดาหารเติบโตขึ้นจริงๆ ซึ่งตลอดในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีการจัดทัวร์ท่องเที่ยว 3-5 วันมาทัวร์จังหวัดมุกดาหารมากขึ้น โดยคิดเป็นอัตราเติบโตในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ราว 20-30% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน
โดยภาคธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดมุกดาหาร ได้รับอานิสงค์อย่างเห็นได้ชัด โดยมียอดจองห้องพักสูงขึ้น และมีผู้เดินทางมาท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ หนาตา และพบว่า มีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศในประเทศไทย ซึ่งไกลสุดมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางมาใช้เวลา 23 ชั่วโมง
โดยปกติแล้ว หากคุณมีแผนที่จะเดินทางไปเที่ยวภาคอีสาน เชื่อว่า มุกดาหารยังไม่ใช่ปลายทางของการท่องเที่ยว เพราะอาจจะคิดถึงขอนแก่น อุบลราชธานี หรือแม้แต่นครพนมก่อน เพราะเราไม่ค่อยทราบกันว่า สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดมุกดาหารมีที่ใดที่น่าสนใจบ้าง
โดยคุณเยาวลักษณ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดมุกดาหาร ได้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์ เพราะนอกจากบ้านกกกอกแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นที่ควรค่าแก่การเดินทางไปท่องเที่ยวอีก
สถานที่แรกได้แก่ “วัดภูมโนรมย์” ทำเลที่ตั้งของวัดอยู่บนยอดเขาภูมโนรมย์ จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดมุกดาหาร ถ้าคุณเดินทางไปที่นี่ คุณจะสามารถมองเห็นทั้งวิวแม่น้ำโขง ตัวเมืองมุกดาหาร ไกลไปจนถึงแขวงสะหวันนะเขต ฝั่งสปป.ลาวเลยทีเดียว
ขณะที่ภายในวัด มีรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่สวยงามอลังการ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ของมุกดาหาร ซึ่งเคยมีคนมาสักการะองค์ปู่พญานาคที่นี่ จนถูกหวยรางวัลที่ 1 มาแล้ว
สถานที่แห่งที่สองที่เราจะแนะนำก็คือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว 2 มีความยาวทั้งหมด 1,600 เมตร และมีช่องการจราจร 2 ช่องทาง บริเวณด้านล่างสะพานมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นสะพาน โดยเฉพาะตอนช่วงเวลาเย็นๆ ก็จะมีร้านอาหารแบบรถเข็นเรียงรายอยู่บริเวณทางเดินเลียบน้ำโขง ไม่ว่าจะเป็นร้านหมูกระทะ หมูจุ่ม ส้มตำ ยำ ให้เลือกทานหลายร้าน ทั้งที่เป็นที่นั่งเป็นแบบโต๊ะนั่งญี่ปุ่นริมโขง มองเห็นวิวสะพานในยามค่ำคืนชิวๆ ยิ่งมาเที่ยวช่วงฤดูหนาวลมจะแรง อากาศเย็นสุดๆ
นอกจากนี้ ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แก่งกะเบา แก่งหินและโขดหินที่ผ่านการกัดเซาะของแม่น้ำโขงจนเกิดหินรูปร่างต่างๆ บางจุดเหมือนถ้ำใต้น้ำ บางจุดเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือภูผาเทิบก็โด่งดังไม่แพ้กัน ไฮไลท์ คือ ประติมากรรมกลุ่มหิน ที่ประกอบด้วยหินรูปร่างลักษณะต่างๆ วางซ้อนกันอย่างวิจิตรพิสดาร