สรุปปมวุ่น 2 หนุ่มใจกล้า ชูป้ายไล่นายกฯ เจอล็อกคอ รวบขึ้นรถ เหตุหวั่น ‘บิ๊กตู่’ ติดโควิด ตร.ฮึ่มเอาแน่
logo TERO HOT SCOOP

สรุปปมวุ่น 2 หนุ่มใจกล้า ชูป้ายไล่นายกฯ เจอล็อกคอ รวบขึ้นรถ เหตุหวั่น ‘บิ๊กตู่’ ติดโควิด ตร.ฮึ่มเอาแน่

TERO HOT SCOOP : #ตำรวจระยองอุ้มประชาชน ได้พุ่งทะยานติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารย์อย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์ จากกรณี 2 ห นายก,บิ๊กตู่,ระยอง,#ตำรวจระยองอุ้มประชาชน,หนุ่มระยอง,ทหารอียิปต์,โควิด-19,ประยุทธ,โรงแรมดีวารี,ดีวารี,ห้างแหลมทอง,ตลาดสดสตาร์,ภานุพงศ์ จาดนอก,ณัฐชนน พยัฆพันธ์

17,596 ครั้ง
|
16 ก.ค. 2563

#ตำรวจระยองอุ้มประชาชน ได้พุ่งทะยานติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดบนโลกออนไลน์ จากกรณี 2 หนุ่มชูป้ายต้อนรับนายกฯ และคณะอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ก่อนจะถูกล็อกคอหิ้วตัวขึ้นรถไปในที่สุด…

 

TERO HOT SCOOP : สรุปปมวุ่น 2 หนุ่มใจกล้า ชูป้าย

 

โดยทีมข่าวช่อง 3 ออนไลน์ได้สรุปม้วนเดียวจบ เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นการเมืองดังกล่าวในหน้าเดียว ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้น ไปดู!

 

- กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคม กรณีทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ไม่ยอมให้ตรวจเชื้อ ทั้งยังหนีออกจากที่พัก ก่อนโผล่เดินเที่ยวห้าง ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ สร้างความเดือดดาลแก่พี่น้องชาวระยองเป็นอย่างมาก

 

TERO HOT SCOOP : สรุปปมวุ่น 2 หนุ่มใจกล้า ชูป้าย

 

- 15 ก.ค. 63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนชาวระยอง ที่โรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง, ห้างแหลมทอง และตลาดสดสตาร์

 

- ขณะเดียวกัน ด้านหน้าโรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล นายภานุพงศ์ จาดนอก และนายณัฐชนน พยัฆพันธ์ สองแกนนำเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ชูป้ายต้อนรับการมาเยือนของนายกฯ อย่างดุเดือดว่า “การ์ดอย่าตกพ่...งง” และ “อยู่ต่อก็ฉิบหาย ออกไปไอ้สั...” พร้อมระบุว่า “อยากให้นายกฯ รับผิดชอบด้วยการลาออกตำแหน่ง เพราะบริหารบ้านเมืองล้มเหลว”

 

TERO HOT SCOOP : สรุปปมวุ่น 2 หนุ่มใจกล้า ชูป้าย

 

- ทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาเจรจา ซึ่งนายภานุพงศ์พยายามชี้แจงว่า “นี่คือสิทธิ์ของผม ผมไม่ได้ขวางทาง เจ้าหน้าที่บอกให้ผมขยับผมก็ขยับแล้ว และผมไม่ได้พกอาวุธใดๆ” ก่อนที่จะมีตำรวจอีกนายหนึ่งสั่งการให้นำตัวทั้ง 2 คนไปโรงพัก โดยอ้างว่าเป็นการเชิญตัว ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกล็อกคอหิ้วขึ้นรถกระบะในที่สุด

 

- นายภาณุพงษ์ อ้างว่า  “เราถูกตำรวจจับโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา แม้พยายามถามว่าเราผิดอะไร แต่ตำรวจก็อุ้มพวกเราออกไปขึ้นรถพร้อมบอกว่า "เดี๋ยวมีข้อหาให้เอง" ซึ่งรู้สึกว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ”

 

TERO HOT SCOOP : สรุปปมวุ่น 2 หนุ่มใจกล้า ชูป้าย

 

- ขณะที่ทั้ง 2 คน ถูกคุมตัวอยู่ภายในรถตำรวจ ซึ่งนายภานุพงศ์ ได้ทำการไลฟ์เฟซบุ๊กบอกว่า ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ พร้อมถามว่าจะพาเจ้าตัวไปที่ใด แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ โดยนายภานุพงศ์ กล่าวว่า “นี่เปรียบเสมือนการลักพาตัว ตำรวจกักขังหน่วงเหนี่ยวประชาชน”

 

- ต่อมา นายภานุพงศ์ และนายณัฐชนน ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่ได้รับการแจ้งข้อหาใดๆ ซึ่งทั้งคู่ได้โพสต์ภาพร่องรอยบาดแผล ที่เกิดจากการถูกล็อกตัวจากเจ้าหน้าที่ โดยมีรอยฟกช้ำ แผลถูกข่วนมีเลือดออก และรอยขีดข่วนอื่นๆ

 

TERO HOT SCOOP : สรุปปมวุ่น 2 หนุ่มใจกล้า ชูป้าย

 

- ทันทีที่ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์โจมตีการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นการทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ส่งผลให้ แฮชแท็ก #ตำรวจระยองอุ้มประชาชน ทะยานติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ทันที

 

- หลังจากที่ได้รับการปล่อยตัว วัยรุ่นทั้ง 2 พร้อม นายภีมร์เดช อมรสุคนธ์ ประธานสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก ในฐานะทนายความ ได้เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ ซึ่งปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่ สภ.เมืองระยอง

 

TERO HOT SCOOP : สรุปปมวุ่น 2 หนุ่มใจกล้า ชูป้าย

 

- โดยมีข้อหาดังนี้ 1. เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 2. กักขังหน่วงเหนี่ยวให้เสียอิสรภาพ 3. ลักพาตัว และ 4. ทำร้ายร่างกาย

 

- ต่อมา พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เจ้าหน้าที่อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ซึ่งมีคำสั่งให้บุคคลทั้ง 2 ออกไปจากบริเวณดังกล่าว เพื่อรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญและเป็นการเสี่ยงต่อโรคติดต่อ

 

TERO HOT SCOOP : สรุปปมวุ่น 2 หนุ่มใจกล้า ชูป้าย

 

- แต่ทั้ง 2 ไม่ให้ความร่วมมือและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ เจ้าพนักงานควบคุมโรคฯ กระทั่งมีการใช้กำลังในการควบคุมให้ออกนอกบริเวณดังกล่าว ซึ่งมีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ก่อนที่จะสามารถควบคุมบุคคลทั้ง 2 ขึ้นรถยนต์ เดินทางมาถึงหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.ระยอง

 

- ในส่วนการกระทำของบุคคลทั้งสอง ซึ่งถือเป็นความผิดซึ่งหน้าตั้งแต่ที่ได้มีการควบคุมตัวเพื่อมาดำเนินคดี ภายหลังจากหลบหนีการควบคุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีวัยรุ่นทั้ง 2 ในความผิดฐานทำกิจกรรม ที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรค, ฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ที่ห้ามกระทำการใดๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะฯ, หลบหนีไประหว่างที่ควบคุมของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนสอบสวน.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง